บทที่สอง.2

924 คำ
เวลาสองทุ่มตรง ป้าแววที่กำลังเก็บของอยู่ในครัวโดยมีน้ำหวานคอยเป็นลูกมือ ได้ยินเสียงรถยนต์ของแขกเจ้าของบ้านขับออกไปจึงเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังห้องครัวแล้วย่นคิ้วอย่างประหลาดใจ “ แปลก ทำไมวันนี้คุณไอรีนเธอกลับเร็ว ” “ ปกติเธอกลับดึกหรือจ๊ะป้า ” น้ำหวานอดสงสัยไม่ได้ “ แรก ๆ ก็กลับดึกนะ แต่ช่วงพักหลังมานี้ทุกครั้งที่มาเธอจะค้างคืนตลอด ช่างเถอะ เราไปเก็บโต๊ะทำความสะอาดกันดีกว่า ” ป้าแววเดินนำน้ำหวานมายังโต๊ะอาหาร พบเหมราชนั่งรออยู่ เขามองมายังน้ำหวานก่อนลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยปาก “ น้ำหวาน ตามฉันมาที่ห้องหนังสือ ” พูดจบเขาก็เดินขึ้นบันไดไป น้ำหวานมองตามร่างสูงใหญ่ก่อนหันมาหาป้าแวว ผู้เป็นป้าพยักหน้าให้ “ รีบไปเถอะ อย่าให้คุณเหมต้องรอ เดี๋ยวป้าเก็บเอง ” “ จ้ะป้า ” น้ำหวานเดินตามเขาขึ้นมาชั้นสอง เหมราชรอเธออยู่หน้าประตู เขาผายมือให้เธอเข้าไปในห้อง “ เข้ามาสิ โน้ตบุ๊กที่ฉันสั่งมาให้วางอยู่บนโต๊ะหนังสือ เธอลองดูว่าชอบไหม ” “ เอ่อ ให้หนูไปนั่งตรงนั้นเลยเหรอคะ ” เธอถามให้แน่ใจกลัวเสียมารยาท เขายิ้มบาง ๆ แล้วบอกว่า “ ได้สิ โต๊ะหนังสือฉัน ฉันอนุญาตแล้ว ” เธอยกมือไหว้ก่อนเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะเปิดโน้ตบุ๊ก ลองเข้าโปรแกรมที่คุ้นเคยและต้องใช้บ่อย ๆ พบว่าครบถ้วนที่เธอจำเป็นต้องใช้ในการเรียน กลีบปากอวบอิ่มจิ้มลิ้มยกยิ้มด้วยความดีใจ เหมราชเห็นเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เขาก็อดยิ้มตามไม่ได้ “ โอเคไหม ” “ ดีมากและสวยมากค่ะ เครื่องเร็วมากด้วยค่ะ ขอบพระคุณคุณเหมมาก ๆ นะคะ หนูจะใช้อย่างระมัดระวังและรักษาอย่างดีเลยค่ะ ” “ เธอชอบก็ดีแล้ว ว่าแต่ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม ” “ ก็โอเคค่ะ ” “ เพื่อน ๆ เป็นไง มีเพื่อนสนิทบ้างไหม ” “ มีสิคะ หนูก็มีคนคบนะคะ ” เธอเผลอตอบติดตลกออกไปแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรออกไปเหมือนเป็นการปีนเกลียวเลยหน้าเจื่อน รีบยกมือขอโทษเขา “ หนูขอโทษที่เผลอพูดจาไม่ระวังค่ะ ” “ ขอโทษทำไม ไม่เห็นต้องขอโทษ ” เขายิ้มบางก่อนเอ่ยต่อ “ ไหนลองเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฉันฟังหน่อยสิ เพื่อนเป็นยังไง อาหารเป็นยังไง ครูเป็นยังไงบ้าง ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขาพาให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงมาก คุณเหมไม่ได้ดุอย่างที่เธอคิดมาตลอดเธอจึงเริ่มเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้เขาฟังอย่างออกรส แววตาเป็นประกายกับรอยยิ้มขณะเล่าเรื่องสนุก หน้าบึ้งบ้างเวลาเอ่ยถึงเรื่องไม่ถูกใจ น้ำเสียงสดใสมันดูมีชีวิตชีวาพาให้เขานั่งฟังไม่รู้เบื่อและเผลอหัวเราะตามออกมาบ้าง มันทำให้หน้าหล่อ ๆ แต่ดุดันของเขานั้นน่ามองขึ้นเป็นกองเลย น้ำหวานเผลอหันไปสบตาเขาโดยบังเอิญพบว่านัยน์ตาคมเข้มนั้นจ้องมองเธออยู่ หากแววตานั้นพราวระยับแปลก ๆ และมันทำให้ในอกของเธอรู้สึกวูบวาบจนต้องรีบหลบสายตานั้น “ อ้าวทำไมไม่เล่าต่อล่ะ ” เขาถามเพราะจู่ ๆ เธอก็เงียบไป “ เอ่อหนูขอโทษนะคะ เผลอพูดมากไปหน่อย ” “ ไม่หรอก ฉันกำลังฟังเพลินเลย ว่าแต่เธอชอบดูหนังไหม ” “ ชอบค่ะ ” “ ชอบหนังแนวไหน ” “ หนูชอบดูหนังผีค่ะคุณเหม แต่ก็กลัวผีมากค่ะ ” เธอหัวเราะ เขาก็หัวเราะตามพร้อมส่ายศีรษะอย่างเอ็นดู เขาหยิบปากกาพร้อมกระดาษโน้ตมาจดบางสิ่งยื่นให้เธอ “ นี่รหัสเน็ตฟลิก กลางคืนเธอจะได้เข้าไปดูอะไรในนั้นได้ไม่เบื่อ ” “ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะคุณเหม ” เธอยิ้มกว้างเผลอมองหน้าเขาที่กำลังยกยิ้มบาง ๆ มองเธออยู่ก่อน หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นรัวขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าก่อนรีบละสายตาจากเขา “ หนูขอตัวตัวกลับก่อนนะคะคุณเหม เดี๋ยวป้าดุเอา ” เขาพยักหน้ารับ เธอรีบลุกขึ้นยืนยกมือไหว้และตั้งท่าจะรีบเดินออก หากเสียงทุ้มเรียกเอาไว้ “ เดี๋ยวน้ำหวาน ” “ คะคุณเหม ” “ เธอลืมโน้ตบุ๊ก ” เธอรู้สึกเงอะงะมือไม้เกะกะขึ้นมากะทันหัน รีบหันกลับมาหยิบโน้ตบุ๊กแล้วงึมงำพูดโดยไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ “ ขอบคุณค่ะ ” “ ฝันดีนะ ” เสียงทุ้มนั้นเอ่ยส่งท้าย น้ำหวานไม่ได้ตอบกลับด้วยซ้ำหากรู้สึกร้อนผ่าวไปหมดทั้งใบหน้าและเนื้อตัว รีบจ้ำอ้าวเดินออกมาจากตรงนั้นเพราะกลัวจะเผลอทำอะไรน่าอาย หรือไม่ก็คุณเหมอาจจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงราวกับลั่นกลองรบ แต่สายไปเสียแล้ว เหมราชเห็นและรู้ทุกอย่างว่าปฏิกิริยาของเด็กสาวที่มีต่อเขานั่นคืออาการประหม่าเขินอาย ซึ่งนั่นแปลว่าเธอเองมีความรู้สึกต่อเขามากเกินกว่าเด็กที่มีต่อผู้ใหญ่ที่เคารพ มุมปากได้รูปของบุรุษยกยิ้ม นัยน์ตาดำขลับส่องประกายวาววับบางอย่างที่ยากจะคาดเดา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม