“พี่หนึ่งจัดกระเป๋าไว้เลยนะคะ...”
“จ้ะ... ใจร้อนเหลือเกินนะแม่คุณ” หล่อนหยิกแก้มน้องสาว... “งั้นเดี๋ยวพี่กลับห้องไปนอนแล้วนะจ๊ะส่วนเราน่ะรีบๆ นอนเข้าล่ะ... อย่านอนดึกเข้าใจไหม”
“เจ้าค่ะคุณพี่” กรรณิการ์รับคำอย่างดีอกดีใจวันนี้เป็นวันที่สาวน้อยรู้สึกว่าหล่อนมีความสุขมากที่สุดก็ว่าได้
ราชาวดีกลับห้องมาแล้วก็โทรหาบิดาเพราะต้องการสอบถามท่านเกี่ยวกับการที่ท่านเดินทางไปหานายทุนที่เชียงใหม่และถือโอกาสไปสำรวจโรงงานผลิตลำใยอบเเห้งที่ส่งให้กับบริษัทโดยที่หล่อนดูแลเรื่องบริหารอยู่ที่ออฟฟิศ...
“สวัสดีค่ะพ่อพ่อนอนหรือยังคะ” หญิงสาวถามไถ่เรื่องของบิดา
“ยังเลยลูกหนึ่ง... พ่อออกมาทานอาหารร้านขันโตกกับเพื่อนๆ กัน... กำลังคุยๆ เรื่องหาทุนอยู่น่ะลูก” เสียงบิดาหล่อนค่อนข้างเศร้าหมองแม้จับได้ว่าอยู่ในบรรยากาศที่รื่นเริงหากฟังจากเสียงคนร้องรำทำเพลงที่ลอดปลายสายเข้ามา...
“คุณพ่ออย่าเครียดมากนะคะทางนี้หนึ่งก็ช่วยอีกเเรงอยู่” หญิงสาวน้ำตาคลอขึ้นมาเมื่อนึกถึงความยากลำบากใจของบิดา...
“พ่อก็หวังว่าจะหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราให้ได้นะลูก” เสียงบอกเเห้งแล้งของบิดาบอกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลจากดวงตาที่ไหลมาหนึ่งหยดจากดวงตาของราชาวดี... หล่อนกลั้นสะอื้นเอาไว้... “พ่อขาพ่อสัญญาแล้วนะคะว่าเราจะสู้ไปด้วยกัน... สัญญาแล้วนะคะ...” หญิงสาวย้ำกับบิดาเสมอ... เพราะกลัวว่าปัญหาหนักที่รุมเร้าอยู่นี้จะทำให้ท่านคิดสั้น...
“พ่อไม่ลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกหรอกน่าอย่าคิดมากนะเราลำบากแค่กายเเต่เราจะไม่ลำบากใจทางออกของเรามีอีกหลายทางพ่อแค่เลือกทางที่เราจะลำบากน้อยที่สุดมาลองดูก่อน... แล้วทางนั้นเป็นอย่างไรบ้างล่ะงานโอเคไหม”
“ก็ผ่านไปได้ค่ะพ่อ... เคลียร์บัญชีแล้วเงินเราพอมีเหลือเกินสามแสนนะคะเดือนนี้... แสดงว่าเราค่อนข้างอยู่ตัวเเละเห็นผลกำไรบ้างแล้ว...” หลังจากที่ขาดทุนมาสองสามปีจนต้องกู้หนี้ยืมสินมากมายมาโปะราชาวดีเข้ามาดูแลเรื่องการบริหารจัดการแล้วระบบการเงินดีขึ้นจนภาวะขาดทุนเริ่มอยู่ตัวแต่ก็นั่นแหละบริษัทยังต้องการเงินมากอยู่ดีเพราะภาระหนี้ที่สร้างมานั้นยังต้องการชำระอยู่จึงต้องระดมทุนเพื่อการนี้
“อืม... แสดงว่าแนวโน้มบริษัทเราจะดีขึ้นล่ะสินะ... พ่อจะรีบรวบรวมเงินให้ได้... แล้วน้องสองล่ะลูกเห็นหนึ่งบอกว่าไปช่วยงาน
หลิงหลิงได้ตั๋วเครื่องบินมาแล้วเอาให้น้องหรือยังพ่อตั้งใจจะให้
พ็อกเก็ตมันนี่น้องไปเที่ยวด้วย... ”
“ไม่ต้องให้แล้วก็ได้ค่ะพ่อ... พอดีหนึ่งจัดการหมดแล้วและก็ให้น้องในนามของหนึ่งกับพ่อแล้วค่ะ... แต่ว่าหนึ่งจะไปฮ่องกงพร้อมน้องนะคะเพราะว่าน้องเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงยัยสองอ้อนให้ไปเที่ยวด้วยเลยตั้งใจจะบินไปสองสามวันด้วยค่ะถ้ามีงานที่ฮ่องกงจะได้ไปจัดการด้วยเลย... พ่อมีเวลาว่างไปด้วยกันไหมคะหนึ่งอยากให้เราไปไหว้พระด้วยกันเดี๋ยวหนึ่งจัดการเรื่องตั๋วให้ตอนแรกยังไม่ได้บอก
ยัยสองว่าพ่อไปหรือเปล่าได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ไว้ก่อน...”
“อืม... ปิดบัญชีประจำไตรมาสแล้วเราก็พอว่างกันอยู่อีกอย่างมีงานใหม่ที่พ่อต้องไปดีลที่ฮ่องกงด้วยอย่างนั้นลูกไปทำงานกับพ่อแล้วก็ถือโอกาสไปเที่ยวกับน้องด้วยสักสองสามวันก็แล้วกัน... พรรคพวกที่ฮ่องกงบอกออกบ่อยว่าที่ท่องเที่ยวร้านรวงในฮ่องกงก็เปลี่ยนไปมากแล้วนานมากพอๆ กับที่เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันครั้งสุดท้ายไปกันพร้อมหน้าพร้อมตาก็คงดีเหมือนกัน”
“ดีจังเลยค่ะพ่อเป็นข่าวที่ดีมากเลยยัยสองต้องดีใจมากแน่ๆ เดี๋ยวหนึ่งอุบไว้ดีกว่าค่ะไว้วันไปค่อยบอกยัยสอง... คงเซอร์ไพรส์น่าดู”
“จ้ะพ่อฝากลูกจัดการเรื่องตั๋วด้วยนะเดี๋ยวที่อพาร์ตเมนต์ที่ฮ่องกงพ่อจะให้นิติบุคคลที่ดูแลอยู่ให้คนไปทำความสะอาดให้... วันที่ลูกบินพ่อจะไปบินไปสมทบจากเชียงใหม่เลยยัยสองได้
เซอร์ไพรส์จริงๆ แน่นอน” บิดาหล่อนบอกติดตลก...
“งั้นแค่นี้นะคะพ่อหนึ่งก็อยากไปจัดกระเป๋าเตรียมไว้เหมือนกันอีกไม่กี่วันนะคะพ่อ”
“ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะลูก...”
“ค่ะพ่อพ่อก็ดูแลตัวเองดีๆ นะคะอย่ามัวแต่โหมงานมากนักเก็บแรงไว้เที่ยวด้วยนะคะ”
หญิงสาวบอกบิดาแล้วเดินยิ้มกลับห้องนอนตัวเอง... บิดายอมไปเที่ยวกับหล่อนและน้องๆ รวมทั้งท่านไม่ได้ดูเครียดมากๆ เหมือนทุกครั้ง... หล่อนพอจะอนุมานได้ไหมว่าบิดาของหล่อนอาจจะมีทางออกของปัญหาเรื่องการเงินของคนในบ้าน...
ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะนะสาธุ...