“เมื่อครู่ฉันเห็นพี่ชายเธอกับแนตตี้ควงกันเดินมาทางนี้ด้วย”
“เธอเห็นเหรอใช่สองคนนั้นยังไปมาหาสู่กันดีฉันเพิ่งรู้”
หลิงหลิงปรายตาไปมองคนที่นั่งอึดอัดอยู่... เจียหย่งเหวินผู้เหมือนจะไม่เคยเสียท่าให้ใครเบี่ยงสายตาหลบอย่างยอมจำนน... ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าเจียหย่งเหวินคงเป็นสายให้หลิงหลิงแต่เขารักเจ้านายมากกว่าจึงปิดเป็นความลับแล้วหลิงหลิงรู้เข้า
“พี่ชายของฉันจริงจังกับนังนั่นมาก... ขนาดว่าฉันห้ามปรามทุกอย่างยังไม่ฟัง... ฉันไม่มีอะไรจะพูดวันนี้แนตตี้มีคิวถ่ายละครที่นี่พี่ฉันก็เลยมาหาฉันกลัวว่าเขาจะแถลงข่าวกับนักข่าวว่าจะแต่งงานกันฉันเลยอยากขอร้องให้เธอช่วย...” หลิงหลิงจับมือเพื่อนอ้อนวอน... จากคืนนั้นหล่อนก็ยังคุยกับพี่ชายเรื่องห้ามคบนาตาชาพี่ชายหล่อนรับปากบ้างไม่รับปากบ้างแต่ที่ร้ายสุดคือเขาบอกติดตลกมาว่า
“พี่กำลังอยากแต่งงานถ้าให้เลิกกับนาตาชา... ก็เอาเพื่อนเรามาแต่งงานกับพี่แทนสิ... พอแทนกันได้นะ”
“เพื่อนของหลิงหลิงดีกว่าแม่นั่นเยอะอย่าเอามาเทียบกันค่ะขอร้อง” หลิงหลิงตอบไปอย่างนั้น “แล้วเขาก็ดีเกินกว่าจะมาคบ
มาเฟียหน้าตาดีแต่ใจโหดอย่างพี่ด้วย... เพื่อนหลิงหลิงเขาโตมากับชีวิตที่เรียบง่ายไม่ได้รู้เรื่องหรือว่าคุ้นชินกับวงการมาเฟียแบบเรา
หลิงหลิงไม่ชักชวนเพื่อนมาร่วมเดินทางสายแห่งการต่อสู้นี้หรอกปล่อยเพื่อนหลิงหลิงไปเถอะ”
หล่อนบอกพี่ชายยืดยาว... แล้วจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรกับหล่อนมาก... แต่กลับมาควงนาตาชา... จนทำให้หลิงหลิงร้อนรนต้องเปลี่ยนใจอยากชวนเพื่อนหล่อนมาหว่านเสน่ห์ให้พี่ชายอันที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายมากหากพี่ชายหล่อนจะคบหาหรือว่าแต่งงานกับเพื่อนสนิทของหล่อน... บางทีหล่อนอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่าสองคนนั้นจะอยู่ด้วยกันไม่ได้บางทีโชคชะตามันอาจจะกำหนดไม่ได้อีกก็เป็นได้...
“เธอจะให้ฉันทำอีกเหรอ...” ราชาวดีเต็มใจทำเพราะเคยได้ค่าจ้างไปแล้วโดยที่ยังไม่ลงมืออะไร... แต่หล่อนไม่นึกว่าหลิงหลิงจะปุปปับจู่โจมพี่ชายอีกรอบ
“มีเธอคนเดียวเท่านั้น” หลิงหลิงไม่กล้าพูดว่ามีเพียงราชาวดีคนเดียวที่ดึงดูดสายตาของพี่ชายหล่อนได้... และเขาพูดถึงราชาวดีเกินสองครั้งเด็กอมมือก็รู้ว่าเขาสนใจเพื่อนน้องสาว... หากว่าเป็นราชาวดีภพเทพคงยอมเลิกกับนาตาชาถ้าเขามีเหตุจำเป็นที่ต้องแต่งงานจริงๆ หล่อนขอเลือกราชาวดีมาเป็นคนรักมากกว่าที่จะเป็นคนที่จะทำให้พี่ชายหล่อนเสียกับเสียอย่างนาตาชา “ถือว่าฉันขอร้องอีกครั้งนะหนึ่ง... ไม่ว่าเธอขออะไรฉันก็จะให้”
“ฉันไม่เอาอะไรจากเธอหรอกเธอให้จากคราวที่แล้วก็พอแล้ววันนี้เธอจะให้ฉันทำอะไรยังไงก็ว่ามา...”
“เจียหย่งเหวิน... นายไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้วนายตามไปประกบพี่ชายฉันแล้วบอกพิกัดด้วยว่าเขาอยู่กันที่ไหน... ป่านนี้คงพายัยแนตตี้ไปถลุงเงินอยู่ที่ร้านกระเป๋าแบรนด์เนมสักร้านแน่ๆ ...” เจียหย่งเหวินชะงักมือที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นจิบใบหน้าหล่อฉายแววฉงนเมื่อฟังคำสั่งของหลิงหลิง... เมื่อครู่หล่อนบังคับให้เขาอยู่ตอนนี้บังคับให้ไปอะไรจะเปลี่ยนไปมาได้มากขนาดนั้น...
“จ่ายเงินให้ด้วยนะเจียหย่งเหวิน... เดี๋ยวฉันพาเพื่อนไปแปลงโฉมแล้วจะตามไป”
“เอ่อหลิงหลิงที่ฉันสั่งมาฉันจ่ายก็ได้... อย่าให้ลำบากคุณ
เจียหย่งเหวินเลย” ราชาวดีบอกอย่างเกรงอกเกรงใจ...
“โอ๊ย... เจียหย่งเหวินเขารวยทำงานมาเป็นสิบๆ ปีไม่เคยได้ใช้เงินสักบาทขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก... เราไม่มีเวลามากไปกันเถอะ” หลิงหลิงดึงมือเพื่อนให้ลุกเดินไป... ทิ้งเจียหย่งเหวินที่นั่งทำหน้าชาชินกับการรับคำสั่งของหลิงหลิงไปแล้ว...
ราชาวดียังไม่ได้ปฏิบัติภารกิจทันทีเพราะหลิงหลิงพาหล่อนไปที่ห้องเสื้อแบรนด์ดังแล้วจัดการซื้อชุดใหม่ให้ราชาวดีเพราะชุดที่หล่อนสวมอยู่คือชุดทำงานในออฟฟิศที่ถึงแม้มันจะสวยน่ารักแต่ก็ดูจืดไปหากเทียบกับนาตาชา... เสื้อและกระโปรงบานผ้าชีฟองสีเขียวมินต์ดูโดดเด่นในรูปร่างชวนมองของราชาวดี... รองเท้าสานเตี้ยๆ ถูกเปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นเตารีดสีดำสนิทเข้ากับกระเป๋าที่ราชาวดีถือเจ้าของแผนการล้วงกระเป๋าดึงลิปสติกสีแดงส้มออกมายื่นให้ราชาวดี...
“ทาไปเลย... หน้าเธอเหมาะกับลิปสติกสีแดงแนวนี้มาก... รูดปรื๊ดเดียวก็โดดเด่นไม่ต้องมานั่งแต่งหน้านานๆ”
สาวร่างงามในชุดสีเขียวมินต์รับลิปสติกมาทาปากอย่างไม่อิดออดความเชื่อมั่นที่หล่อนมีให้หลิงหลิงค่อนข้างสูงเพราะแต่ไหนแต่ไรหลิงหลิงมักเป็นคนจัดการนั่นนี่โน่นให้ตามนิสัยชอบดูแลคนอื่นของเจ้าตัว... หล่อนแต่งหน้ามาบางๆ เสริมลิปสติกเข้าไปก็โดดเด่นมากเค้าโครงหน้าที่สวยเฉี่ยวของหล่อนเหมาะกับลิปสติกสีแดงอมส้มที่หลิงหลิงจัดให้จนราชาวดีคิดว่าหล่อนต้องหาลิปสติกสีนี้มาไว้ติดกระเป๋า...