05
รักแรก
“เฮ้อ...เซ็งว่ะมิล แกว่าวิชานี้ฉันจะได้กินเอฟไหมวะ” เสียงถอนหายใจดังออกมาเฮือกใหญ่หลังจากที่เดินลงมาจากตึกคณะเมื่อจบวิชาอันแสนโหดหินขึ้นชื่อสำหรับชาวการโรงแรม
กุ๊กเดินห่อไหล่คอตกตั้งแต่ออกจากห้อง สีหน้าเคร่งเครียดเหนื่อยหน่ายราวกับแบกความทุกข์ของคนทั้งโลกเอาไว้ ซึ่งต้นสายปลายเหตุก็คือนางสาว กุลธิดาคนนี้ถูกอาจารย์ตำหนิติเตียนเรื่องรายงาน สั่งแก้กลับมาไม่พอ ยังมีคำขู่ประกาศิตแสบสันสะท้านไปถึงทรวงอีกว่า...
“อาจารย์ไม่โยนทิ้งถังขยะก็ดีแค่ไหนแล้ว ไปแก้ให้มันดีกว่านี้นะคะ ถ้าครั้งที่สองยังแย่แบบนี้อีกอาจารย์คงต้องให้เกรดตามสภาพ”
เพียงเท่านั้นภายในห้องเรียนก็ต้องอยู่ในความอึมครึมอบอวลไปด้วยพายุฝนโหมกระหน่ำ กว่าเวลาจะล่วงผ่านไปจนครบสามชั่วโมงก็เรียกได้ว่าสาหัสปางตาย
“ไม่หรอก แกก็แค่ให้แก้ใหม่ อาจารย์ก็บอกไว้แล้วนี่นาว่าต้องแก้ตรงไหนบ้าง จากที่ฉันดูเนื้อหามันยังไม่แน่นพอจริง ๆ ฉันว่าแกต้องหาข้อมูลจากในหนังสือเพิ่ม หาในเน็ตอย่างเดียวมันไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่”
‘มิลล่า’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของกุ๊กเอ่ยบอกพลางลูบที่แผ่นหลังบางของเพื่อนเบา ๆ เธอหยิบรายงานที่ถูกตีกลับมาเปิดดูเนื้อหา เห็นปากกาสีแดงขีดเขียนสั่งแก้มากมาย พอลองอ่านใจความข้างในก็ได้คำตอบเห็นพ้องไม่ต่างจากอาจารย์สักเท่าไหร่ว่ารายงานเล่มนี้ยังมีสิ่งที่ต้องแก้อีกมากเลยทีเดียว
“อืม...ฉันรีบทำเพราะอยากรีบทำมันให้เสร็จ ๆ ไม่แปลกหรอกที่อาจารย์จะด่าเปิงแบบนั้น” กุ๊กทิ้งตัวนั่งลงบนม้าหินใต้ต้นไม้หน้าตึกอย่างคนอ่อนแรง
ยอมรับอย่างไม่อายว่าเธอบกพร่องมากแค่ไหน รายงานเล่มนี้มีกำหนดเวลาสั่งและส่งงานอย่างชัดเจน เพียงแต่เธอเลือกที่จะให้เวลากับมันเพียงไม่ถึงสัปดาห์เท่านั้น
“ฉันจะช่วยแกทำเอง เราไปห้องสมุดกันเถอะกุ๊ก ไปช่วยกันหาข้อมูลมาทำรายงานกัน ฉันรับรองว่าคราวนี้อาจารย์ต้องชมแกแน่” มิลล่าตบไหล่เพื่อนสนิทเบา ๆ และพยายามพูดให้กำลังใจที่เหลือน้อยเต็มทน
“ขอบคุณแกมากนะมิล แต่วันนี้แกมีทำงานไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวเชยหน้าขึ้นมองเพื่อน นึกซาบซึ้งในความหวังดีอยู่เหมือนกัน แต่ก็รับรู้ดีว่ามิลล่าต้องทำงานพิเศษในช่วงหลังเลิกเรียน
“เหลืออีกตั้งหลายชั่วโมง ฉันไปช่วยแกหาหนังสือที่ห้องสมุดแล้วเดี๋ยวค่อยไปทำงานก็ได้”
“โห...ลำบากแกแย่ ไม่เป็นไรหรอกมิล แกกลับคอนโดฯ แล้วก็ไปเตรียมตัวเถอะ เดี๋ยวฉันไปห้องสมุดคนเดียวเอง”
“แต่ว่า...”
“ฉันเกรงใจแกมากจริง ๆ มิล แกรีบหลับเถอะ ไว้ถ้าฉันไม่ไหวจริง ๆ ฉันจะขอร้องแกให้ช่วยเป็นคนแรกเลยนะเพื่อนรัก” ไม่พูดเปล่าเธอยังทำหน้าอ้อน ๆ ถูไถไปที่ต้นแขนกลมกลึงของเพื่อนสนิท
“แกเนี่ยน้า...”
“แกรีบไปเถอะ ป้ะ...เดี๋ยวฉันไปส่งแกที่คอนโดฯ แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาห้องสมุด” มือเล็กจับจูงมือเพื่อนสนิทให้เดินไปที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซค์สำหรับนักศึกษาด้วยกัน
ปกติแล้วกุ๊กมักจะขี่มอเตอร์ไซค์มาเรียนอยู่ตลอดเนื่องจากทางบ้านส่งรถมาให้ใช้ในระหว่างที่ต้องอยู่อาศัยหอพักซึ่งใกล้กลับมหาวิทยาลัย และเธอก็อาสาไปรับไปส่งเพื่อนสนิทอยู่บ่อย ๆ เพราะมิลล่าไม่มีรถส่วนตัว
“ไม่ต้องเลย แกจะไป ๆ มา ๆ ทำไมล่ะ ฉันนั่งพี่วินไปเองได้ แกน่ะรีบไปห้องสมุดเถอะ ฉันไปและ ไว้เจอกันนะแก ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดนะ บาย”
“โอเคแก บาย” ดวงตากลมโตทอดมองไปยังเพื่อนสนิทที่เดินแยกออกไปจนกระทั่งลับสายตา จากนั้นถึงได้รีบหมุนตัวและก้าวตรงปรี่ไปยังห้องสมุดอย่างรวดเร็วเพราะเห็นว่าตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว
หญิงสาวเดินมายังหอสมุดส่วนกลางของมหาวิทยาลัย แต่จังหวะที่จะก้าวข้ามผ่านประตูเซนเซอร์สแกนบัตรนักศึกษาเข้าไปนั้น เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อนจึงทำให้เธอหยิบมันออกมาและรีบกดรับสายทันที
“ค่ะพี่นาย” คนที่โทรเข้ามาคือแฟนหนุ่มของเธอ
[เย็นนี้ไปสนามแข่งกันนะกุ๊ก พี่ว่าจะไปซ้อมสักหน่อย อาทิตย์หน้าจะลงแข่งแล้ว]
“เย็นนี้กุ๊กไม่ว่างน่ะค่ะ กุ๊กโดนอาจารย์สั่งแก้รายงานทั้งเล่มเลย กุ๊กว่าจะ...”
[เอาไว้ค่อยทำก็ได้นี่นา ไปสนามแข่งกับพี่นะครับ พี่อยากได้กำลังใจจากกุ๊ก]
เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยขึ้นพานทำให้หัวใจดวงน้อยอ่อนยวบ เป็นอีกครั้งที่เธอพ่ายแพ้ให้กับคำร้องขอของแฟนหนุ่ม
“แต่กุ๊ก...”
[นะครับ ไปกับพี่นะ พี่สัญญาว่าจะกลับไม่ดึก นะครับกุ๊ก นะครับ...]
“ก็ได้ค่ะ กุ๊กไปก็ได้” ในที่สุดเธอก็จำต้องตอบรับแฟนหนุ่ม
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเล็กน้อยให้กับความเผลอไผลหวั่นไหวของตัวเอง ยอมรับเลยว่าไม่หนักแน่นพอที่จะปฏิเสธใคร โดยเฉพาะกับนายซึ่งเป็นแฟนหนุ่มเธอยิ่งไม่เคยขัดใจเขาสักครั้ง
ประสบการณ์ความรักของเธอไม่ได้มีมากนัก หรือจะเรียกว่าเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้
กุ๊กมีอาชีพเสริมซึ่งก็คือการขึ้นสตรีมเกมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในเวลาว่าง และเธอก็รู้จักกับนายในตอนที่ขึ้นสตรีมเกม นายเข้ามาในรูปแบบของแฟนคลับที่ส่งกำลังใจและพิมพ์ข้อความมาพูดคุยกันอยู่ทุกคืน จนนานวันก็เริ่มหวั่นไหว และในที่สุดเธอและเขาก็ตกลงที่จะคบหากันเป็นแฟน
เขาคือแฟนคนแรกในชีวิตของเธอ
และก็เป็นความรักครั้งแรกที่ทำให้เธอถลำลึกไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้
“เฮ้อ...รีบไปหาหนังสือดีกว่า” กุ๊กสั่นศีรษะสะบัดไล่ความคิดออกไปจากนั้นก็รีบเดินเข้าไปยังห้องสมุดเพื่อหาข้อมูลสำหรับการทำรายงานทันที
สนามแข่งรถ
นายมารับเธอไปสนามแข่งรถในช่วงหนึ่งทุ่ม และแน่นอนว่าคนที่มีงานต้องแก้ก็จำต้องหอบหนังสือและโน้ตบุ๊กมาทำงานที่นี่ด้วยเนื่องจากกลัวว่าจะเสร็จไม่ทันตามกำหนดเวลา
หญิงสาวกอดหนังสือเล่มหนาและกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊กไว้กับอก พอมาถึงสนามแข่งเธอก็เดินตามแฟนหนุ่มเข้ามาที่ตอนนี้เอาแต่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ตั้งแต่รู้ว่าเธอจะเอางานมาทำด้วย
“พี่นายเดินช้าหน่อยสิคะ กุ๊กเดินตามไม่ทัน” เสียงเล็กเอ่ยบอกทำให้แฟนหนุ่มหันมา
ดวงตาของนายแข็งกร้าวดุดัน เขาตวัดมองหญิงสาวก่อนจะเอ่ยคำพูดหงุดหงิดที่ทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก
“ถ้าลำบากขนาดนั้นก็ไม่ต้องมา! นี่มันสนามแข่งไม่ใช่ห้องเรียน จะแบกหนังสือมาทำไมวะ!”
“พี่นาย...” กุ๊กเอ่ยเสียงสั่น ตกใจที่เห็นความโกรธเกรี้ยวในตัวแฟนหนุ่ม เธอรู้ว่าเขาอารมณ์ร้อน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเดือดดาลโมโหง่ายขนาดนี้ทั้งที่เธอเพียงแค่เอางานมาทำในระหว่างที่รอเขาซ้อมเท่านั้น
เธอไม่ใช่เด็กเนิร์ดที่จะหอบหนังสือมาอ่าน ซ้ำยังเป็นคนห้าว ๆ และมีความเป็นผู้หญิงน้อยกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมพอมีความรักเธอถึงได้เหลือความมั่นใจเพียงเสี้ยว ยิ่งกับแฟนคนนี้แล้วเธอยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเองจนไม่รู้เลยว่าที่เป็นอยู่มันดีหรือเปล่า
“อ้าวไอ้นาย วันนี้ก็มาซ้อมเหรอวะ” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพลันทำให้บทสนทนาของสองคนหยุดลง
นายปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ เขาหันไปยังคนที่เดินมาใหม่แต่ก็ไม่วายตวัดสายตามองคนตัวเล็กข้างกายที่ยังอยู่ในอาการเซื่องซึมเสียใจ
“เออ มึงก็ซ้อมเหมือนกันเหรอ”
“วันนี้กูว่างพอดีเลยแวะมาสักหน่อย แข่งกันหน่อยไหมวะมึง”
“กุ๊กขอไปหาที่ทำงานก่อนนะคะพี่นาย” กุ๊กเอ่ยแทรกขึ้นก่อนจะขอตัวเดินแยกออกไป
เธอรู้ว่าแฟนหนุ่มไม่พอใจ แต่ในเมื่อเธอแบกงานมาทำด้วยแล้วก็ไม่อยากให้เสียเปล่า
หญิงสาวเดินแยกไปอีกฝั่งทางเดินซึ่งเป็นอัฒจันทร์ตัวว่างห่างจากจุดประจำที่แฟนหนุ่มเคยนั่งพอสมควร โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเธอกำลังตกเป็นเป้าสายตาและหัวข้อสนทนาหยาบคายของผู้ชายสองคน
“แฟนใหม่มึงเหรอวะไอ้นาย” เสียงเข้มเอ่ยถามพลางลากสายตามองไปยังเรือนร่างแบบบางที่เพิ่งเดินพ้นออกไป
“อืม เพิ่งคบกันได้สองอาทิตย์”
“เดี๋ยวนี้ชอบใส ๆ เหรอวะ”
“ตอนนี้ไม่ใสแล้ว” พูดปนเสียงขำพร้อมกับหันสายตามองไปยังระดับเดียวกันกับเพื่อน
“เหี้ยเสมอต้นเสมอปลายเลยนะมึง แล้วเมื่อไหร่จะคายวะ กูอยากเสียบต่อ”
“อีกสักพัก ไว้รอเบื่อก่อนแล้วกัน มึงจะได้เสียบแน่!”
“ฮึ...มึงพูดแล้วนะเว้ย”
เสียงหัวเราะและรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นเฉกเช่นเดียวกับสายตาทอดมองไปยังร่างน้อยที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองในอนาคตอันใกล้
ใช่...คนอย่างเขาไม่เคยคบใครนาน และแต่ละคนที่คบหาก็ต้องทำประโยชน์ให้เขาทั้งนั้น
ซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน!