EP 2/1 หัวใจที่บอบช้ำกับการกระทำของคุณ

1140 คำ
[2] หัวใจที่บอบช้ำกับการกระทำของคุณ สองเท้าของไหมขวัญก้าวขึ้นบนศาลาช้าๆ ความประหม่าเกาะกินหัวใจพอๆ กับความเกรงกลัว เธอต้องใช้ความกล้ามากมายกับการมาที่นี่ในวันนี้ ทว่าหากไม่มา เธอคงได้เสียใจไปตลอดชีวิต นี่อาจเป็นการบอกลาครั้งสุดท้ายกับผู้ที่ล่วงลับ เธอไม่ได้มาเพื่อกล่าวโทษเขา แต่มา...เพื่อให้อภัย ‘ฉันอโหสิกรรมให้คุณ ขอให้คุณไปสู่สุคติ ความโกรธเกลียดใดๆ ที่เรามีให้กันในชาตินี้ ฉันขอให้มันจบลง อย่าได้มีกรรมใดๆ ต่อกันอีกเลย’ นั่นคือสิ่งที่ไหมขวัญภาวนาในใจ แต่สิ่งที่กำลังเห็นต่อหน้ากลับมิได้เฉียดใกล้คำว่าจบเลย “ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” กฤติกาชี้มือไปยังทางที่คนทั้งสองเพิ่งเดินขึ้นมา แสงแฟลชเริ่มสว่างวาบที่มุมหนึ่ง ราวกับว่านักข่าวกำลังเฝ้ารอฉากนี้ ฉากที่กฤติกากำลังเสียสติแล้วกระโจนใส่สตรีตรงหน้า เวหาพยายามข่มใจไม่โกรธเคือง เขาเข้าใจว่าหล่อนรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ “ฉันมาดี แค่อยากมาส่งเขา เป็นครั้งสุดท้าย” ไหมขวัญเอื้อนเอ่ย เดินลงยังศาลาอีกฝั่งเพื่อออกสู่ลานกว้าง ที่ที่สามารถมองกลุ่มควันที่กำลังพวยพุ่งสู่เบื้องบน หยดน้ำตาของนางเอกรุ่นใหญ่ คล้ายว่าจะรินไหลออกมา “คิดจะทำอะไร! ตอนยังไม่ตายไม่เคยว่าอยากมาเจอนี่ ตอนนี้มันเป็นยังไง ทำไมต้องอยากมาด้วย!” “หนูกุ๊กใจเย็นๆ ก่อน” เจ๊หวีพยายามห้ามปราม “ไม่เย็นแล้วเจ๊! เจ๊บอกให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปเลย ออกไป!!” กฤติกาน้ำตาพรั่งพรู ทั้งโกรธทั้งแค้น ทั้งเสียใจ จะมาทำไมตอนนี้เล่า ตอนที่บิดาของเธอยังอยู่ เธออ้อนวอนแทบตายอีกฝ่ายก็ไม่ยอมมา “พี่ไหมแค่อยากมาแสดงความเสียใจเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะเจ้าภาพ เธอต้องเสียมารยาทขนาดนี้เลยเหรอ” เวหาประชดแล้วหันมองรอบๆ นักข่าวหลายคนเริ่มต้นบันทึกภาพพวกเขา คงได้มีข่าวเอาไปเขียนสนุกมือ “ฉันไม่ต้อนรับไง ออกไปซะ! ออกไป!” ไหมขวัญร้องไห้อย่างเงียบงัน เฝ้ามองคนที่ยืนขวางเธออยู่ เธอมาไม่ทันวางดอกไม้จันทน์ และตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็กำลังจะเหลือเพียงเถ้ากระดูก “ขอยืน...อยู่ตรงนี้สักนาทีได้ไหม” คนที่สูงวัยกว่าร้องขอ แต่คนอ่อนวัยกว่าส่ายหน้าระรัว “ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป!” “กฤติกา!” เวหาร้องเรียกหล่อน ถึงจะโกรธเกลียดกันแค่ไหน แต่ในเวลานี้หล่อนก็ควรรู้กาละเทศะบ้าง คนตายยังเผาไม่หมดด้วยซ้ำ ทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ พี่ไหมแค่อยากมาลาเขา มันจะอะไรนักหนา “ทำไม! เรียกทำไม เดือดร้อนแทนกันเหรอ ได้...ไม่ไปใช่ไหม! จะไม่ไปใช่ไหม!” ร้องใส่หน้าแล้วแลหาอะไรสักอย่าง ถาดดอกไม้จันทน์ยังวางอยู่บนโต๊ะไม่ไกลจากมือ เธอคว้ามันมาทั้งถาด ก่อนจะสาดใส่ร่างของไหมขวัญ “กรี๊ดดด!!! พี่ไหม พี่ไหมคะ!” เจ๊หวีรีบเข้าไปหาคนที่โดนดอกไม้จันทน์ถาดใหญ่สาดใส่ร่าง ไหมขวัญถึงกับเซถอยหลัง ไม่ใช่เพราะเจ็บกาย แต่เจ็บที่หัวใจจนร่างกายไม่อาจต้านทาน ตั้งแต่วินาทีนี้ เธอคงได้เป็นคนที่กฤติกาเกลียดชัง ทำไมถึงเจ็บได้ขนาดนี้นะ เจ็บสุดๆ ไปเลย “นี่! เป็นบ้าหรือไง! ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ!” เวหาก้าวไปเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวนั้น “ฉันจะทำมากกว่านี้อีกถ้าไม่พาผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ!” “เธอมันบ้า! นักข่าวถ่ายรูปไปเป็นร้อยแล้ว ไม่สนหน้าตาบ้างหรือไง” “ไม่สน! หรืออยากโดนอีกคนฮะ! อยากโดนอีกคนใช่ไหม!” กฤติกาแลหาอาวุธ น้ำตาที่รินไหลไม่สามารถอธิบายความรู้สึกในใจที่มันเจ็บแค้นแน่นอก ทว่าเพียงแค่เธอหันหลังเพื่อหาอาวุธ แขนข้างหนึ่งก็ถูกกระชากอย่างแรง “มานี่! มากับฉันนี่!” “ฉันไม่ไป! มีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องฉัน! ปล่อยนะ! ปล่อย! ออกไปจากงานศพพ่อฉัน ออกไป!! ฉันเกลียดพวกคุณได้ยินไหม ฉันเกลียดพวกคุณ! กรี๊ดดด!!!” ร่างอ่อนแรงของไหมขวัญเอนพิงร่างของเจ๊หวี กฤติกาเพิ่งถูกเวหาแบกพาดบ่าพาออกไปท่ามกลางแสงแฟลชของกล้องนักข่าว อะไรจะเกิดก็ขอให้มันเกิดเถิด เธอไม่สนอะไรแล้ว “พี่ไหมไปนั่งในศาลาก่อนเถอะค่ะ” “หวี ไปดูเด็กนั่นที กลัวว่าจะไปยั่วโมโหเวย์เข้า” “อย่าห่วงเลยค่ะพี่ อย่างหนูกุ๊กไม่ยอมให้คุณเวย์รังแกได้หรอกค่า” เจ๊หวีเอ่ยตามจริง รับรู้ถึงความห่วงใยที่ถูกส่งผ่านคำพูดแสนธรรมดานั้น “กุ๊กคงเกลียดฉันจริงๆ” “พวกพี่ควรคุยกันนี่คะ ลองคิดดูดีๆ ว่าห้าปีที่ผ่านมาหนูกุ๊กต้องเจ็บปวดแค่ไหน หวีไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไร แต่หนูกุ๊กของหวีไม่ได้ผิดอะไรนะคะ เธอเป็นแค่เด็กดื้อคนหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงโดนแม่ทิ้ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมแม่ไม่รักเธอ” ยิ่งเจ๊หวีพูด ไหมขวัญก็ยิ่งพรั่งพรูหยดน้ำตา มันจริงอย่างที่หวีพูดนั่นแหละ แต่ว่า...กว่าเธอจะคิดได้ ทุดอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว... อีกฟากหนึ่งของวัด ใต้ร่มสาละสูงใหญ่ เวหาวางกฤติกาลงจากบ่า ก่อนที่แผ่นอกเขาจะถูกทุบตีไม่ยั้ง กำปั้นของหล่อนเบาเสียเมื่อไหร่ มันทุบอกเขาดังตุบตับไม่หยุดเลย “พอแล้ว พอซะทีเถอะ!” ตุบตับ! ตุบตับ! “พอ! ฉันบอกให้พอ!” “ไม่พอ! ฉันจะทุบคุณให้ตายคามือเลย กล้าดียังไงพาผู้หญิงคนนั้นมาฮะ! กล้าดียังไง!” “ก็เขาเป็นแม่เธอนี่!” “เขาไม่ใช่แม่ฉัน! ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ฉัน เธอไม่สมควรเป็นแม่ใครด้วยซ้ำ! ไม่สมควรเลย ฮือออ...” แล้วร่างอวบอิ่มของกฤติกาก็ทรุดลงที่โคนต้นสาละ สองเข่าจูบพื้นดิน หยดน้ำตาหลั่งไหลราวกับเขื่อนใหญ่ที่กำลังปริแยกแตกออก “ฉันเกลียดคุณ...ฮึกๆ เกลียดผู้หญิงคนนั้น! เกลียดโรคบ้าๆ ที่มาพรากพ่อไปจากฉัน! ฉันไม่เหลือใครแล้ว! ทุกคนเอาแต่ทิ้งฉัน ทิ้งไปหมดเลย! ฉันต้องอยู่คนเดียวใช่ไหม ฉันทำผิดอะไรทำไมสวรรค์ต้องลงโทษฉัน ทำไม! ฮือออ....”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม