03
ลูกสาว
“นายครับ คืนนี้นายจะให้เรียกน้องมาบริการหรือเปล่าครับ ผมจะได้เตรียมไว้ให้” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามหลังจากเดินเข้ามาหาผู้เป็นนายในห้องทำงาน
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว เจ้านายของเขากำลังเคลียร์สะสางงานอยู่ในห้อง ท่าทางเคร่งขรึมเครียดจัด และวิธีที่จะทำให้คลายบรรเทาได้ก็คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงที่มักจะจัดเตรียมเสาะหาให้นายตลอด
“ไม่ต้อง” คนหน้าโต๊ะทำงานเอ่ยเสียงเข้มทั้งที่สายตาไม่แม้แต่จะเชยมอง เขายังจดจ่อให้ความสนใจกับแผ่นกระดาษเพียงใดเดียว หากแต่มันล้วนมีมูลค่าหลายสิบล้านเพียงหยิบปากกาและตวัดเซ็นด้วยชื่อตัวเอง
“หรือจะให้เรียกน้องมีมี่ดีครับนาย” เดย์เอ่ยต่อ
“กูบอกว่าไม่ไงวะไอ้เดย์ มึงนี่เซ้าซี้จริง จะไปไหนก็ไป กูยุ่งอยู่”
“โธ่...นายล่ะก็ ผมก็เป็นห่วงเห็นนายกำลังเครียด ถ้าได้สาว ๆ สวย ๆ สักคนมาอยู่ข้าง ๆ น่าจะดีนะครับนาย”
ภาระงานของตนุธิปไม่ได้มีแค่ร้านสังสรรค์แห่งเดียว หากแต่เขามีธุรกิจมากมายไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ต้องบริหารต่อจากครอบครัวอย่างบริษัทผลิตเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ กิจการสนามแข่งที่ร่วมลงทุนกับเพื่อน แล้วอีกมากมายที่ถือครองแต่ไม่ได้เปิดเผย
ร้านสังสรรค์แห่งนี้ก็เหมือนเป็นอีกสถานที่ทำงานที่เขาคิดว่ามันคือเซฟโซนของตัวเองมากที่สุด เขาเปิดร้านนี้ก็เพราะความชอบและหลงใหลในเหล้ารสแรง ชื่นชอบเสียงเพลงและความสนุกสนาน ไม่แปลกเลยที่เขามักจะหอบงานมาทำที่นี่เกือบทุกคืน
ติ๊ง!
ติ๊ง!
เสียงโทรศัพท์เรียกความสนใจจากตนุธิปได้ทันที เขาวางมือจากทุกอย่างแล้วหันไปหยิบมันขึ้นมา พลันเมื่อหน้าจอปรากฏถึงการแจ้งว่าใครเป็นคนส่งมาก็ทำให้รอยยิ้มบาง ๆ หยัดขึ้นอย่างที่ไม่ค่อยมีใครเคยได้เห็น
เดย์ที่เห็นแบบนี้ก็แทบอยากหยิบมือถือมาเก็บภาพไว้แปะหราโชว์เด่น แต่ก็รู้ขอบเขตดีว่าหากทำแบบนั้นมีหวังโดนเจ้านายวิ่งไล่เตะแน่ เขาค้อมศีรษะลงน้อย ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องปล่อยให้นายของเขาได้ใช้เวลาส่วนตัว
MESSAGE - ลูกสาวคนสวยของคุณพ่อ (2)
: - ส่งสติ๊กเกอร์ *คิดถึง* -
: กับขะ
เสียงหัวเราะดังออกมาจากลำคอเบา ๆ เมื่อไล่สายตาอ่านสิ่งที่คู่สนทนาส่งมา
เอ็นดูกับสติ๊กเกอร์คำว่าคิดถึงไม่พอยังมาขำขันกับข้อความว่า ‘กับขะ’ นั่นอีก คงจะหมายความว่า ‘กลับค่ะ’ แบบนี้สินะ
อ่า...เขาถูกตามให้กลับบ้านซะแล้วสิ
และเพียงเท่านั้นก็ทำให้ตนุธิปล้มเลิกงานทุกอย่างทันที เขาปิดแฟ้มเอกสาร เก็บข้อมูล และหยุดการทำงาน ณ บัดดล ความตั้งใจจดจ่อไปกับข้อความนั้นเพียงอย่างเดียว และในตอนนี้ใจของเขาก็มุ่งสู่ทางกลับบ้านแล้วเรียบร้อย
‘ลูกสาว’ ตามกลับบ้านแบบนี้เขาจะเมินเฉยปล่อยผ่านไปได้ยังไงกัน
“นายจะไปไหนครับ” เดย์ถามผู้เป็นนายด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเดินออกมาจากห้องพร้อมด้วยกุญแจรถหรูที่แกว่งหมุนอยู่ในมือ
“กลับบ้าน” ตนุธิปตอบกลับสั้น ๆ จากนั้นก็ก้าวยาว ๆ ตรงปรี่ไปยังรถยนต์คันหรูของตัวเอง โดยมีจุดหมายปลายทางคือบ้านหลังใหญ่ของตัวเองทันที
ใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีรถสปอร์ตราคาแพงก็ขับเข้ามาในอาณาบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูล ‘ธาดากุลพาณิชย์’
ตนุธิปเดินลงจากรถแล้วก็เดินไปยังทิศทางห้องนอนของลูกสาวอย่างไม่รีรอ พอก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือก็เห็นว่าตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว ครั้นมาหยุดอยู่หน้าห้องก็ได้ยินเสียงจากด้านในพานทำให้คิ้วเข้มขมวดมุ่นแทบเป็นปม ไม่รอช้าจึงรีบเคาะประตูเอ่ยบอกกับคนด้านใน
“พ่อเองนะครับ ขอเข้าไปไหนไหมเอ่ย”
“ได้ค่ะ” ยืนรอคำตอบไม่กี่วินาทีเสียงหวาน ๆ เล็ก ๆ ก็เอ่ยอนุญาต
ตนุธิปเปิดประตูบานสีชมพูเข้าไปทันที และเพียงย่างก้าวเข้าไปก็แทบเหมือนกับหลุดไปยังอีกโลกหนึ่ง มันสวยงามดุจเทพนิยาย ซึ่งเป็นเขาเองนั่นแหละที่รังสรรค์คนให้มาทำตามความชื่นชอบของลูกตัวน้อย จนมันกลายเป็นห้องนอนของเจ้าหญิงในนิทานไปเสียแล้ว
ประตูห้องสีชมพู ตัวห้องและข้าวของทั้งหมดก็ล้วนแต่เป็นสีชมพู โต๊ะ เตียง หมอน ผ้าห่ม และอีกมากมายเป็นสีชมพูสวยหวาน มันเหมาะสมและเข้ากันกับลูกสาวของเขาเป็นที่สุด
ลูกสาวที่ว่าก็คือลูกสาวจริง ๆ เด็กผู้หญิงวัยสี่ขวบหน้าตาน่ารัก ผิวขาวเนียนตามแบบคนมีเชื้อจีน หากแต่ดวงตากลมโตดุจเม็ดลำไย พวงแก้มแดง ๆ อวบอ้วนอิ่มเต็ม ทั้งหมดทั้งมวลหลอมรวมเป็นเจ้าตัวน้อยผู้เป็นโลกทั้งใบของตนุธิป
“ทำไมยังไม่นอนอีกลูก ดึกแล้วนะ” คุณพ่อกดสายตาและน้ำเสียงดุกับลูกสาววัยสี่ขวบ แต่เพียงเสี้ยววินาทีทุกอย่างที่ตั้งใจก็พังทลายเมื่อวงแขนน้อย ๆ ยกกว้างขึ้นทำท่ารอคอยที่จะสวมกอดเขาตั้งแต่ย่างกรายเข้ามาในห้องนี้
หัวใจคนเป็นพ่ออ่อนยวบเป็นของเหลวเกินกว่าจะต้านไหว
“เกลคิดถึงคุณพ่อ” เสียงเล็กเอ่ยทั้งดวงตาใสแจ๋วเหมือนลูกแก้ว และไม่นานเด็กตัวน้อยก็ได้รับกอดเติมเต็มอย่างแนบแน่นฝังลึกอยู่ภายใต้ความอบอุ่นที่หลงใหลชื่นชอบอยู่ตลอด
“พ่อก็คิดถึงน้องเกล” ไม่พูดเปล่ายังกดจูบหนัก ๆ ลงบนเรือนผมนุ่ม พร้อมกับอ้อมกอดที่ถ่ายทอดทุกความรักให้ส่งผ่านกับเด็กตัวน้อยที่จมฝังกับอกแกร่งของตัวเอง “แล้วนี่ดูอะไรอยู่ลูก ดึกแล้วนะ น้องเกลต้องนอนได้แล้ว”
สายตาคมหันไปตามเสียงซึ่งดังมาจากแล็ปท็อปจอใหญ่ที่วางอยู่บนเตียงใกล้ ๆ มันเป็นเพื่อนคู่กายของลูกเขาชนิดที่ว่าไม่เคยปล่อยให้ห่างกาย ทั้งที่กำหนดเวลาเล่นไว้อย่างชัดเจนแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถหักห้ามได้อย่างเด็ดขาด เนื่องด้วยไม่มีเวลาอยู่กำชับมากนัก
“ดูพี่เล่นเกมค่ะ พี่เล่นเกมสวยมากเลยนะคะคุณพ่อ” เด็กหญิงรีบหยิบจออิเล็กทรอนิกส์มาโอ้อวดพ่อด้วยรอยยิ้มฉีกกว้างสดใส
บนหน้าจอกำลังฉายภาพสตรีมเกมสด มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการหรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นผู้ขึ้นสตรีมและเล่นเกมไลฟ์ลงแพลตฟอร์มออนไลน์
ตนุธิปถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง ตกใจที่ลูกเขาเสพสื่ออะไรพวกนี้ด้วย สตรีมนี้เป็นสตรีมสดซึ่งเกี่ยวกับเกมยิงปืนและสู้คน และสิ่งที่เขาตกใจมากที่สุดก็คือผู้หญิงที่อยู่ในจอที่ลูกสาวของเขาชมเปาะว่าเป็นพี่เล่นเกมคนสวยนี่แหละ
‘สวัสดีคนที่เข้ามาใหม่ทุกคนเลยนะคะ กุ๊กฝากกดเลิฟกดติดตามให้กันด้วยน้า หรือใครใจดีก็จะส่งดาวมาให้กำลังใจกันก็ไม่ติดค่ะ แล้วก็จะรักเป็นพิเศษด้วย คิก ๆ’
เสียงจากคนในจอเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขบขันที่กำลังพูดคุยสนุกสนานกับผู้เข้าชมของตัวเอง หากแต่คราวนี้ตนุธิปถึงกับแน่นิ่งสติหลุดไปแล้ว
ตอนแรกเขาเพ่งมองเพื่อให้มั่นใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด ผู้หญิงในจอคือคนที่เขาเคยเห็นเธอบริเวณหลังร้านเมื่อหลายคืนก่อน เธอคือเขาที่เขาซุ่มมองในเงามืด เธอคือคนที่เหมาดอกไม้เด็กตัวน้อยในราคาห้าร้อยบาท ใช่...เป็นเธอคนนั้นจริง ๆ
“มาโผล่นี่เฉย” เสียงเข้มเอ่ยเบา ๆ พลางหัวเราะ ไม่คิดว่าเขาจะเจอเธออีกครั้งผ่านหน้าจอที่ลูกสาวเปิดดูแบบนี้
“คุณพ่อรู้จักพี่เล่นเกมเหรอคะ” เด็กน้อยเอียงคอถามด้วยแววตาใสซื่อเปล่งประกาย พานทำให้คนที่มองถึงกับใจอ่อนยวบซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่วายดึงรั้งลูกสาวเข้ามากอดหนัก ๆ
“พี่เขาชื่ออะไรคะ ชื่อพี่เล่นเกมเหรอหืม”
“ไม่ใช่ค่ะ พี่เขาชื่อกุ๊ก แต่น้องเกลชอบเรียกเขาว่าพี่เล่นเกมก็เพราะพี่เขาชอบเล่นเกม แถมยังสวยน่ารักอีกด้วย น้องเกลชอบดูก่อนนอนทุกคืนเลย”
“คุณพ่อบอกว่ายังไงคะ หืม...น้องเกลต้องนอนแต่หัวค่ำ แล้วก็ห้ามเล่นเจ้าเครื่องนี้หลังทานข้าวเย็นเสร็จ” คราวนี้ผู้เป็นพ่อเริ่มพูดเสียงขรึม
มั่นใจแล้วว่ากิจวัตรของลูกสาวน่าจะเป็นแบบนี้ทุกคืน หากแต่เขาก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ไม่มีเวลามาดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิดในช่วงวัยที่แกต้องการความรัก
“น้องเกลมีคำถามค่ะ” เด็กหญิงโพล่งขึ้นเปลี่ยนฉับหัวข้อสนทนาที่รู้ตัวว่าน่าจะถูกดุในอีกไม่ช้า
“เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว คุณพ่อไม่หลงกลหรอกนะ”
“น้องเกลมีคำถามจริง ๆ ค่ะ คุณพ่อตอบน้องเกลหน่อยสิคะ นะ ๆ น้องเกลอยากรู้จริง ๆ” ตั้งใจจะเบี่ยงเบน แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้เด็กสาวเกิดอยากรู้ขึ้นมาจริง ๆ แต่ไม่มีโอกาสได้ถามคนเป็นพ่อสักที
“คำถามอะไรคะ” ตนุธิปที่เห็นดวงตาสุกใสของลูกสาวก็เป็นต้องพ่ายแพ้
“แม่คืออะไรคะ น้องเกลมีแม่หรือเปล่า”
เวร!
คำสบถเดียวที่เกิดขึ้นในหัวมีแต่คำนี้คำเดียว
ตนุธิปถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไม่คิดว่าลูกสาวจะถามถึงแม่แบบนี้
ก็ไม่มีน่ะสิ!
ใช่...น้องเกลลูกสาวเขาไม่มีแม่
“น้องเกลอยากมีแม่ น้ำอิงเพื่อนของน้องเกลที่โรงเรียนมีแม่สวยมากเลย แต่น้องเกลไม่รู้ว่าแม่คืออะไร แม่คือผู้หญิงที่สวยเหรอคะ”
“เอ่อ...” คนเป็นพ่อสมองดับไปชั่วขณะ เห็นถึงความบรรลัยมาเยือนในอนาคตอันใกล้
ลูกสาวเขาโตขึ้นทุกวัน ไม่แปลกเลยที่จะถามถึงแม่ แต่เขานี่สิที่ไม่เคยคิดหาคำตอบมารับมือ หากน้องเกลรู้ว่าตัวเองไม่มีแม่แบบคนอื่นจะเสียใจหรือเปล่า
“คุณพ่อหาแม่ให้น้องเกลได้ไหมคะ น้องเกลอยากมีแม่สวย ๆ เหมือนน้ำอิง”
“ฮะ? ให้คุณพ่อหาแม่?” จากที่เครียดขรึมก็หลุดหัวเราะพัลวัน เขาไม่คิดว่าลูกสาวไร้เดียงสาจะพูดร้องขอให้เขาหาแม่กันโต้ง ๆ
โธ่ลูกเอ๊ย...รู้หรือเปล่าว่าที่พูดมาน่ะหมายความว่ายังไง
“ใช่ค่ะ น้องเกลอยากมีแม่สวย ๆ หรือจะน่ารักแบบพี่เล่นเกมคนนี้ก็ได้นะคะ ถ้าน้องเกลมีแม่น้องเกลจะพาไปหาน้ำอิง แล้วก็จะพาแม่ไปแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จัก”
สายตาคมเปลี่ยนกลับไปมองยังหน้าจอแล็ปท็อปอีกครั้ง หากเขาให้พี่เล่นเกมมาเป็นแม่จริง ๆ ก็คงยาก
เอ๊ย! ไม่ได้สิวะ...ตนุธิปสะบัดศีรษะไล่ความคิดบ้า ๆ
“น้องเกลต้องปิดได้แล้วนะคะ น้องเกลควรนอนได้แล้ว” ร่างใหญ่วางลูกสาวให้นอนลงบนเตียงและจัดแจงคลุมผ้าห่มผืนหนาให้ หากเขาอยู่พูดคุยต่อมีหวังลูกสาวของเขานอนดึกไปกว่านี้แน่
“คุณพ่ออย่าลืมนะคะ หาแม่ให้น้องเกลด้วยนะ ขอสวย ๆ เลยนะคะ น้องเกลอยากมีแม่สวย ๆ”
“ตัวแสบ...นอนได้แล้วค่ะ คุณพ่อจะปิดไฟแล้วนะ ฝันดีนะลูกสาวคนสวยของคุณพ่อ” ตนุธิปหยิกแก้มเจ้าตัวจ้อยเบา ๆ ก่อนจะกดจูบฝากฝังส่งให้ลูกสาวหลับใหลถึงห้วงนิทราแสนหวาน
พลันตัวห้องมีเพียงโคมไฟสลัวที่เปิดส่องน้อย ๆ เขาก็เดินออกจากห้องแล้วค่อย ๆ ปิดประตูอย่างเบามือ หากแต่ภายในหัวกลับมีแต่เรื่อง ‘หาแม่สวย ๆ’ ให้ลูกสาวจนเก็บกลับไปนอนฝันอยู่ตลอดทั้งคืน