“นั่นมัน…” พริบพราวมองชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าตาค้าง ใช่! เขาสง่าผ่าเผยและดึงดูดสายตาได้ไม่ยาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาดันเป็นคนเดียวกับผู้ชายคนเมื่อเช้า ที่สำคัญเขาคนนั้นเพิ่งมาส่งเธอถึงหน้าบริษัทเมื่อเช้านี้ด้วย ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบังเอิญหรืออะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เธอชักกลัวแล้วนะ
“ผมเพลิง อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าผมจะมาดำรงตำแหน่งประธานบริหารของ Aurora นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หวังว่าจากนี้ไป…” ดูเหมือนเสียงเข้มๆ กับใบหน้าหล่อเหลาของท่านประธานจะสะกดพนักงานสาวๆ ให้นั่งเคลิ้มไปตามๆ กัน คงมีก็แต่พริบพราวเท่านั้นกระมังที่ยังตกใจและไม่ได้ฟังสิ่งที่ท่านประธานคนใหม่พูดเลยสักนิด
“พราว…พราว เป็นอะไรของแกเนี่ย อึ้งในความหล่อของท่านประธานรึไง ว่าแต่เมื่อกี้ทำไมแกทำท่าเหมือนรู้จักเขามาก่อนเลย” เจติยาสะกิดเรียกเพื่อนซ้ำๆ เมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนจะชะงักนิ่งไป
“ก็เพิ่งรู้จักเมื่อเช้านี่แหละ” พริบพราวครางตอบเพื่อนเบาๆ ทำเอาเจติยาขมวดคิ้วมุ่น
“เมื่อเช้าเหรอ อย่าบอกนะว่าเขาคือ…” เจติยามองหน้าเพื่อนตาโต หลังได้ทบทวนคำพูดเพื่อนดีๆ
“อืม! ผู้ชายคนนั้น นั่นแหละเขา โอย! ฉันอยากจะบ้าตาย เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตฉันวะเนี่ย” พริบพราวตอบพลางกุมขมับ
“โอ๊ย! ถ้าหล่องานดีมีเงินให้ถลุงขนาดนี้ก็ไม่ต้องกินแล้วก็ได้มั้งยาคุมเนี่ย” เจติยาแสร้งอำเล่น แต่คนถูกอำกลับไม่ตลกด้วย มิหนำซ้ำยังหันขวับมามองตาขวาง
“โอเคๆ ฉันล้อเล่น เสร็จจากนี้รีบไปซื้อกันเลยเนอะ” เจติยายกมือยอมแพ้ แต่ระหว่างที่สองสาวกระซิบกระซาบกันอยู่นั้น จู่ๆ ท่านประธานก็โพล่งชื่อเธอออกมา
“พริบพราว ตามไปพบผมที่ห้องด้วย” ท่านประธานที่กำลังจะเดินออกจากห้องหันมาสั่งเสียงเข้ม ทำเอาทุกสายตาต่างหันมาจับจ้องที่พริบพราวเป็นตาเดียว
“ฉะ...ฉันเหรอคะ” เธอชี้มาที่ตัวเองพลางทำหน้าเหลอ
“ในห้องนี้มีคนชื่อพริบพราวอีกรึไง” เจ้าของชื่อถึงกับทำหน้าม้านทันทีกับคำพูดยียวนของท่านประธาน
“ค่ะ” เธอกระแทกเสียงลงไปอย่างเสียมิได้
“อ้อ! ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณคือ…เลขาผม” สิ้นเสียงท่านประธานคนใหม่ก็เดินจากไป ทำเอาพริบพราวหน้าเหลอแล้วเหลออีก เมื่อทุกคนต่างพุ่งเป้ามามองที่เธอ บ้างก็หันมาถามด้วยความอยากรู้ บ้างก็ซุบซิบนินทาด้วยความอิจฉา จนเธอร่ำๆ จะร้องไห้ออกมา ยังดีที่มีเจติยาอยู่ข้างๆ
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” เจติยาดึงเพื่อนให้ออกไปจากความวุ่นวาย
“แต่ฉัน…” เธอทำหน้าลำบากใจ ยิ่งได้เห็นว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ใกล้ตัว เธอก็ยิ่งอยากจัดการเรื่องที่ค้างคาให้เสร็จสิ้น
“เรื่องยาไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการให้” เจติยาเหมือนจะรู้ใจเพื่อน จึงรีบกระซิบบอก ทำให้เธอวางใจแล้วรีบเดินออกไปจากตรงนั้นโดยเร็ว
“ทำไมต้องเป็นฉัน” ทันทีที่ประจันหน้ากัน เธอก็ไม่รีรอที่จะถามท่านประธานคนใหม่ทันที
“นั่นโต๊ะทำงานเธอ หน้าที่หลักๆ ของเธอคือตามฉันไปทุกที่ แล้วก็ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ เริ่มจากเช็คตารางงานวันนี้ทั้งหมดให้เสร็จภายในสิบนาที” นอกจากจะไม่ตอบแล้ว พ่อคุณยังโยนงานให้ ทำเอาคนเพิ่งได้รับตำแหน่งหมาดๆ แทบถลาไปที่โต๊ะด้วยความตื่นตระหนก ลืมไปแล้วว่าตัวเองถามอะไรไป ซึ่งก็ดูเหมือนจะเข้าทางท่านประธานที่กำลังลอบยิ้มถูกใจ กระทั่งงานทุกอย่างเสร็จทันเวลา
“เอ่อ…ท่านประธานคะ ฉันขอกลับไปเก็บของที่แผนกเดิมได้ไหมคะ” เรื่องเก็บของก็แค่ข้ออ้าง เหตุผลจริงๆ คือเธออยากลงไปกินยาคุมฉุกเฉินที่เจติยาเตรียมไว้ให้ต่างหาก
“คงไม่ต้อง เพราะฉันให้คนขนขึ้นมาให้หมดแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงมา” พริบพราวถึงกับชะงักหน้าเครียด เมื่อเรื่องมันดันไม่เป็นไปตามที่วางไว้ ยังไม่ทันจะหาเหตุผลดีๆ ในการลงไปหาเพื่อน เขาก็แทรกขึ้นมาอีก
“เตรียมตัวให้พร้อม อีกเดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอก”
“แต่วันนี้ท่านประธานไม่มีนัดที่ไหนนี่คะ” แม้ว่าจะรับตำแหน่งยังไม่ทันข้ามวัน แต่เธอก็เช็คตารางงานตามคำสั่งของเขาเป็นอย่างดี เธอจึงอดสงสัยไม่ได้
“เพิ่งนัด” สิ้นเสียงเขาก็หยิบมือถือแล้วเดินออกไปที่ประตู ทำให้เธอจำต้องรีบเดินตามอย่างช่วยไม่ได้ กระทั่งทั้งคู่มานั่งอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“เอ่อ…เมื่อกี้รีบมาก ฉันเลยไม่ได้เตรียมอะไรออกมาด้วย เกรงว่า…” เธออึกอักกับการเป็นเลขาที่ไม่มีความพร้อมของตัวเอง แต่ยังไม่ทันพูดจบประโยค เขาก็แทรกขึ้นพร้อมกับยื่นบางอย่างมาให้
“นี่ของเธอ” เธอรับไอแพดจากเขาแบบงงๆ
“ไว้กลับถึงบริษัท ฉันจะคืนให้นะคะ” เธอบอกพลางเปิดไอแพดแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อพบว่ามันคือเครื่องใหม่
“ก็ฉันบอกแล้วว่ามันเป็นของเธอ ถือว่าเป็นเครื่องประจำตำแหน่ง ต่อไปก็ใช้เครื่องนี้แหละ”
“จริงๆ ฉันมีสมุดบันทึกค่ะ แต่เผอิญฉันทำกระเป๋าหาย ตอนนี้แม้แต่มือถือก็ยังไม่มี” เธอบอกด้วยสีหน้าสลด อย่าว่าแต่มือถือหรือกระเป๋าเลย แม้แต่เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้ ยังเป็นของที่เขาเตรียมไว้ให้
“นี่มันสมัยไหนแล้ว เก็บสมุดเธอเอาไว้บันทึกอย่างอื่นเถอะ ถ้าไม่มีอะไรให้บันทึก ก็บันทึกเรื่องของเราก็ได้ เพราะจากนี้ไป ฉันจะมีเรื่องให้เธอบันทึกทุกวัน ส่วนเรื่องกระเป๋ากับโทรศัพท์ ถ้าอยากได้ก็ตามไปเอาแล้วกัน” อา…ดูเหมือนท่านประธานจะมีเรื่องให้เธอแปลกใจอยู่เรื่อย ทั้งท่าทางทั้งคำพูด แต่อะไรก็คงไม่เท่าเรื่องกระเป๋าของเธอ
“เดี๋ยวนะ! กระเป๋าเหรอ แล้วกระเป๋าฉันไปอยู่ที่คุณได้ไง แล้วที่บอกให้ไปเอา เอาที่ไหนคะ”
“อยากรู้ก็ตามมาสิ” จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร ทำให้เธอต้องรีบลุกตาม