Chapter 10

3823 คำ
Traf says: “เฟ มาได้ไง” ผมลุกขึ้นยืนเต็มตัว เฟมองมาที่ผมและก้มมองเค้กที่นั่งบนเก้าอี้อุ้มลูกหมาอยู่ ด้านหลังเฟคือไอ้สองที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับ “พอดีเฟแวะเข้าไปที่บ้านทราฟกะว่าจะชวนมาซื้อของมาแต่ไปแล้วไม่เจอ สองบอกว่าทราฟออกไปข้างนอก เฟเลยชวนสองมาซื้อของแทน แล้วทราฟล่ะมาทำอะไรเหรอ” เฟเดินเข้ามาดูลูกหมาตัวเล็กๆ จับเล่นเล็กน้อยแล้วก็ยิ้มออกมา เฟก็เป็นอีกคนที่ชอบหมา “พาเค้กมาซื้อลูกหมาน่ะ น้องอยากเลี้ยง” ผมตอบ หันไปมองเค้กที่นั่งเล่นลูกหมาอยู่กับไอ้สอง ผมเลยเดินไปหาเฟ “เลี้ยงหมาเนี่ยนะ เค้กเลี้ยงได้เหรอ ทราฟบอกเฟเองนี่ว่าเค้กอยู่หอพัก เขาไม่ให้เลี้ยงนิ แล้วน้องยังมองไม่เห็นอีก” เฟหันมาถามผมขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ “ก็เลี้ยงที่บ้านทราฟ เวลาเค้กมาก็จะได้มาเล่นกับลูกหมาแก้เหงา” เฟตวัดสายตาจ้องผมเหมือนไม่เชื่อในคำพูดของผมเท่าไหร่นัก ทำไม ผมพูดอะไรผิดเหรอ “ทำไมทำหน้างั้นล่ะเฟ” “แค่แปลกใจ ก่อนหน้านั้นเฟบอกให้ทราฟเลี้ยงหมา ทราฟบอกว่าไม่ชอบเพราะยุ่งยาก แต่คราวนี้กลับอยากเลี้ยง” คำพูดของเฟทำให้ผมนิ่งไป จริงที่ก่อนหน้านี้ผมไม่อยากเลี้ยงเพราะไม่มีเวลาดูแล และผมไม่ใช่คนที่จะมาใส่ใจกับสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่นัก เลยไม่อยากจะเลี้ยง แต่คราวนี้มันต่างออกไป “ไม่มีอะไรหรอก” ผมบอกปัดไป มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย อยากเลี้ยงไม่อยากเลี้ยงไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไรตรงไหน แค่เมื่อก่อนไม่อยากเลี้ยงไม่ได้หมายความว่าตอนนี้ผมจะเลี้ยงไม่ได้นี่น่า “เพราะเค้กเหรอ” เฟถามผมสีหน้าไม่ดีเท่าที่ควรนัก “ทำไม เกี่ยวอะไรกับเค้ก” ผมถามกลับ ไม่ชอบใจที่เฟทำสีหน้าแบบนี้ เหมือนกำลังกล่าวโทษผม แล้วผมทำอะไรผิดล่ะ “ก็ที่ทราฟอยากซื้อหมาไปเลี้ยงก็เพราะเค้กใช่ไหมล่ะ” ผมไม่อยากจะคิดว่าเฟหึงผมกับเค้กหรอกนะ แต่ไอ้เรื่องที่ว่าผู้หญิงมักคิดมากข้อนี้ผมเข้าใจดี “นั่นก็ส่วนหนึ่ง เหมือนเรากำลังจะทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระนะเฟ อย่าคิดมากสิ ทราฟก็แค่พาเค้กมาซื้อลูกหมาเอง ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย” ผมบอกแล้วก็จับมือเฟมากุมไว้ เฟจ้องตาผมสักพักก่อนจะพยักหน้าและยิ้มให้ เฮ้ออออ ไม่ค่อยจะเข้าใจ แค่พาเค้กมาซื้อลูกหมาก็เกือบเป็นเรื่อง ตกลงแล้วใครผิดกันวะเรื่องนี้ “พี่ทราฟครับ เค้กเอาตัวนี้นะ เท่าไหร่เหรอ” ผมเดินเข้าหาเค้ก นั่งยองๆมองหน้าเค้กทีมองหน้าลูกหมาที หึหึ น่ารักเหมือนกันอย่างกะแกะ “ได้ครับ เดี๋ยวพี่ซื้อให้” ผมกำลังจะลุกขึ้นแต่มีมือเล็กๆคว้าแขนผมไว้ก่อน “อะไรครับเค้ก” ผมถามเค้กที่จับแขนผมอยู่ “เค้กซื้อเองนะ” “ไม่เอา พี่ซื้อให้” “เค้กอยากซื้อเอง” “พี่ก็อยากซื้อให้” “เอ๊ะ แต่น้องหมาของเค้กนะ เค้กต้องซื้อเอง” เค้กเริ่มทำเสียงแข็งขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็น ผมแอบตกใจนิดๆ แต่ก็ฉีกยิ้มอย่างพอใจ เอาแล้วววววว เด็กมันจะเริ่มดื้อแล้วเว้ย ฮ่าๆๆๆ “ได้ไง พี่พามานะพี่ต้องเป็นคนซื้อสิ” ผมแกล้งกลับ ดูสิจะทำไง “พี่ทราฟ!” นั่นๆ ทำเป็นเสียงเข้ม ยังกับลูกแมวกำลังขู่ฟ่อๆอย่างนั้นแหละ หึหึ น่ารักซะไม่มี “น้องเค้ก!” ผมก็เล่นด้วยสิครับ กลัวที่ไหนล่ะ ลูกแมวตัวเล็กแค่นี้เอง “คนละครึ่ง กูเคลียร์ให้ จบไหมครับ” เสียงไอ้สองเป็นคนสงบศึกย่อมๆระหว่างผมกับเค้ก “งั้นคนละครึ่งนะ” เค้กดูเหมือนจะไม่ยอมแต่ก็ยอมในที่สุด เงินคนล่ะหกพันห้า รวมเป็นหมื่นสามถูกจ่ายไป ทำให้ผมได้คำถามเกี่ยวกับเค้กอีกข้อหนึ่ง เค้กเอาเงินที่ไหนใช้? อยากรู้ อยากถามโว้ยยยยยย! เอาไงดีวะ สงสัยต้องหาจังหวะเวลาที่เหมาะสมถามให้ได้ซะแล้ว ไม่งั้นอกแตกตายแน่กู นับวันคำถามเกี่ยวกับคนตัวเล็กยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ และความอยากรู้ก็ทวีมากขึ้นจนอึดอัดไปหมด อยากรู้ความเป็นไป อยากเข้าใจเค้กให้มากกว่านี้ และทุกคำถามผมต้องรู้ให้ได้ สู้เว้ยไอ้ ทราฟ! “ทราฟว่าตัวนี้เป็นไงบ้าง” เฟเอาเสื้อแขนกุดสีฟ้าอ่อนทาบบนตัวและถามความเห็นของผม “น่ารักดี” เฟเป็นคนขาวอยู่แล้ว แถมยังตัวเล็กอีก ใส่อะไรก็ดูดีทั้งนั้น “งั้นเอาตัวนี้ตัวหนึ่งคะ” เฟส่งเสื้อให้คนขายพร้อมจ่ายเงิน ตอนบ่ายๆนี่อากาศร้อนได้ที่ ถ้าร้อนอีกนิดเดียวก็สุกพอดี แม่งจะร้อนอะไรนักหนาวะ ผมปาดเหงื่อที่หน้าผากออก เหลือบมองเค้กที่อุ้มลูกหมาด้วยมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างผมจับไว้อยู่ ส่วนไอ้สองเดินดูของอยู่ใกล้ๆ ทีแรกผมจะอุ้มลูกหมาให้ แต่เค้กไม่ยอมจะอุ้มเอง เลยต้องตามใจ “ร้อนไหม” ผมเช็ดเหงื่อบนหน้าให้เค้ก เค้กเงยหน้าขึ้นมายิ้มแห้งๆ ผมมองหาร้านน้ำทันที รู้เลยว่าน้องกำลังหิวน้ำเพราะอากาศที่ร้อนจัด “ยืนรอพี่ตรงนี้แปบหนึ่งนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำมาให้” ผมสั่งเค้กก่อนจะรีบวิ่งไปซื้อน้ำและทิชชู่มาห่อหนึ่ง กลับมาถึงเฟก็ซื้อของเสร็จพอดี ผมเลยตกลงกันว่าไปหาที่นั่งพักก่อน เพราะเดินตากแดดซื้อของมาสักพักผมเองก็เริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน คงไม่ต้องพูดถึงคนตัวเล็กที่อุ้มลูกหมาอยู่หรอกว่าจะรู้สึกยังไง แค่ไม่บ่นออกมาก็เท่านั้นเอง “นั่งนี่ก่อนนะเค้ก อ่ะกินน้ำซะ เดี๋ยวพี่อุ้มให้” ผมแย่งลูกหมาในมือเค้กมาอุ้มแทน ก่อนจะเปิดขวดน้ำเพื่อให้เค้กดื่ม “ขอบคุณครับ” เค้กรับขวดน้ำไปดื่มด้วยความกระหายทีเดียวครึ่งขวด “ทราฟ เดี๋ยวเฟไปดูของที่ร้านตรงนี้แปบนะ นั่งรอนี่ก่อนก็ได้ สองไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ” เฟบอกผมแล้วก็หันไปบอกไอ้สองทันที ผมเองก็ชอบช็อปปิ้งนะ แต่อากาศวันนี้ร้อนจัดเกินไปจนผมหงุดหงิด “ไอ้ทราฟ ฝากของด้วย เอาอะไรไหมมึง” ไอ้สองถามผม “ไม่อ่ะ เดี๋ยวกูนั่งรอเนี่ยแหละ เหนื่อย” ผมบอก เฟและไอ้สองก็แยกไปเดินดูของอีกนิดหน่อย “สายไหม อย่าดิ้นสิ” เสียงเล็กๆหงุงหงิงๆ ดังขึ้นผมเลยต้องหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ “อะไรนะเค้ก จะกินสายไหมเหรอ” ผมถาม “เปล่าครับ สายไหมอ่ะ ชื่อน้องหมานี่ไง น่ารักไหม” เค้กอุ้มเจ้าลูกหมาสีขาวๆขึ้นด้วยท่าทีภาคภูมิใจกับชื่อที่ตัวเองเป็นคนตั้ง “ครับๆ น่ารักมากเลย” ยอซะหน่อย เดี๋ยวเด็กเขาจะน้อยใจ ผมแกะขวดน้ำอีกขวดมาล้างหน้า ค่อยสดชื่นขึ้นมาหน่อย เอากระดาษทิชชู่ที่ซื้อมาซับหน้าเล็กน้อยๆ ดีที่มีลมพัดอ่อนๆจึงพอช่วยให้คลายร้อนได้บ้าง น้ำที่ไหลเปียกเสื้อสีขาวที่ผมใส่วันนี้ทำให้เสื้อตรงช่วงอกแนบกับตัว จนเรียกสายตาสาวๆที่เดินผ่านไปมา เอิ่ม บางทีผู้หญิงสมัยนี้ก็หื่นเกินไป ว่าไหม “อยากล้างหน้าไหมเค้ก” ผมหันมาถามเค้กที่นั่งเล่นกับลูกหมาไม่สนใจใคร ท่าจะชอบจริงๆแหะ ดูสิ ไม่สนใจผมเลยสักนิด ผมสู้ไอ้ลูกหมาตาแป๋วนี่ไม่ได้แล้วเหรอเนี่ย อะไรกันวะ! (แกนั่นและอีพี่ทราฟ เป็นไรมากป่ะ =_=) “ล้างได้เหรอพี่ทราฟ” เค้กเงยหน้ามาทางผม กระพริบตาปริบๆอย่างน่าเอ็นดู “ล้างได้สิ โน้มตัวไปข้างหน้า เดี๋ยวพี่ล้างให้” ผมสั่งให้เค้กโน้มตัวไปด้านหน้า แล้วก็เทน้ำใส่มือตัวเองและค่อยๆเอามือที่เปียกน้ำลูบหน้าน้อง ล้างเหงื่อและก็ฝุ่นออก ให้ก่อนจะเอามือเปียกน้ำไปแตะๆที่คอเค้กจะได้สดชื่นขึ้น ตามด้วยเอาทิชชู่ซับเช็ดหน้าเค้กให้แห้ง “เรียบร้อยแล้วครับคนเก่ง” ผมปิดฝาขวดน้ำ “ขอบคุณครับ” เค้กดูสดชื่นขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่ได้ล้างหน้าแล้ว ผมนั่งเล่นกับเค้กแล้วก็เจ้าสายไหมไปเรื่อยๆ เดินไปหาอะไรมากินกับเค้กบ้าง จนเฟและไอ้สองเดินกลับมาพร้อมกับสองมือที่เต็มไปด้วยถุงหลากหลายแบบ คงไม่ได้ไปเหมามาทั้งจตุจัตรหรอกนะ “ได้อะไรมาเยอะแยะเลยเฟ อ่ะนี่น้ำ” ผมรับของที่เฟส่งมาให้แล้วก็ยื่นน้ำให้เฟได้ดื่ม ส่วนไอ้สองก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผมหายใจหอบฮัก ผมเลยส่งน้ำอีกขวดให้มัน ไอ้สองเอาน้ำไปดื่มและราดลงบนหัวก่อนจะสะบัดๆ จนกระเด็นโดนพวกผม ผมเลยตบหัวมันไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้ “อะสอง ผ้าเช็ดหน้า เฟส่งผ้าเช็ดหน้าให้ไอ้สอง ไอ้สองก็รับมาเช็ดหน้าเช็ดหัวลวกๆ ก่อนจะส่งคืน สภาพแต่ละคนนี่ดูไม่ได้ ดูได้อยู่คนเดียวก็คงจะเป็นเจ้าตัวเล็กข้างๆผมเนี่ยล่ะ [Krrrr Krrrr] เสียงโทรศัพท์ไอ้สองดังขึ้นมา มันเลยหยิบขึ้นมารับ “เออว่าไง เวรแล้วไง แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน” ไอ้สองมีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันควัน หันมามองหน้าผมพอให้ผมได้ลุ้นไปด้วย “เออๆ เดี๋ยวกูไปรับ แค่นี้แหละ” “มีอะไรวะ” ผมถามเพราะความอยากรู้ ดูจากหน้าไอ้สองแล้วคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แล้วผมสังหรณ์ใจว่ามันจะเกี่ยวกับเพื่อนคนใดคนหนึ่งของผม “ไอ้ครามมันถูกเล่นงาน โทรให้กูไปรับมัน กูไปก่อนนะ มึงต้องไปส่งเค้กกับเฟใช่ไหม” ไอ้สองพูดระรัวเพราะร้อนใจ ผมเองก็ร้อนใจไม่ต่างกันทันทีที่รู้เรื่อง “ไม่เป็นไร ไปดูมันด้วยกันเนี่ยแหละ ไปเค้ก ลุกขึ้นเร็วครับ จับมือพี่ให้แน่นๆนะ” ผมกำชับเค้กก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่รถเพื่อไปรับไอ้ครามที่ไม่รู้ตอนนี้เจ็บตัวอยู่ตรงไหน ได้แต่ขับตามไอ้สองไป ไอ้ครามนะไอ้คราม สมชื่อมึงจริงๆ ไปที่ไหนมีสงครามที่นั่น ศัตรูมันเยอะไปหมด ถ้ามันออกจากบ้านเป็นอันว่าต้องมีเรื่อง แล้วแต่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ทว่าคราวนี้คงจะหนักเอาการอยู่เหมือนกัน เพราะถึงขนาดโทรตามให้ไปรับคงไม่ใช่เล่นๆ “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” เค้กถามผมตอนที่ถึงจุดที่ไอ้ครามให้มารับ “ไอ้ครามมีเรื่องนิดหน่อย เค้กรออยู่บนรถนะ อย่าไปไหนรู้ไหม” ผมบอกเค้กอย่างเป็นห่วง ลูบหน้าน้องเบาๆจนน้องพยักหน้ารับผมถึงได้เปิดประตูลงจากรถ วิ่งตามไอ้สองเข้าไปในตึกร้าหลังหนึ่ง “เป็นไงบ้างวะไอ้คราม” ผมถามและเข้าไปช่วยไอ้สองพยุงไอ้ครามออกมา “ไม่เป็นไร แค่จุกเฉยๆ” มันพูดนิ่ง มีรอยฟกช้ำตามส่วนที่อยู่นอกร่มผ้า ปากแตกคิ้วแตก แก้มก็บวมช้ำอีก ดูท่าฝ่ายตรงข้ามคงไม่ใช่เล่นๆถึงเล่นไอ้ครามได้ขนาดนี้ “เกิดอะไรขึ้นวะ วันนี้มึงกลับบ้านไม่ใช่หรือไง” ไอ้สองถามไอ้ครามบ้าง ผมกับไอ้สองลากมันมาถึงรถจนได้เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกันเพราะมันตัวโตและหนักกว่าผมทั้งสองคน “หึ ก็แค่หมาลอบกัน ไม่มีอะไร ตอนนี้กูส่งหมาไปลงนรกหมดแล้ว พากูกลับบ้านแล้วกัน ไปโรงพยาบาลแล้วเดี๋ยวเรื่องใหญ่"”ไอ้ครามบอกก่อนจะเอนตัวลงกับเบาะรถและหลับตาลงนิ่ง ผมกับไอ้สองได้แต่มองหน้ามัน พอเป็นเรื่องที่บ้านที่ไร ถ้าเกี่ยวกับงานที่บ้านมัน มันไม่เคยเอ่ยปากพูดให้พวกผมได้รู้ มีครั้งหนึ่งที่พวกผมอาละวาดใส่มัน ไม่พอใจที่มันมีเรื่องมีราวที่ไรไม่เคยบอกพวกผม เป็นครั้งแรกที่มันบอกถึงสาเหตุที่ทำแบบนั้น ‘เพราะพวกมึงเป็นเพื่อนกูไง กูถึงไม่อยากเอาเรื่องที่บ้าน ปัญหาที่เกิดกับธุรกิจที่บ้านกูไปทำให้พวกมึงเดือดร้อน วงการมาเฟียไม่เคยเห็นหัวใคร ไม่ข้องเกี่ยวแม่งเก็บหมด ที่นี้รู้หรือยัง เพราะกูเป็นห่วงพวกมึง ถึงได้ทำแบบนี้ ถ้าพวกมึงยังอยากเป็นเพื่อนกู คอยอยู่ข้างๆกู อยู่เฉยๆแบบนี้แหละ ชีวิตกูพ่อกูเขาคุ้มให้ได้ อย่าห่วงเลย’ หลังจากนั้นพวกผมก็ไม่เคยตอแยมันอีก เลยได้แต่มองดูอยู่ห่างๆและคอยช่วยเหลือเวลามันเอ่ยปากเท่านั้น เหมือนอย่างคราวนี้ “เดี๋ยวกูไปส่งไอ้ครามที่บ้านเอง เฟกลับไปกลับไอ้ทราฟก็แล้วกันนะ” ไอ้สองเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วก็ออกรถพาไอ้ครามกลับบ้านทันที “ไปเฟ เดี๋ยวทราฟไปส่ง” ผมจับแขนเฟให้เดินมาขึ้นรถ “เค้กไปนั่งข้างหลังให้ไหมครับ” ผมที่กำลังจะคาดเข็มขัดรถเงยหน้ามองเค้กก่อนจะมองผ่านกระจกหลัง ถึงได้รู้ว่าเมื่อกี้ผมยัดเฟใส่หลังรถ จะว่าไปมันก็แปลกๆนะ แต่แปลกยังไงไม่รู้ ช่างเถอะมันเถอะ “ไม่เป็นไรครับ เสียเวลาน่า กลับบ้านกันเลยเนอะ เฟ...จะกลับบ้านเลยใช่ไหม” “อืม ตอนนี้เฟเริ่มเพลียแล้วด้วย” เฟบอกก่อนจะหลับตาลง ผมเลยออกรถพาเฟไปส่งบ้าน ในรถตอนนี้มีแต่เสียงหงุงหงิงของเค้กกับเสียงเห่าเล็กๆของเจ้าสายไหม “สวัสดีครับพี่เฟ” เค้กยกมือไหว้ลาเฟ “สวัสดีจ๊ะเค้ก ทราฟ ช่วยเฟถือของลงไปหน่อยสิ” ผมลงจากรถช่วยเฟขนของเข้าบ้าน “ขับรถกลับบ้านดีๆนะทราฟ พรุ่งนี้เฟจะไปหาที่บ้าน” เฟเดินเข้ามากอดผมและผมก็กอดตอบ จะว่าไปช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาให้เฟเหมือนแต่ก่อนสักเท่าไหร่ “อืม พักผ่อนเยอะๆ ทราฟไปก่อนนะ” ผมลาเฟแค่นั้นก่อนจะเดินกลับมาที่รถแล้วขับกลับบ้านตัวเอง นี่ก็เย็นแล้ว พอมาถึงบ้านพลังงานก็หมด ผมขึ้นมานอนบนห้อง ส่วนเค้กอยู่ข้างล่างเล่นกับไอ้เจไอ้สองแล้วก็สายไหม ตื่นมาอีกทีก็เย็นแล้ว และข้างๆผมก็มีคนตัวเล็กนอนขดอยู่ข้างๆพร้อมกับเจ้าสายไหม ไม่รู้ว่าสองคนนี้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ภาพนี้มองแล้วน่ารักดี เด็กน้อยกับหมาตัวเล็ก ดูน่าเอ็นดูทั้งคู่ ผมมองหน้าเค้กตอนหลับ หัวใจรู้สึกเป็นสุข นิ้วมือค่อยๆเกลี่ยผมที่ปรกหน้าอย่างเบามือเพราะกลัวน้องจะตื่น ก๊อกๆๆ “ไอ้ทราฟ ลงไปกินข้าว” เสียงไอ้สองทำให้ผมต้องจำใจปลุกคนที่นอนหลับพริ้มให้ตื่นไปกินข้าว กับข้าววันนี้เยอะเป็นพิเศษ เพราะต้องการฉลองให้กับสมาชิกใหม่ของบ้านนั่นก็คือเจ้าสายไหม ดูเค้กจะดีใจเป็นพิเศษ พูดคุยหัวเราะร่าเริงยิ่งกว่าทุกวัน ดีที่ไอ้ครามกลับมาทันกินข้าว เพราะมันให้ไอ้สองพาไปหาพ่อมันที่บริษัททั้งที่เจ็บตัวไม่น้อย วันนี้สมาชิกครอบครัวถึงได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา จนสี่ทุ่มกว่างานเลี้ยงถึงได้เลิก พร้อมกับที่เค้กนั่งกล่อมเจ้าสายไหมจนหลับ พรุ่งนี้ผมนัดกับเค้กเพื่อไปซื้อของใช้ให้เจ้าสายไหมกัน วันนี้เลยต้องให้เจ้าสายไหมนอนในบ้านที่มีผ้าปูรองไว้ก่อน “พี่ทราฟ เค้กอยากออกไปนั่งเล่นนอกบ้าน” “ได้สิ” ผมพาเค้กออกมานั่งเล่นนอกบ้านพร้อมกับเบียร์ของผม ส่วนของเค้กเป็นนม ช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็เหมาะสมแล้ว “วันนี้ท้องฟ้ามีดาวไหมครับ” ผมเงยหน้ามองตามที่เค้กถาม บนท้องฟ้าในกรุงเทพมองไม่ค่อยจะเห็นดาวหรอก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี “ก็พอมีบ้าง แต่ไม่เยอะเท่าไหร่” ผมตอบก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม พอแอลกอฮอล์เข้าปาก เบียร์กระป๋องที่สี่ทำให้ผมมีความกล้ามากขึ้น กล้าที่จะถามเรื่องที่อยากรู้จากเค้ก “เค้กครับ พี่ถามอะไรได้ไหม” “ได้สิครับ” เค้กตอบโดยที่ไม่มองหน้าผม แต่เงยหน้าเหมือนมองดาวบนท้องฟ้าแทนราวกับว่ามองเห็น มุมปากแย้มยิ้มสุขใจ ผมเศร้าใจแทนเพราะรู้ว่าเค้กไม่สามารถมองเห็นท้องฟ้าไม่ว่าจะยามกลางวันหรือกลางคืนได้ “เค้กตาบอดนานหรือยัง” ผมกลั้นใจถาม กลัวเค้กจะโกรธ กลัวเค้กจะรู้สึกไม่ดีกับคำถามของผม “ก็...เกือบสองปีได้แล้วครับ” เสียงที่ตอบกลับมาไร้ซึ่งกังวล ผมค่อยโล่งใจและถามต่อ “กลัวไหม” “กลัวครับ...กลัวทุกอย่างเลย” “อยากระบายไหม” ผมถามออกไป รู้สึกสงสารคนตัวเล็กอย่างจับใจ เสียงสั่นๆตอนที่บอกว่ากลัว บอกได้เลยว่าเขากลัวขนาดไหนกับที่ผ่านๆมา “ได้เหรอครับ” เค้กถามเสียงเบาหวิวเหมือนไม่มั่นใจ ผมเลยดึงมือเค้กมาจับไว้ให้รู้ว่าเขามีผมอยู่ข้างๆ “ได้สิครับ” คนตรงหน้านิ่งไปหลายอึดใจ ผมไม่เร่งเร้าเพราะอยากให้เค้กสบายอย่างถึงที่สุด เรื่องของเค้กคงหนักหนาพอสมควร ถึงทำให้คนๆหนึ่งเศร้าใจได้ถึงขนาดนี้ “แม่เค้กเป็นรักแรกของพ่อ แต่พ่อต้องแต่งงานกับคนอื่น แม่เค้กเลยตกอยู่ในสภาพเมียน้อย เค้กรู้เพราะแอบได้ยินแม่พูดกับภรรยาของพ่อ ตอนเด็กเค้กไม่ได้อยู่กับพ่อ แต่พอเค้กโตเขาก็มารับเค้กและแม่ไปอยู่ด้วย เค้กไม่เข้าใจว่าเขาพาเค้กกับแม่ไปอยู่ด้วยทำไม พาไปอยู่ ให้เรียน ให้เงินใช้ แต่เขาไม่เคยให้ความรักเลย เค้กมองไม่ออกว่าเขารักแม่ที่ตรงไหน แต่แม่กลับพร่ำบอกเค้กว่าพ่อรักแม่ เค้กไม่เชื่อ เพราะเค้กไม่ได้ตาบอดที่จะมองไม่เห็นนิ” น้ำเสียงตรงท้ายประโยคบอกให้รู้ว่าเขาคงแค้นแทนแม่ไม่น้อย มือที่จับมือผมบีบแน่นเหมือนจะระบายความอัดอั้นตันใจออกมา “แต่เค้กไม่สนใจ ถ้าเค้กเรียนจบเมื่อไหร่เค้กจะพาแม่ออกมาจากที่นั่น คนในบ้านนอกจากป้าน้อมแล้วก็ไม่มีใครรักแม่หรือเค้กสักคน จนวันหนึ่งหลังจากที่เค้กจบมอหกแล้ว พี่เอกลูกชายคนโตของภรรยาพ่อเขา...” เค้กหยุดพูดแล้วสะอื้นแทน ผมเลยดึงเค้กเข้ามากอด อยากรู้ใจจะขาดว่าไอ้นั่นมันทำอะไร เค้กถึงได้ดูหวาดกลัวที่จะเล่า “เขาทำอะไรไหนบอกพี่สิ” ผมลูบหลังเค้กไปมา “เขา...เขาพยายามจะข่มขืนเค้ก” “0_0!!!” “เขาคิดว่าเค้กเป็นเกย์เพราะเพื่อนเค้กเป็น ดีที่แม่ไปช่วยเค้กไว้ได้ทัน เลยพาเค้กออกมาจากบ้าน พี่เอกเขากลัวเค้กกับแม่เอาไปบอกพ่อ เขาเลยขับรถตาม และด้วยความที่เขาเมาเลยขับรถชนเค้กกับแม่ มันคงดีใช่ไหมถ้าเค้กตายไปพร้อมแม่ แต่เปล่าเลย แม่เค้กตายแต่เค้กรอด รอดโดยการมองไม่เห็นแบบนี้ ตอนนั้นเค้กแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อด้วยซ้ำ ฮึก” เค้กเริ่มร้องไห้หนักขึ้น คำพูดที่ว่าเค้กไม่อยากมีชีวิตอยู่ทำให้ผมเผลอกอดเค้กแน่นขึ้นให้รู้ว่าเค้กอยู่ตรงนี้ ไม่ได้หายไปไหน “พ่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฮึก แต่เขากลับปล่อยให้เรื่องผ่านไป พาเค้กไปอยู่ที่หอพักนั่นให้ป้าน้อมคอยมาดูเค้ก แต่เรื่องนี้ให้คนอื่นในบ้านรู้ไม่ได้ เขาให้เงินใช้แต่ละเดือน แต่มันไม่พอ ฮึก พี่เข้าใจไม่ว่ามันไม่พอ มันทดแทนไม่ได้กับการที่เค้กต้องเสียแม่ไป ไม่มีเขาเค้กไม่ตาย แต่ไม่มีแม่เค้กอยู่ไม่ได้ กว่าเค้กจะอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ฮือ เค้กทรมานแทบขาดใจ แต่เค้กต้องอยู่เพื่อแม่ เพราะมีแม่คนเดียวที่รักเค้ก ฮื้อออ” เค้กร้องไห้ปานจะขาดใจ น้ำตาของผมไหลลงมากับสิ่งที่ได้รู้ เค้กทนมาได้ยังไง ถ้าเป็นผมผมจะอยู่ได้ไหม ถ้าต้องตาบอด ถ้าจะไม่เหลืออะไรแม้แต่คนที่ตัวเองรัก เค้กเข้มแข็งมากอย่างที่ผมคาดไม่ถึง “ไม่หรอก ไม่ได้มีแม่คนเดียวที่รักเค้ก แต่พี่ก็รักเค้กด้วยเหมือนกัน ต่อไปนี้พี่จะดูแลเค้กเอง อย่าร้องเลยนะคนเก่ง” ที่ผ่านมาไม่ว่าเค้กจะโดนใครทำร้ายมายังไงก็ช่าง แต่ต่อไปนี้ผมจะดูแลเค้กเอง จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายได้อีก “พี่ทราฟจะไม่ทิ้งเค้กใช่ไหม” น้องถามพลางสะอื้น “ไม่ทิ้งครับ ไม่ทิ้งแน่นอน” ผมยืนยันหนักแน่น ผมไม่มีทางทิ้งเขาแน่นอนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมดันตันตัวเค้กออก ก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้ เค้กยังคงร้องไห้สะอื้นแต่เบาลงจากเดิมมาก ริมฝีปากที่ผมมักมองว่าน่ารักตอนนี้ถูกเจ้าของเม้นแน่นจนผมกลัวว่าจะแตก ผมใช้นิ้วลูบที่ริมฝีปากน้องเบาอยู่สองสามที เค้กถึงได้คลายริมฝีปากออกจากกันเงยหน้าขึ้นนิดหน่อย ผมจรดริมฝีปากที่หน้าผากเค้กเบาอย่างทะนุถนอมและดึงตัวเข้ามากอดเอาไว้ “เค้กมีพี่นะ ให้พี่ดูแลเค้ก ได้ไหมครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม