ไปเยี่ยมคนป่วย

1962 คำ
ไพลินออกเดินทางจากคอนโดแต่เช้า หญิงสาวขับรถมุ่งหน้าไปยังเส้นทางสายตะวันออก เธอขับรถแบบสบายๆ กว่าจะถึงบ้านยายก็น่าจะใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าเวลาปกติที่สบายดีอาจขับเร็วกว่านี้ ห่วงความปลอดภัยของตัวเองช้าหรือเร็วก็ถึงบ้านยายเหมือนกัน เมื่อเช้าโทรถามอาการยายกับเพื่อนพยาบาล เบาใจที่บัวชมพูดูแลยายให้เป็นอย่างดี บัวชมพูเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอ สองสาวเรียนด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมจนจบมัธยมปลาย บัวชมพูอยากเป็นหมอ แต่ด้วยว่าที่บ้านมีอาชีพทำนาทำสวนพ่อกับแม่ไม่สามารถส่งเสียให้เรียนหมอได้ เธอเลยเบนเข็มมาเรียนพยาบาลแทน อย่างน้อยก็ได้รักษาคนช่วยคนเหมือนกัน บ้านบัวชมพูอยู่คนละอำเภอกับไพลิน บัวชมพูสอบติดพยาบาลได้สมใจ ส่วนเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลได้ที่กรุงเทพฯในคณะที่อยากได้ เวลาที่ยายไม่สบายบัวชมพูจะช่วยอำนวยความสะดวกที่โรงพยาบาลให้ทุกอย่าง ยกเว้นว่าวันไหนที่เพื่อนเข้าเวรดึก อีกแปดสิบกิโลเมตรก็จะถึงบ้านยาย มีโทรศัพท์มาจากที่ทำงาน ไพลินจอดรถข้างทางเพื่อรับสาย “สวัสดีค่ะพี่กรองมี มีอะไรหรือเปล่าคะ” “พายถึงไหนแล้ว” “อีกแปดสิบกิโลเมตรก็จะถึงบ้านยายแล้วค่ะพี่มีอะไรหรือเปล่าคะ” “ไม่มีอะไรจ๊ะพี่เป็นห่วง เพิ่งจะสร่างไข้ฝากเยี่ยมยายด้วนนะพาย ถึงบ้านแล้วส่งข่าวด้วยนะขับรถดีๆล่ะเพื่อนๆเป็นห่วง” “ขอบคุณมากค่ะพี่กรอง ฝากขอบคุณทุกคนด้วยนะคะ” กรองกาญวางสายไปแล้ว ไพลินคิดว่าตัวเองโชคดีได้หัวหน้างานดี ได้เพื่อนร่วมงานดีทุกคน เธอไม่คิดเลยว่าจะย้ายไปทำงานที่อื่น ทั้งที่เธอเองมีความสามารถอายุยังน้อย ออกไปหางานที่เงินเดือนสูงกว่านี้ ก็ยังได้แต่เลือกที่จะไม่ไป ไพลินขับรถอีกไม่นานก็ถึงโรงพยาบาล ที่นี้เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด เป็นโรงพยาบาลศูนย์ของภาคตะวันออก สะดวกสบายทุกอย่าง อยู่ห่างจากบ้านของเธอเกือบสี่สิบกิโลเมตร วันนี้บัวชมพูอยู่เวรเช้าไพลินดีใจเกือบห้าเดือนที่ไม่ได้เจอกับเพื่อน ทั้งสองพูดคุยกันแค่ทางโทรศัพท์ต่างคนต่างก็ยุ่งกับงาน เวลาเธอกลับบ้านมาหายายมักจะตรงกับบัวชมพูเข้าเวรดึกตลอด แต่ครั้งนี้โชคดีเพื่อนของเธอทำงานกลางวัน “พายถึงไหนแล้วพูรออยู่กับยายที่ห้องพิเศษ” “กำลังจะถึงแล้วแป๊ปเดียว” ไพลินจองห้องพิเศษให้ยายได้อยู่อย่างสบาย บัวชมพูจัดการเรื่องพยาบาลเฝ้าไข้ให้ด้วย สองสาวโผเข้าสวมกอดกันอย่างคิดถึง “พายเราไปคุยกันฝั่งโน้นก่อนดีกว่า ยายหลับอยู่ พูอยากให้ยายพักผ่อนเยอะๆ” “ขอบใจนะพูที่เป็นธุระให้พายตลอดเลย” “ไม่เป็นไรพูเข้าเช้าไม่เป็นไรหรอกจะมาเกรงใจอะไรเรื่องแค่นี้นิดหน่อยเอง” “พูตกลงยายเป็นอะไร ทำไมช่วงนี้ยายไม่สบายบ่อยจังเลย “ “เบาหวาน ความดัน โรคคนแก่ พูไม่แนใจ่ว่าจะมีอย่างอื่นไหม พรุ่งนี้หมอมาตรวจสามโมงเช้ายังไงพายลองสอบถามคุณหมอดูนะ” “หวังว่าจะไม่เจออะไรมากกว่าที่เป็นอยู่นะ พายใจคอไม่ค่อยดีเลย” “อย่าเพิ่งคิดมาก พรุ่งนี้พูหยุดเดี๋ยวคืนนี้พูมานอนเป็นเพื่อนเฝ้ายายด้วยกันนะ” “ได้ๆพายขอบใจพูมากเลยนะ ช่วยเหลือทุกอย่างเลย” “พายนี่เราเป็นเพื่อนกันนะ สมัยก่อนยายก็มีบุญคุณกับพูมากรวมถึงพายด้วย มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน พูไปทำงานก่อนเลิกงานแล้ว จะมาใหม่ เรื่องเสื้อผ้ากับอาหารเย็นไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพูจัดการเอง” บัวชมพูตบไหล่เพื่อนเบาๆก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ไพลินเข้าห้องไปนั่งข้างเตียงคนป่วย ยายจันเป็นยายแท้ๆของเธอ ยายกับตามีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของเธอ ไม่นานตาก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ ยายกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว โชคดีที่ยายมีทรัพย์สมบัติตกทอดมาจากตาทวดยายทวดอีกที ยายเป็นครู ทำให้มีเงินเลี้ยงลูกสบายๆ พอแม่เธอแต่งงานกับพ่อเธอได้ไม่นาน แม่เธอก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เหมือนตา ไม่นานพ่อเธอก็มีภรรยาใหม่ ยายไม่ยอมให้พ่อเธอพาเธอไปอยู่กับแม่ใหม่ ท่านอาสาเลี้ยงเธอเอง “พายเหรอลูก มาแล้วเหรอนี่กี่โมงแล้ว” “พายมาสักพักแล้ว เห็นยายหลับพายเลยไม่ปลุกจะได้พักผ่อนเยอะๆ” “ยายดีขึ้นเยอะแล้วลูก ไม่เป็นไรแล้วอยากกลับบ้าน” “พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าคุณหมอจะมาตรวจรอฟังหมอก่อนเขาจะว่ายังไงถ้าสบายดีแล้วเราก็ค่อยกลับบ้านกันนะคะยาย” “วุ่นวายไปหมดเลยนะ แล้วนี่พายหยุดงานเหรอลูกถึงมาได้” “หยุดจ๊ะยายพายจะอยู่จนกว่ายายจะหายดี หรือไม่ก็พาพายายไปอยู่ที่คอนโดด้วยดีกว่า สักเดือนยายสบายดีแล้วค่อยกลับมาบ้านสวนดีไหมจ๊ะ” “ก็ดีเหมือนกันนะลูก พายจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงยายมาก ขับรถไกลๆแบบนี้ยายเป็นห่วง” ยายจันไม่อยากให้หลานสาวคนเดียวขับรถไปมาไกลๆแบบนี้ หญิงชราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย สามีของยายก็เสียชีวิตด้วยอุบัติรถยนต์ แม่ของไพลินก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถ ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหลายปีมากแล้ว ยายก็ยังกลัวไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวคนเดียว ไพลินคือแก้วตาดวงใจของยายจัน สงสารต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเด็ก พ่อก็ไปมีภรรยาใหม่ พ่อของพายเคยมาขอลูกไปอยู่ด้วย แต่ไพลินไม่ยอมไป ยืนยันว่ายังไงก็จะอยู่กับยาย สุดท้ายพ่อของพายก็ยังดูแลตลอดเรื่องเงินและเรื่องความสะดวกต่างๆ นี่ถ้ารู้ว่ายายจันไม่สบายเขาจะต้องเข้ามาจัดการให้ยายจันไปอยู่โรงพยาบาลดีที่ทันสมัยในกรุงเทพฯแน่ๆ ยายจันไม่อยากยุ่งกับเขามากนัก เพราะภรรยาและลูกใหม่ของเขาชอบมาวุ่นวายกับหนูพายของยาย “งั้นเราพักที่บ้านสวนสักสองวัน แล้วก็เข้ากรุงเทพฯเลยนะคะ” ไพลินดีใจ แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆยายก็ตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย ปกติยายจะไม่ค่อยไปไหนไกลๆนานๆเลย ห่วงบ้านห่วงสวนมาก หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือยายกลัวว่าพ่อจะรู้ เพราะถ้าพ่อรู้ว่ายายไม่สบาย พ่อต้องมาหา และเมื่อพ่อมาหายายกับเธอ ภรรยาใหม่ของพ่อต้องไม่พอใจแน่ๆดังนั้นสู้ไม่ให้พ่อรู้ดีกว่า เธอกับยายจะได้ไม่ต้องวุ่นวายรำคาญใจ แต่ถึงยายกับเธอจะพยายามไม่ติดต่อพ่อ บางวันอยู่ๆพ่อก็โผล่มาเยี่ยมยายที่บ้านสวนบ่อยๆ เกือบหนึ่งทุ่มบัวชมพูหอบหิ้วข้าวของมาเต็มสองมือ “พูขนอะไรมาเยอะแยะไปหมดเลย ทำไมไม่โทรมาพายจะได้ออกไปรับ” “ไม่เป็นไรหรอกหอพูอยู่ในเขตโรงพยาบาลนี่แหละปั่นจักรยานมาแป๊ปเดียว นี่พูซื้ออาหารมาด้วยนะหลายอย่างเลย มากินกันเลยดีกว่า” “มาค่ะยาย พูเลือกซื้ออาหารที่ยายกินได้ และเราสองคนชอบ พูได้พักแล้วเดี๋ยวพูไปนอนบ้านยายด้วยนะคะ” “ดีเลยลูกแบบนี้ยายหายเร็วแน่ๆเลยนานแล้วนะที่พูกับหนูพายไม่ได้เจอกัน” “พูคิดถึงบ้านสวนของยายเสมอไม่เคยลืมเลย คิดตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่จะได้ไปนอนบ้านยายอีก” “ไปคราวนี้ยายจะทำกับข้าวอร่อยๆให้กิน”ยายจันพูดคุยอย่างอารมณ์ดี ทั้งสามคนกินอาหารที่บัวชมพูซื้อมา ยายจันกินข้าวได้เยอะมากคงเป็นเพราะดีใจที่หลานสาวมาหาเป็นกำลังใจที่ดีของยายจัน หลังกินข้าวเสร็จพยาบาลเข้ามาตรวจอาการของยายจัน จัดยาหลังอาหารให้ ทั้งสามคนพูดคุยเรื่องเก่าๆกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะยายอารมณ์ดีมาก “ยายคะพูไม่เคยลืมเลยสมัยก่อนเวลามีปัญหาเรื่องค่าเทอมพูรบกวนยายอยู่บ่อยๆ” “ช่างเถอะน่าอย่าคิดมากเลยหนูพูก็เหมือนหลานยายคนหนึ่ง ช่วยเหลือกัน” สมัยที่บัวชมพูเรียนมัธยมบ้านเธออยู่อีกอำเภอ การเดินทางลำบากที่บ้านทำไร่ทำสวน ยายจันเอ็นดูเห็นว่าเป็นเด็กเรียบร้อยขยันมากและยังเป็นเพื่อนสนิทของหนูพาย ยายก็อดสงสารไม่ได้ ยายจันชวนบัวชมพูมาพักที่บ้านด้วยเช้าก็ไปโรงเรียนพร้อมกับไพลิน เสาร์อาทิตย์กลับบ้านไปหาพ่อแม่ แต่ส่วนมากบัวชมพูไม่ค่อยกลับ รอกลับช่วงปิดเทอมใหญ่ “พูน้องชายใกล้จบหรือยังเหลืออีกกี่ปีพายจำได้ว่าพูมีน้องชายอีกคน” “ใช้พูมีน้องชายอีกคนตอนนี้กำลังเรียนวิศวะไฟฟ้าปีสอง เหลืออีกสองปีก็จะจบแล้ว” “อีกไม่นานหรอกอดทนเอานะพู พายเอาใจช่วย แล้วพูไม่อยากเรียนต่อแล้วเหรอ” “อยากมากเพราะถ้าพูเรียนสูงกว่านี้ ตำแหน่งหน้าที่การงานดีกว่านี้ เงินก็คงเยอะขึ้น พูอยากให้พ่อกับแม่สบาย ไม่อยากให้ทำสวนแล้ว เขาเหนื่อยทำมาเยอะแล้ว” “คนกตัญญูแบบพูตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอก สักวันพูจะสบายพายเอาใจช่วย” “ขอบใจนะพายมีแต่พายนี่แหละที่คอยให้กำลังใจ แล้วพายเป็นยังไงบ้างงานที่ทำ สุขภาพเป็นยังไงบ้าง” “พายเหรอสบายดีสบายมากด้วย ที่ทำงานก็ดีเรื่องหัวใจยังไม่มีใครเหมือนเดิม เหมือนเดิมทุกอย่างเลย ห่วงก็แต่ยายอย่างเดียวนี่แหละ” “แต่ยายบอกว่าจะไปอยู่กับพายที่กรุงเทพฯแล้วนี่” “ใช้ไม่รู้ว่ายายคิดอะไรอยู่ แต่พายดีใจนะเคยคิดว่าถ้ายายไม่ยอมไปอยู่ด้วย พายจะหางานแถวใกล้ๆบ้านเราทำ เงินเดือนน้อยแต่ได้อยู่ใกล้ยายได้ดูแลยายแค่นี้พายก็มีความสุขแล้ว” “แล้วเรื่องพ่อเป็นไงบ้างพาย ยังติดต่อกันอยู่ไหมพูเห็นทางโน้นเขาดูไฮโซกันมากเลย ทำตัวรวยสุดๆ” “ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลย พายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา กับพ่อก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันหรอก นานๆถึงได้เจอกัน พายไม่อยากยุ่ง เบื่อไม่อยากให้เขามาคอยเหน็บแนม” “ดีแล้วล่ะ ต่างคนต่างอยู่สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย “ “พายสงสารพ่อนะ แต่ถ้าจะมีปัญหาก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เดือนหนึ่งเจอกันกินข้าวด้วยกันครั้งสองครั้งก็พอ” ยายจันยังไม่หลับ นอนฟังสองสาวคุยกันเบาๆ หญิงชรารู้ว่าตัวเองแก่มากแล้ว เห็นทีว่าจะต้องจัดการเรื่องเอกสารทุกอย่าง เรื่องทรัพย์สินทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ ถ้าหากว่าเป็นอะไรไปจะได้ไม่ต้องห่วงมาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม