07
บอกเลิก
เพล้ง!
“กรี๊ด!!!” เสียงกรีดร้องแผดลั่นออกมา เมื่อแก้วและจานชามเซรามิกถูกขว้างปาลงสู่พื้นจนแตกกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
“พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ไป!” นายตวาดกร้าวต่อเนื่องหลังจากที่ระบายความเดือดดาลกับข้าวของ และคราวนี้เขาก็เดินเข้าไปคว้าหมับจับไหล่มนของแฟนสาวเข้าใกล้และตะคอกตอกหน้าเสียงดังพร้อมกับเขย่าตัวเธอแรง ๆ
“ฮึก...พี่นาย กุ๊กเจ็บ” กุ๊กตัวสั่นน้ำตาไหลอาบแก้ม เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นแฟนหนุ่มอยู่ในอารมณ์เดือดดาลเช่นนี้ ดวงตาวาวโรจน์คล้ายกับมีเปลวเพลิงกองใหญ่ รวมถึงอุ้งมือของเขาก็แทบไม่ต่างจากคีมเหล็กร้อน ๆ ที่กำลังแผดเผามอดไหม้ผิวกาย
“เจ็บสิดี! พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องไปทำงาน อยากไปหาเงินหรืออยากอยู่ห่างกับพี่กันแน่!”
หมับ!
“อ๊ะ” ร่างแบบบางถลาเข้าสู่อกแกร่งอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้ากระชากรั้งเธอแนบใกล้
“ตอบมาดิวะ!”
“กุ๊กบอกแล้วไงว่ากุ๊กไปทำงาน! กุ๊กก็อยู่กับพี่นายมาหลายวันแล้วนะ ใจคอพี่จะไม่ให้กุ๊กออกไปไหนบ้างหรือไง กุ๊กก็มีชีวิตของกุ๊กนะ!” คนตัวเล็กผลักแฟนหนุ่มออกและตวาดเสียงหนักแน่นอย่างไม่ลดละ เธอเองก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน ต้นเรื่องของการทะเลาะและมีปากเสียงกันก็เป็นเพียงแค่เธอบอกว่าจะต้องไปทำงานพิเศษซึ่งเป็นคาเฟ่ของรุ่นพี่
หากแต่ช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้ลงงานเนื่องจากแฟนหนุ่มสั่งห้าม ตอนแรกเธอคิดว่าเขาเป็นห่วงและไม่อยากให้เธอลำบาก แต่นานวันเข้าเธอกลับมองไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องรับฟังเขาอีกต่อไป
ในเมื่อเธอเองก็มีชีวิตของเธอ หากต้องทะเลาะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพียงเพราะขัดคำสั่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาเธอเองก็คงไม่ทนแล้วเหมือนกัน
“จะไม่ฟังกันแล้วใช่ไหมกุ๊ก!”
“กุ๊กเหนื่อยมากเลยอะพี่นาย เราทะเลาะกันแต่เรื่องไร้สาระ ถ้าพี่นายคิดว่ากุ๊กเป็นแฟนที่ไม่ดีกุ๊กว่าเราก็ควรเลิกกันดีกว่า” กุ๊กถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา แต่จากนั้นเธอก็ตัดสินใจเด็ดขาดเพราะคิดว่าเธอก็คงไม่สามารถทำตามความต้องการของเขาไปได้ตลอดเหมือนกัน
ทุกครั้งที่ทะเลาะกันก็มักจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อยไร้สาระ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอขอกลับมานอนที่หอพักตัวเองเพื่อทำรายงาน ขอออกไปกินข้าวกับเพื่อนบ้าง บางครั้งเธอก็ไม่อยากไปสนามแข่งกับเขา เธอไม่อยากไปดื่มเหล้าจนกลับมาด้วยสภาพเมามาย แต่ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธยังไงก็มักจะได้ยินคำตัดพ้อจากแฟนหนุ่มอยู่ตลอด
หาว่าเธอไม่รักไม่ใส่ใจ บอกว่าเธอเปลี่ยนไปไม่เป็นเหมือนก่อน คราแรกเธอใจอ่อนและยอมทุกอย่างเพราะไม่อยากทะเลาะ นายเป็นแฟนคนแรกและรักแรกของเธอ เธออยากประคับประคองความสัมพันธ์นี้ให้ได้นานและดีที่สุด แต่ในเมื่อยิ่งอยู่ก็ยิ่งทะเลาะและยิ่งฝืนทน เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือการเลิกรา
“นี่กุ๊กบอกเลิกพี่เหรอ” เสียงเข้มกดต่ำขณะที่สายตาก็ตวัดมองแฟนสาวด้วยความดุดันเหี้ยมเกรียม
กุ๊กที่เห็นแบบนั้นก็เกิดอาการสั่นกลัวขึ้นมา หากแต่เธอก็มั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองแล้วเหมือนกัน
“กุ๊กไม่ได้อยากเลิกหรอกค่ะ แต่ดูแล้วเราคงต้องทะเลาะกันแต่เรื่องพวกนี้ตลอด ในเมื่อพี่นายอยากมีแฟนที่อยู่ด้วยกันตัวติดกันตลอดเวลากุ๊กก็คงไม่ตอบโจทย์พี่ ขอโทษด้วยนะคะ”
หญิงสาวเชยใบหน้าและกดสายตามองสู้ เธอพยายามเปล่งเสียงให้หนักแน่นมากที่สุดแม้ว่ามันจะแกว่งกวัดสั่นเครือมากแค่ไหนก็ตาม
รักเขาสุดหัวใจ แต่เธอก็รักตัวเองด้วยเหมือนกัน
ในเมื่อคบกันแล้วมีแต่ทะเลาะเธอก็ไม่รู้จะอยู่ต่อทำไม รักได้ก็ตัดใจได้เหมือนกันนั่นแหละ!
“มึงกล้าบอกเลิกกูเหรอ!”
หมับ!
เพียะ!
“อ๊ะ!” ดวงตาหวานเบิกกว้างกับสิ่งที่ได้รับ มันคือฝ่ามือร้อนที่ฟาดทาบลงมายังแก้มข้างซ้ายของเธอจนรู้สึกถึงรสชาติและกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วโพรงปาก
ร่างเล็กเซเล็กน้อยจากแรงตบมหาศาล หากแต่มันก็ไม่เท่ากับความตกใจจากการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟน
“พี่ตบกุ๊กเหรอ” หยาดน้ำตาเอ่อคลอก่อนที่มันจะไหลหลั่ง เธอมองคนตรงหน้าด้วยความเจ็บปวดและผิดหวังเพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำร้ายกัน
“เออ! หรือมึงอยากจะโดนอีก”
“มึงแม่ง...เลว!” คนตัวเล็กสบถคำด่าออกมาก่อนจะหมุนตัวและเดินตรงไปยังประตูเพราะไม่อยากเห็นหน้าบุคคลคนนี้ให้นานมากกว่าวินาทีเดียว
การกระทำต่ำช้าหยาบคายมันก็ฟ้องชัดและยืนยันแล้วว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขาได้จบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ทว่า...
หมับ!
“มึงจะไปไหน!”
พรึ่บ!
“กรี๊ด!!!” กุ๊กแผดเสียงกรีดร้องเมื่อร่างกายถูกคว้าเอาไว้และลากตัวกลับมายังพื้นที่ในตัวห้องด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลของแฟนหนุ่ม
และไม่นานก็ถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้างขนาดหกฟุต เธอเจ็บจุกจนตัวงอ ยกมือขึ้นกุมหน้าท้อง แต่ความเจ็บแปลบส่วนข้อเท้าก็เข้าเล่นงานจนต้องผละตัวขึ้นไปดูถึงได้เห็นโซ่เหล็กข้อใหญ่พันรอบจนเกิดรอยแดง
“พี่นายทำบ้าอะไร ปล่อยกุ๊กนะ!”
“มึงจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น! มึงต้องอยู่ที่นี่ มึงต้องอยู่กับกู!”
พรึ่บ!
“อ๊ะ!” ข้อเท้าเล็กถูกดึงรั้งพลันทำให้ร่างแบบบางตกอยู่ใต้อาณัติของนายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ร่างสูงใหญ่คร่อมทับและกักกันด้วยวงแขนแข็งแกร่ง นายหยัดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะแค่นหัวเราะสะใจออกมาราวกับว่าเสียสติไปแล้ว
“ฮึ! มึงยังไปไหนไม่ได้ถ้ากูยังไม่เบื่อ!”
“พี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ปล่อยนะ หยุดทำบ้า ๆ สักที กุ๊กบอกให้...”
“กูจะเอาให้มึงเดินไม่ได้เลยคอยดู!”
“อึก!”
แควก!
“กรี๊ด!!!”
เสื้อผ้าถูกฉีกทึ้งจนขาดวิ่นเป็นเศษเล็ก ๆ รอยเล็บข่วนระคายตามผิวกายบอบบางจนฝากฝังบาดแผลเจ็บแสบที่ไม่สามารถต่อต้านได้
หญิงสาวร้องไห้อยู่ใต้ร่างจนแทบขาดใจ เนื้อตัวถูกสัมผัสร้ายพันธนาการและครอบครอง กระทั่งสติดวงน้อยถูกพรากให้จมดิ่งสู่ห้วงนิทราที่ไม่อยากตื่นลืมตาขึ้นมาอีกเลย...