09
ของเล่นใหม่
“มิล แกว่าลิปสีไหนเหมาะกับฉันอะ” กุ๊กถามเพื่อนสนิทพลางยื่นมือให้อีกฝ่ายช่วยเลือกลิปสติกหลายเฉดสีที่หยิบมาลองทาเทียบกับหลังมือ
มิลล่าเองที่กำลังยืนดูเครื่องสำอางอยู่ใกล้ ๆ ก็ชะเง้อหน้าเข้ามา เธอปราดมองเล็กน้อย จากนั้นก็จิ้มชี้สีที่ถูกใจและคิดว่าเหมาะกับเพื่อนตัวเองมากที่สุด
“สีนี้”
“แกนี่มันเพื่อนฉันจริง ๆ รู้ใจฉันสุด ๆ ฉันเองก็เล็งสีนี้ไว้ แต่อยากได้คนช่วยคอนเฟิร์ม งั้นฉันเอาอันนี้แหละ”
“กุ๊ก ฉันถามอะไรหน่อยสิ” มิลล่าเอ่ยเสียงแผ่วไม่มั่นใจ
“อะไรเหรอ”
“ที่แกบอกว่าเจอเฮีย...เอ๊ย...คุณเวย์ที่ร้านที่พี่นายชอบพาแกไปน่ะ แกเจอเขาบ่อยหรือเปล่า”
“แหม ถามถึงแฟนเก่าเหรอจ๊ะเพื่อนรัก” มือเล็กยกขึ้นจับปลายคางของเพื่อนอย่างนึกแซว พานทำให้มิลล่าถึงกับหน้าแดงลามไปถึงหูจนเธอต้องก้มหน้างุดและพยายามปิดบังซ่อนความรู้สึกเอาไว้
“บ้า! ฉันแค่อยากรู้ว่าแกเจอเขาบ่อยหรือเปล่า”
“ก็สองสามครั้งอะ เขามากับผู้ชายคนหนึ่งน่าจะเป็นพี่ชายมั้ง แล้วก็มานั่งกินเหล้ากับเจ้าของร้าน” หญิงสาวบอกพลางนึกถึงคนที่เพื่อนถามถึง
“งั้นเหรอ...”
“มาไหมล่ะ เผื่อจะได้เจอเขา”
“บ้า! ฉันจะไปทำไมล่ะ” มิลล่าตอบกลับเสียงแข็งและรีบส่ายหน้าหวือ เธอไม่มีความจำเป็นหรือความต้องการที่จะต้องไปเจอหน้าแฟนเก่า
“คิก ๆ แต่คุณเวย์เขาถามถึงแกด้วยนะ ตอนนั้นฉันเมาแล้วเผลอไปเดินชนคุณเวย์เข้าอะ เขาถามถึงแกใหญ่เลยถามว่าแกไม่มาด้วยเหรอ คุยกันจนพี่นายหึงอะ พี่นายดันคิดว่าคุณเวย์มาจีบ นี่ดีนะที่คืนนั้นไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน”
พอพูดถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นเธอก็ถึงกับขนลุกซู่ แทบไม่อยากจะคิดเลยว่าหากไม่มีคนมาห้าม แฟนของเธอได้หาเรื่องอีกฝ่ายจนเกิดประเด็นใหญ่แน่
แล้วอดีตคนรักของเพื่อนก็ดูท่าว่าจะสนิทสนมกับเจ้าของร้าน หากมีเรื่องก็คงเป็นฝ่ายเธอนี่แหละที่จะได้รับปัญหาก้อนใหญ่มากอด
“พี่นายเขาขี้หึงเกินไปหรือเปล่ากุ๊ก” มิลล่าถามด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากเธอรู้มาว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกที่แฟนของเพื่อนเข้าใจผิดในเรื่องนี้
“ไม่หรอก...คืนนั้นฉันเมาด้วยแหละ พี่นายเขาคงเป็นห่วงกลัวว่าจะมีคนมารุ่มร่ามใส่อะ”
“งั้นเหรอ...”
“ของเต็มตะกร้าเลยว่ะ นี่ฉันหยิบอะไรมาเยอะแยะวะเนี่ย”
“งั้นไปคิดเงินกันเลยไหม นี่ก็เย็นมากแล้วอะ ฉันต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้างานอีก กลัวจะไปไม่ทัน” มิลล่าเอ่ยบอกพลางมองนาฬิกาในข้อมือ ตอนนี้เหลือเวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง ไม่รู้ว่าเพื่อนอยากจะเดินเลือกซื้อต่ออีกหรือเปล่า แต่เธอเองก็มีงานพิเศษในตอนเย็นที่ต้องทำด้วยเหมือนกันจึงไม่สามารถอยู่นานกว่านี้ได้
“เฮ้ย! ฉันลืมเลยแก งั้นรีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวถามพี่นายก่อนว่าจะมาถึงหรือยัง” หญิงสาวทำหน้าตกใจ รีบหยิบของที่จะซื้อและเดินไปยังเคาน์เตอร์จ่ายเงินทันที ก่อนหน้านั้นก็มัวแต่เลือกซื้อของเพลินจนลืมดูเวลาว่าตอนนี้เย็นมากแล้ว อีกทั้งเธอเองก็มีนัดกับแฟนหนุ่มด้วยเหมือนกันถึงได้บอกให้เขามารอรับที่นี่
“พี่นายจะมารับเหรอ” มิลล่าถามด้วยสีหน้าตกใจ แต่ไม่นานเธอก็รีบเปลี่ยนกลับให้เป็นปกติ
“อื้ม เดี๋ยวให้พี่นายไปส่ง แกจะได้ไม่ต้องนั่งวินกลับไง”
“แต่...”
“มีอะไรหรือเปล่ามิล” กุ๊กสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเพื่อนก็ถามออกมา
“ไม่มีอะไรหรอก ฉัน...ฉันแค่เกรงใจน่ะ”
“ก็นึกว่าอะไร ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันไม่มีทางปล่อยให้แกนั่งพี่วินกลับเองแน่ ฉันเป็นคนลากแกมาเดินห้างเป็นเพื่อนนี่นา ฉันจะให้แกกลับเองได้ยังไง” เสียงเล็กบอกับเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้ม ซึ่งมันก็เป็นจังหวะที่มีสายโทรเข้าจากแฟนพอดิบพอดี “พี่นายโทรมาพอดีเลย สงสัยคงถึงแล้วล่ะ เราออกไปกันเถอะ...ค่ะพี่นาย ค่า...กุ๊กกำลังเดินไป...”
กุ๊กจับจูงมือมิลล่าพาเดินไปยังหน้าประตูห้างสรรพสินค้าเมื่อได้รับสายจากแฟนหนุ่มว่าเขามาถึงที่หมายแล้ว โดยไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
“มาแล้วค่ะพี่นาย กุ๊กรบกวนไปส่งมิลที่คอนโดฯ หน่อยนะคะ” เมื่อเปิดประตูรถของแฟนหนุ่มก็ไม่วายออดอ้อนด้วยเสียงหวาน ๆ
“มาเลยครับน้องมิล เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง ขึ้นมาเลย” นายเอี้ยวตัวไปบอกกับมิลล่าที่กำลังขึ้นรถนั่งที่เบาะด้านหลัง ก่อนที่เขาจะหันกลับมาและลูบไปที่เรือนผมนุ่มของแฟนสาวเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู “ไปซื้ออะไรมาหืม ได้กลิ่นน้ำหอมฟุ้งเชียว”
“กุ๊กไปซื้อลิปกับคลีนซิ่งมาน่ะค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นก็แวะลองน้ำหอมนิดหนึ่ง กลิ่นแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หญิงสาวก้มตาทั้งมองทั้งดมเสื้อนักศึกษาของตัวเองเมื่อถูกทักแบบนั้น
“ไม่แรงหรอก แต่ปกติกุ๊กไม่ได้ใช้กลิ่นนี้ไงพี่เลยแปลกใจ”
“จำได้ด้วยเหรอคะ กุ๊กนึกว่าพี่นายจะจำไม่ได้ซะอีก”
“พี่จำเรื่องเกี่ยวกับกุ๊กได้หมดนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นของที่ใช้ ขนาด หรือไซซ์ พี่ก็...”
“พะ...พี่นาย! พูดอะไรคะ รีบขับรถไปเลยค่ะ เพื่อนกุ๊กต้องรีบกลับ!” มือเล็กปิดทาบริมฝีปากของแฟนหนุ่มเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะพูดถึงเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา ใบหน้าของเธอออกสีแดงซ่าน อุณหภูมิในร่างกายก็พุ่งสูงจนต้องเร่งลมแอร์เป่าตัวให้แรงกว่าเดิม
รถยนต์ขับออกถนนสายหลักเมื่อส่งมิลล่ายังที่หมายได้สำเร็จ จากนั้นมันก็มุ่งสู่คอนโดฯ ของนายซึ่งอยู่ใจกลางเมือง
ครั้นมาถึงเขาก็รีบจับจูงมือของแฟนสาวขึ้นมาบนห้อง และเพียงประตูปิดสนิทข้าวของที่อยู่ในมือก็ถูกโยนทิ้งอย่างไม่รู้ทิศทางตามมาด้วยร่างบางที่ถูกดันให้ชิดติดกับกำแพงโดยไม่ทันตั้งตัว
“อ๊ะ!” กุ๊กร้องออกมาเบา ๆ ด้วยความเจ็บ แต่จากนั้นริมฝีปากก็ถูกครอบครองด้วยรสจูบของแฟนหนุ่มที่กดทาบทับฉกฉวยลงมาอย่างดูดดึง
ร่างเล็กถูกมือใหญ่พันธนาการได้แทบทุกส่วน ก่อนที่เสื้อและกระโปรงนักศึกษาจะถอดถอนออกไปจากตัว หากแต่มันกลับไม่ทันความต้องการของเขาจึงฉีกกระชากมันออกจนกลายเป็นเศษผ้า
แควก!
“พี่นาย!” เธอตวาดเสียงดังและผลักคนตรงหน้าออก มองเศษผ้าที่ถูกแฟนหนุ่มฉีกทิ้งจนขาดวิ่นตามพื้นอย่างไม่พอใจ
“ก็มันถอดยาก พี่ขอนะ”
“พี่นาย กุ๊กไม่...”
พรึ่บ!
นายไม่สนใจคำร้องห้ามอีกต่อไป เขาตวัดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพาเดินเข้ามายังห้องนอนวางเธอลงบนเตียงและตามคร่อมทับกักกันเอาไว้
หญิงสาวเบี่ยงหน้าออกเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากกดจูบไปตามแก้มและไล้ต่ำมายังต้นคอ เธออยากจะปฏิเสธเพราะยังเจ็บระบมกับครั้งก่อนไม่หาย
เวลามีเซ็กซ์กันนายค่อนข้างรุนแรงกับเธอมาก แม้ว่าเธอจะเสร็จสมถึงฝั่งฝันแต่เกือบทุกครั้งก็มักจะได้รับแผลและรอยช้ำกลับมาตลอด
แต่ทว่า...
“วันนี้พี่มีไอ้นี่ด้วยนะ ของเล่นใหม่ กุ๊กต้องชอบมากแน่ ๆ” เสียงห้าวทุ้มบอกพร้อมกับแรงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอเมื่อขยับตัวไปหยิบของบางอย่างออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง
กุ๊กยันตัวขึ้นมองสิ่งตรงหน้า ทว่าดวงตาสองข้างเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนที่ร่างกายจะถดถอยหนีอัตโนมัติ ราวกับว่ามันคือของที่เธอเกลียดกลัวมากที่สุด
“จะไปไหนครับที่รัก” มือใหญ่จับและกระชากข้อเท้าเล็กให้กลับมาอยู่ใต้อาณัติดังเดิม ขณะที่มืออีกข้างก็เกลี่ยไล้บางเบาไปที่แก้มใสของแฟนสาวซึ่งตอนนี้สั่นระริกหวาดหวั่น
“ไม่นะพี่นาย ไม่...กุ๊กไม่...” เสียงเล็กขาดห้วงเจือจาง เธอกลัวจนพูดอะไรไม่ออก ทำเพียงส่ายหน้าปฏิเสธและร้องขออ้อนวอนลึก ๆ ว่าเธอไม่ชอบของสิ่งนั้นจริง ๆ
สิ่งนั้นที่ว่าคือ ‘กุญแจมือ’ และ ‘เซ็กซ์ทอย’ รูปร่างประหลาด!
หัวใจดวงน้อยวูบไหวจนอยากให้มันดับสูญหายไป รับรู้ถึงชะตากรรมตัวเองแล้วว่าเซ็กซ์ครั้งนี้จะได้มากกว่าแผลและรอบช้ำกลับมาแน่นอน
“กุ๊กไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ พี่ต่างหากที่จะเป็นคนตัดสินใจว่ากุ๊กเหมาะสมกับอะไร”
“พี่นาย...”
“พี่ชอบได้ยินเสียงครางกับเสียงร้องทรมานของกุ๊ก มันเร้าอารมณ์พี่มาก ร้องดัง ๆ นะครับคนดีของพี่”
“พะ...พี่นาย...กุ๊ก กุ๊กไม่...อื้อ!”
คำพูดถูกดูดกลืนหายลับไปจนหมดสิ้น มันถูกพรากด้วยฝีมือของนายที่กดริมฝีปากทาบทับเพื่อตัดรำคาญและเป็นการเริ่มต้นบทบรรเลงหนักหน่วงนับแต่จากนี้