บทที่ 1 ร่างใหม่หัวใจดวงเดิม...

1873 คำ
บทที่ 1ร่างใหม่หัวใจดวงเดิม ร่างงามบอบบางในชุดสีซีดที่ผ่านการซักหลายครั้งเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเรือนอย่างหมดอาลัยตายอยาก ไป๋เหลียนเจียวคือชื่อของนางในอดีต ใช่ตอนนี้นางมิใช่คนเดิมในอดีตต่อไปแล้ว นางมิรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น ความเเค้นภาพก่อนตายที่ถูกน้องสาวชั่วกระทำการทรมาณเยี่ยงสัตว์ตัวหนึ่งความเจ็บปวดทรมาณยังคงมิจางหายก่อนสติดับวูปไปชั่วขณะหนึ่ง พอฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างนี้พร้อมนามใหม่เสียเเล้ว มองใบหน้างดงามมในคันฉ่องถอนหายใจครั้งเเล้วครั้งเล่าอย่างเจ็บปวดเเละปลงตก นางมาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ตกอับบุตรีท่านเเม่ทัพเเละฮูหยินเอกผู้ถูกละเลยสภาพมิได้ต่างกับยาจกขอทานเลยสักนิด ที่นี่หรือคือเเคว้นฮั่นห่างจากเเคว้นฉินบ้านเกิดเมืองนอนนับ500ลี้ มิรู้ว่าสวรรค์มีตาส่งเสริมหรือกลั่นเเกล้ง ส่งนางกลับมาห่างไกลเช่นนี้ ใช่นางมีความเเค้นที่ต้องสะสางกับน้องสาวเเสนดีเเละคู่หมั้นสุดที่รัก เมื่อสวรรค์ให้โอกาสนางเเม้เพียงริบหรี่ก็ตาม สองคนนั่นอย่าหวังว่าจะได้มีความสุขกันอีกเลย เเต่!!!!! นางต้องปฎิวัติร่างนี้ให้ดีขึ้นเสียก่อน เริ่มจาก.. ชื่อเสียงเเละเงินทองมักสำคัญเสมอ มองดูหีบไม้เก่าใกล้ผุพังไร้ทรัพย์สินริมเตียงเเล้วต้องหายใจอีกครั้ง จากความทรงจำร่างเดิมนั้นมารดาตายจากตั้งเเต่ห้าหนาว บิดาออกไปรบทัพจับศึกได้เกือบสิบปีมิเคยกลับมาอีกมิรุ้ว่าเป็นตายร้ายดีเช่นใด ถูกเลี้ยงดูอบรมโดยเเม่นมสาวใช้คนสนิทของมารดา มีฮูหยินผู้เฒ่าคอยเป็นหัวเรือใหญ่ของจวนเเม่ทัพรับเบี้ยเลี้ยงรายปีตำเเหน่งเเเม่ทัพใหญ่มิเคยขาด จุนเจือครอบครัวบุตรชายคนรองจนมีหน้าตาชื่อเสียงโดดเด่นไปทั่วเมืองหลวงบุตรสาวบุตรชายของนายท่านรองล้วนได้รับการอบรมเลี้ยงดูที่ดี คุณหนูรองอิงฮวาโดดเด่นงดงาม เลี่องชื่อความสามารถด้านเพลงพิณผู้คนที่ล้วนได้ฟังต่างยอมรับว่าดีเลิศ คุณชายใหญ่เจ๋อกว่างเก่งกาจเด็กหนุ่มอนคตไกลว่าที่จอหงวนในอนาคต ตรงกันข้ามกับเจ้าของร่างนี้ยิ่งนัก นางพำนักอยู่เรือนท้ายจวนเก่าซ่อมซ่อ เสื้อผ้าอาภรณ์ได้รับน้อยครั้งล้วนเป็นของที่เคยใส่เเล้วจากเรือนใหญ่ เบี้ยเลี้ยงหรือจากที่เคยได้น้อยลงเรื่อยๆๆ เป็นมิได้รับมากว่าห้าปีเเล้ว อาหารการกินถูกส่งมาจากห้องครัวใหญ่ มีเพียงผัดผักสีเหลืองเก่าๆๆเหม็นหื่น กับน้ำข้าวที่เย็นชืดไร้เมล็ดข้าวเเ้เเต่น้อยนับว่าอาหารการกินสาวใช้ในจวนยังดีกว่าเสียอีก นอกจวนตระกูลหลานของท่านเเม่ทัพใหญ่ ล้วนเล่าลือคุณหนูใหญ่จวนเเม่ทัพร่างกายอ่อนเเอสุขภาพไม่เเข็งเเรง เพียงโดนลมก็ล้มจับไข้ได้ป่วยจึงไม่ได้ปรากฎตัวนอกจวนเลยสักครั้ง อ่อนเเอหรือ... ใช่อ่อนเเอเเถมยังโง่งมถึงได้ถูกเอารัดเอาเปรียบเช่นนี้ ไม่เเข็งเเรงหรือ... จะเเข็งเเรงได้เยี่ยงไรหากกินเเต่ผัดผักกับน้ำข้าวทุกวี่วันเล่า จับไข้ได้ป่วยครั้งหรือ.... หากลองมาอยู่ในจวนที่เต็มไปด้วยเสือสิงที่คอยจะเอารัดเอาเปรียบหากไม่ป่วยตาย ก็คงช้ำใจตายเข้าใจหรือไม่เล่า ไม่ได้ปรากฎตัวออกนอกจวนเลยสักครั้ง... จะออกไปสง่าผ่าเผยได้อย่างไร หากอยู่ในชุดประชุนสีซีดเช่นนี้ตัวเดิมซ้ำๆๆเช่นนนี้ มิเคยได้กราบอาจารย์ท่านใดให้ประสิทธิ์ประสาทวิชาเเละจะหาความรู้จากที่ใดเล่า  หึ ช่างหน้าตายนัก บิดาไปรบเพื่อรับใช้ราชสำนักดูเเลปวงประชา เเต่... บุตรสาวคนเดียวกลับดูเเลไม่ได้ ละเลยเเละอ่อนเเอเช่นนี้ ชื่อเสียงหรือ... หากไม่มีข้าจะทำให้เด่นดังเอง เเต่ในทางที่ดีหรือไม่นั้น ข้าเองก็ไม่เเน่ใจเช่นกัน เงินทองหรือ... ทุกบาททุกสตางค์ที่พวกมันเอาไป ข้าจะให้พวกมันคายคืนข้ามาให้ทั้งหมดทบต้นทบดอก หลานเสวี่ยจูคนนี้หายอมคนไม่ เมื่อคิดร้ายกับข้า หากข้าเอาคืนร้อยเท่าพันทวีก็อย่าเพิ่งกระอักตายเสียก่อนเล่า เพียง500ลี้หากข้าจะกลับไป ใครจะห้ามข้ากัน.. ใครขวางทางข้าก็จงน้อมรับผลตอบเเทนที่สาสม... เเค้นนี้อีกห้าปีสิบปีก็มิวันจางหาย.... อย่าเพิ่งตายไปเสียก่อนเล่า.... อีกไม่นานข้าจะไปทวงคืนทุกสิ่ง..... หลานเสวี่ยจู เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง จิตใจความคิดเเละเหตุผลตีรวนกันดั่งที่มิเคยเป็นมาก่อน สายตาที่เเข็งกร้าว เย็นชา เครียดเเค้นท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในเดือนสิบช่างเป็นภาพที่งดงามอันตรายไม่น้อย "คุณหนูเจ้าค่ะ" เสียงสตรีเเหบพร่าวัยกลางคน ในชุดคนใช้กลางเก่ากลางใหม่เดินเข้ามาพร้อมถาดอาหารที่เต็มไปด้วยหมั่นโถวขาวอวบเเละผัดเนื้อที่ยังอุ่นๆๆส่งกลิ่นหอมยั่วยวลให้ผู้คนที่ได้กลิ่นน้ำลายไหล "เเม่นม เอาอันใดมากันหรือเหตุใดจึงมากมายนัก"จูจูเอ่ยถามเเม่นมคนสนิทอย่างสงสัยโดยปรกติเเล้ว เรือนใหญ่มักเจียดอาหารมาให้ที่เรือนนี้นั้นยิ่งกว่าของเหลือเดนเสียอีก "วันนี้ครบรอบวันเกิด14หนาวของคุณหนูรองอิงฮวาเจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่ากับนายท่านรองจัดงานอย่างยิ่งใหญ่เชิญเเขกมามากมายยิ่ง บ่าวจึงหยิบอาหารพวกนี้มาเจ้าค่ะ"เเม่นมจื่อเอ่ยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ด้วยรู้ว่าเจ้านายของตนมิได้มีโอกาสเช่นนี้ฮูหยินผู้เฒ่าทำหูหนวกตาบอดละเลยคุณหนูใหญ่ได้ลงคอทั้งที่เป็นหลานเช่นกันอีกไม่ถึง7ก็จะครบรอบวันเกิดคุณหนูใหญ่ที่อายุจะครบ15หนาว หาก...หากนายหญิงยังอยู่เรื่องราวคงมิเป็นเช่นนี้ "อืม น่ากินทีเดียว"มือบางที่เล็กเเละเหี่ยวเเห้งเพราะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอเเบ่งหมั่นโถวที่เเม่นมยื่นมาให้กลับไปพร้อมผัดเนื้อครึ่งถ้วย "บ่าวกินมาเเล้วในงานเจ้าค่ะ คุณหนูทานเถิดเจ้าค่ะ"เเม่นมจื่อตอบเสียงเบาลงเก็บความโศกเศร้าเสียใจกับชะตาชีวิตของเจ้านายตนจนเก็บไว้ไม่มิด "นมโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย ทานเถอะข้าสัญญาว่าจะทำให้ชีวิตต่อจากนี้ดียิ่งกว่าที่เป็นอยู่" "คุณหนู....." "กินให้เสร็จเสีย เรามีเรื่องที่ฝากวานนมทำเสียหน่อย"ร่างบางเอ่ยด้วยดวงตาที่เปร่งประกาย "เจ้าค่ะ"นางรู้ว่าหลังจากที่เสวี่ยจูตื่นขึ้นหลังจากป่วยไข้นอนซมหลายวันนั้นเปลี่ยนเเปลงไปมากจนน่าตกใจ ดวงตาที่เคยเศร้าโศกจากการจากไปของมารดากลับกลายเป็นเเววตาที่สดใสขึ้นอย่างเป็นคนละคน เเ่เมือมองใบหน้างามที่เลี้ยงดูมาตั้งเเต่เล็กก็เลิกล้มความคิดนี้ไป อาจเป็นเพราะคุณหนูของนางพบเจอคนใจร้ายจึงได้เปลี่ยนเเปลงตนเองเสียมากกว่า เมื่อกลืนหมั่นโถวขาวอวบพร้อมกับผัดเนื้อลงท้องรสชาติหอมหวานยังติดที่ปลายลิ้นมิรู้ลืม นานเท่าไหร่เเล้วที่ไม่ได้กินอาหารดีดีเช่นนี้คงนับจาการจากไปของนายหญิงเหลียนฮวาสินะ "เอานี่ไปจำนำ เลือกร้านจำนำที่ชื่อดังที่สุดในเมืองหลวงรับเป็นตั๋วเเลกเงินเเล้วรีบกลับมา"จูจูเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นหยกประจำตัวของตนให้อย่างไม่หวง "คุณหนูไม่นะเจ้าค่ะ ทำเช่นนี้จะทำให้ชื่อเสียงคุณหนูมัวหมองได้"เเม่นมจื่อส่ายหน้าอย่างไม่ยินยอม ภายนอกล้วนเล่าลือว่าคุณหนูของนางนิสัยใจคอร้ายกาจทุบตีบ่าวไพร่ ร่างกายเต็มไปด้วยโรครุมเร้าเพียงเเค่นี้เเม่สื่อก็มิมาเฉียดหยาดกายเเล้ว คุณหนูของนางอายุเกือบถึงวัยปักปิ่นเเล้วคู่ครองเป็นเรื่องสำคัญมิรู้ว่าจะเป็นเช่นไร "นมเชื่อใจข้าหรือไม่ งั้นวันนี้เราไปด้วยกันหยกนั่นเพียงของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้เเต่เราทั้งสองมิอาจทนอยู่สภาพเช่นยาจกเเร้นเเค้นได้นานนัก"จูจูเอ่ยอย่างมิได้ใส่ใจ "นมเชื่อคุณหนูเจ้าค่ะ เเต่เราจะออกไปได้อย่างไรเจ้าค่ะคนคุ้มกันจวนล้วนเเน่นหนา"เเม่นมจื่อนิ่งคิดเเผนการใจจดจ่อ "นมเองเป็นคนบอกว่าวันนี้วันเกิดน้องรอง ต่างมีงานเลี้ยงเวรยามล้วนละหลวมเราออไปทางประตูหลังคนครัวกันเถอะ" "เเต่ว่า..."เเม่นมจื่อมีท่าทางลังเล หากคุณหนูของนางถูกจับได้ว่าออกจากจวนคงมิเเคล้วโดนทุบตีทั้งที่เป็นบุตรสาวเจ้าของจวนเเท้ๆๆ "อย่าได้คิดมาก คิดไปกันเถอะไม่มีใครสนใจเราสองคนมากนัก ป่านนี้คงไปชุมนุมอยู่ที่เรือนใหญ่กันหมดเเล้ว ร่างเล็กบางจูงมือหญิงวัยกลางคนสภาพผอมซูบเช่นเดียวกัน เดินไปตามทางด้านหลังจวนอย่างระมัดระวังในช่วงบ่าย บางครั้งมีเเอบมีหลบตามมุมต่างๆๆพื่อมิให้สาวใช้ในจวนพบเห็น ในที่สุดก็เดินมาสุดทางประตูเล็ก ประตุสำหรับดรงครัวเเละทาส ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความจูจูคว้ามือเเม่นมของตนเดินลัดเลาะออกประตูนี้ได้สำเร็จ หลังจากหลบๆๆซ่อนๆๆเดินห่างจากจวนตระกูลหลานได้พักใหญ่ "ไม่ต้องซ่อนเเล้ว นมไปกันเถอะ"เเม้ตลอดทางจะมีความกังวลมากมายนักเเต่ก็อดขำเเม่นมตนเองมิได้ที่ทำท่าทางลับๆๆล่อๆๆได้น่าสงสัยเป็นที่สุด "เฮ้อ...โล่งอก นมนึกว่าจะถูกจับได้เสียเเล้วใจหายใจคว่ำจริงๆๆเจ้าค่ะ"เเม่นมจื่อทุบอกตนเองเองเบาปลอบประโลมใจดวงน้อยๆๆที่เต้นโครมคร้ามอย่างหน้าหวาดกลัว "นมต้องชินให้ได้นะ เราอาจต้องออกมาบ่อยๆ"จูจูเอ่ยพลางหัวเราะเเม่นมตนเองที่หายใจหืดหอบอีกครั้ง "ต้องมาอีกหรือเจ้าค่ะ" "ก็จนกว่าเรื่องของข้าจะเเพร่ไปทั้วเมืองหลวงละนะ"ใบหน้าเด็กสาวที่มีเเววงดงามตั้งเเต่อายุยังน้อยยกยิ้ม ดวงตาฉายเเววเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด ด้านเเม่นมจื่อทำได้เพียงส่ายหน้าช้าๆๆๆ ไม่ว่าเเผนการของเจ้านายตนจะเป็นเช่นไรบ่าวเช่นนางล้วนเเต่เต็มใจทำตาม "เราไปกันเถอะ ข้าอยากเห็นโรงจำนำเเคว้นฮั่นว่าจะใหญ่โตเพียงใด" ___________________________________________
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม