1
ชีวิตที่เปลี่ยนไป
หญิงสาวหน้าตาสวยดูน่าทะนุถนอม นั่งร้องไห้อยู่ภายในห้องนอนของตน น้ำตาที่ไหลมานานจนดวงตาของนางบวมเป่ง การแต่งงานที่นางไม่ได้ต้องการมันกำลังทำให้นางอยากตายให้ได้เสียตอนนี้เลย
“ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว เหตุใดไม่มีใครเข้าใจข้าเลยสักนิด ข้าไม่อยากแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รัก” จางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาทั้งน้ำตา
ตอนนี้มือของนางมีปิ่นปักผมที่ปลายแหลมมาก ๆ เหมือนกับว่านางได้เตรียมมันไว้ล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว
“วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ข้าจะทุกข์ทรมานกับการแต่งงานที่ข้าไม่ได้ต้องการ ข้าลาก่อน” จางลู่หลินเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา
จางลู่หลินขยับปลายปิ่นปักผมที่แหลมคมกระแทกเข้ากลางอกของนางอย่างแรง ทันทีที่ปลายปิ่นปักผมแทงเข้าไปโลหิตไหลออกมาเป็นสาย นางสิ้นใจลงตรงนั้นทันทีแต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็ได้เกิดขึ้น
จางลู่หลินลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปไม่นาน แววตาของนางไม่ได้มีความเศร้าหลงเหลือมีแค่ความสงสัยเท่านั้นที่ออกมาจากแววตาของนาง
“ที่นี่ที่ไหนอย่าบอกนะว่าเราทะลุมิติมาเหมือนนิยายที่เราแต่งได้ไม่กี่บท และบทนี้จางลู่หลินฆ่าตัวตายอย่าบอกนะว่าเราเป็นจางลู่หลิน” เอรินในร่างกายของจางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“มันเป็นกรรมของเราหรือนี่ที่เราแต่งนิยายแล้วเราต้องมาเป็นเองอย่างนี้ แต่เราแต่งมาได้แค่นี้ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรเราแต่งมาถึงแค่ตอนนี้ พล็อตที่เราวางไว้มันจะเป็นอย่างที่เราคิดไว้หรือเปล่า”
“คุณหนูตื่นหรือยังเจ้าคะ ข้าขอเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ” หว่านจื่อพี่เลี้ยงของจางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาจากหน้าห้องนอนของนาง
“เข้ามาสิ” จางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาพลางหยิบคันฉ่องขึ้นมาเพื่อส่องดูหน้าของนาง เมื่อนางได้เห็นร่างกายที่สวยงามนี่แววตาของนางก็ต้องตะลึงเพราะนางไม่คิดว่าตัวละครที่นางสร้างขึ้นจะสวยสง่าได้ขนาดนี้
“สวยเหลือเกิน” นี่คือคำอุทานที่ออกมาจากปากของนาง นางดูพึงพอใจในร่างใหม่ที่ได้มาอาศัยอยู่แต่พอนางคิดไปคิดมานางเริ่มคิดถึงพ่อกับแม่ของนางแต่นางไม่รู้เลยว่านางต้องทำเช่นไรถึงจะกลับไปได้
“คุณหนูว่าอย่างไรนะเจ้าคะ ตอนนี้คุณหนูต้องชำระร่างกายแล้วลงไปหาท่านพ่อกับท่านแม่ได้แล้วนะเจ้าคะ ตอนนี้ท่านพ่อกับท่านแม่รอคุณหนูอยู่นะเจ้าคะ” พี่เลี้ยงของจางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาแล้วก็เดินไปหานางใกล้ ๆ จางลู่หลินมองหน้าของพี่เลี้ยงแต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะนางไม่รู้ว่านางจะต้องพูดอะไร
“ไม่ต้องมาทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องเลยนะคะว่าวันนี้คุณหนูต้องไปงานเลี้ยงยินดีที่ท่านแม่ทัพอย่างท่านพ่อของท่านออกสงครามชนะพวกศัตรู ฮ่องเต้จึงจัดงานเลี้ยงใหญ่โต คุณหนูเองก็ต้องไปกับท่านพ่อและท่านแม่ด้วย” พี่เลี้ยงของนางเอ่ยขึ้นมายาวเหยียดแต่ดูเหมือนว่านางไม่ได้ยินเพราะตอนนี้นางลงไปกลิ้งบนเตียงนอนอีกครั้ง
“ข้าไม่อยากไปงานเลี้ยงอะไรอย่างนั้น ข้าอยากนอนโง่ ๆ อยู่ในห้องนอนนี้เท่านั้น” จางลู่หลินในรูปแบบใหม่ได้เอ่ยออกมาอย่างเอาแต่ใจ
“ไม่ได้นะเจ้าคะ ขัดใจท่านพ่อไม่ได้นะเจ้าคะ”
“ข้าไม่อยากไป ข้าง่วงเหลือเกิน” จางลู่หลินพูดจบพร้อมกับหลับตาไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอันใด
“ไม่ได้นะเจ้าคะ อย่าทำอย่างนี้นะเจ้าคะ ใกล้ได้เวลาแล้วคุณหนุต้องแต่งตัวแล้วนะเจ้าคะ” พี่เลี้ยงของนางพูดไปหน้าก็เหมือนจะร้องไห้เพราะถ้านางทำให้จางลู่หลินไปงานเลี้ยงในครั้งนี้ไม่ได้แน่นอนว่าบิดาของนางต้องลงโทษคนเป็นพี่เลี้ยงอย่างหว่านจื่อ
“แล้วทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้น ข้าไปก็ได้” จางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาแล้วก็ลุกขึ้นยืน
จางลู่หลินถูกขัดสีฉวีวรรณจากฝีมือของพี่เลี้ยงและบรรดาคนรับใช้หลายคนที่มาช่วยกันทำให้ผิวของนางผ่องขาวนวลเนียนที่สุดเพราะการไปงานเลี้ยงในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปงานเลี้ยงเท่านั้นแต่มันเป็นการนัดเจอกันระหว่างจางลู่หลินกับชายที่จะมาแต่งงานกับนางในเวลาอันใกล้นี้
จางลู่หลินเดินออกมาจากห้องของนางก็เห็นบิดากับมารดาของนางนั่งรอพร้อมกับรอยยิ้มที่เห็นลูกสาวยอมไปอย่างว่าง่าย
“ลู่หลินวันนี้เจ้าสวยมากลูกแม่” จางลี่หลู่มารดาของนางเอ่ยชมลูกสาวของตนอย่างภูมิใจที่มีลูกสาวสง่ามากขนาดนี้
“ลูกสาวของเราสวยเหมาะที่จะเข้าวิวาห์กับท่านชินอ๋องอย่างไม่มีที่ติ” จางอู๋เหวินบิดาของนางเอ่ยขึ้นมาแล้วก็ยิ้มออกมา
“ข้าไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รักสักนิด” จางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาตามที่นางรู้สึกแม้ว่านางจะไม่ใช่จางลู่หลินคนเดิมแต่นางก็เป็นคนสร้างตัวละครตัวนี้ขึ้นมาเองด้วยสมองของนางแน่นอนว่านางก็ต้องเข้าใจความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
“ลู่หลินอย่าเอ่ยอย่างนั้นสิลูก” มารดาของนางรีบเดินไปห้ามนางไม่ให้พูดมากไปกว่านี้เพราะเกรงว่าผู้เป็นบิดาจะไม่พอใจลูกสาว
“ทำไมข้าจะเอ่ยไม่ได้ ข้าไม่ได้อยากแต่งงาน ข้าอยากเป็นโสดอย่างนี้ ข้าไม่อยากมีสามี” จางลู่หลินเอ่ยขึ้นมาโดยที่ไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้น
“เจ้าไม่อยากแต่งยังไงเจ้าก็ต้องแต่งคนเป็นลูกสาวต้องเชื่อฟังบิดามารดา ข้าหวังดีต่อเจ้า ชีวิตของเจ้าจะได้สบาย มีหญิงสาวมากมายที่อยากแต่งงานกับท่านชินอ๋อง เจ้าอย่าเอ่ยอย่างนี้ให้ข้าได้ยินอีก” บิดาของนางเอ่ยขึ้นมาเสียงเข้มอย่างน่าเกรงขาม
จางลู่หลินแม้จะอยากต่อปากต่อคำกับบิดาของนางแต่ก็ไม่กล้าเพราะนางรู้ว่านิสัยของบิดาเป็นเช่นไร
จางลู่หลินมาร่วมงานเลี้ยงกับบิดาและมารดาของนางตอนนี้มีทหารมากมายมาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ ฮ่องเต้ยิ้มอย่างมีความสุขที่ชนะในครั้งนี้
“ท่านแม่ทัพ ท่านทำให้ข้ามีความสุขเหลือเกิน ข้าขอมอบของกำนัลให้ท่าน ข้าได้เตรียมไว้แล้ว” ฮ่องเต้หวังตงฉินเอ่ยขึ้นมาพลางยกสุราขึ้นมาแล้วบอกให้ทุกคนดื่มพร้อมกันเพื่อแสดงความยินดี
“ขอบพระทัยฮ่องเต้” จางอู๋เหวินเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับยกแก้วสุราขึ้นมาดื่มเช่นกัน