EP 1/4 ฉากนี้มีตบ

1306 คำ
“พี่ทิว! พี่ทิว! พร้อมแล้วซ้อมคิวซีนต่อไปได้เลยนะ เร็วๆ เลย” ร้องหาผู้ช่วยผู้กำกับให้เริ่มซ้อมคิวนักแสดงในซีนต่อไป ในกองถ่ายนั้นมีปัญหาหยุมหยิมเกิดขึ้นตลอด ถ้าไม่ร่วมด้วยช่วยกัน งานคงออกมาดีไม่ได้ โดยเฉพาะนักแสดงที่เป็นส่วนสำคัญ นอกจากชื่อเสียงของพวกเขา สิ่งหนึ่งที่ต้องมีก็คือวินัย และเขาต้องรบรากับนิสัยส่วนนี้ของกฤติกาอยู่เสมอ วันดีคืนดีหล่อนก็หายไปจากกองเสียดื้อๆ เมื่อก่อนเขาไม่รู้ว่ายังไงนะ แต่พอละครเรื่องนี้ที่เขากำกับเริ่มถ่าย กฤติกาคือนางร้ายที่พ่วงปัญหามาร้อยแปดเลย หน้าบ้านหลังใหญ่ รูปทรงทันสมัย แสงพร้อมฉากพร้อม ทีมงานชายนายหนึ่ง โผล่มาที่หน้ากล้องพร้อมสเลทในมือ “เอื้อมดาว ซีนสิบ เทคหนึ่ง!” แป้ก! กฤติกาส่งสายตาดุๆ ไปหานางเอกคนงามยามเสียงตีสเลทสิ้นสุด อีกฝ่ายรับส่งอารมณ์กลับมา เธอเงื้อแขนขึ้นสุด ฟาดไปยังใบหน้าทว่าห่างจากเจ้าตัวราวครึ่งคืบ “อ๊ะ! กล้าตบฉันเหรอ ฉันไม่ใช่นางเอกสนิมสร้อยนะ!” เสียงนางเอกคนงามเอื้อนเอ่ย ก่อนจะเงื้อแขนจนสุดแล้วฟาดลงที่หน้าของกฤติกา ทว่าด้วยความที่เป็นมือใหม่ ฝ่ามือน้อยจึงห่างจากใบหน้ากฤติกาเกินไป “คัท! อีกเทค! มารี...ขยับเข้าไปอีก ใช่...อย่างนั้น” สิ้นเสียงผู้กำกับการถ่ายทำก็ดำเนินต่อซ้ำๆ ทว่าแม้จะถูกเทคไปสิบกว่ารอบ แต่ซีนนี้ก็ยังไม่ผ่าน กฤติกาเริ่มไม่สบอารมณ์ มันเป็นเพียงซีนง่ายๆ แต่แม่นางเอกผู้ใสซื่อกลับไม่สามารถตบเธอให้สมจริง “ขอโทษน้องกุ๊กด้วยนะคะ พี่กลัวมือจะโดนหน้าน้องจริงๆ” น้องกุ๊กของพี่มารีได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนที่การซ้อมคิวจะถูกเบรกด้วยโทรศัพท์มือถือของเธอ ไม่ใช่งานใหม่ที่ถูกติดต่อมา แต่เป็นสายจากโรงพยาบาล ดูเหมือนว่าซีนนี้จะถ่ายอย่างติดขัดไม่ได้เสียแล้ว “พี่มารีตบจริงเลย เร็วๆ พี่ทิวคะขออีกแค่เทคเดียวนะพี่ หนูรีบ พ่อหนูไม่สบาย” กฤติกาบอกผู้ช่วยผู้กำกับที่กำลังซ้อมคิวให้ ช่างแต่งหน้าช่างผมกำลังรุมล้อมเธอกับมารีอยู่ ก่อนที่พี่ทิวจะวิ่งไปที่หลังจอมอนิเตอร์ และช่างหน้าช่างผมถูกไล่ออกจากฉากไป ฉากพร้อม แสงพร้อม ไม่มีใครอยู่ในฉากยกเว้นสองสาว คนตีสเลทโผล่ไปยืนหน้ากล้อง “เอื้อมดาว ซีนสิบ เทคสิบสี่!” แป้ก! เสียงสเลทถูกตีดังแป้ก! กฤติกาส่งสายตาดุๆ ไปหานางเอกคนงาม อีกฝ่ายรับส่งอารมณ์กลับมาเช่นทุกคราว เธอเงื้อแขนขึ้นสุด ฟาดไปยังใบหน้าทว่าห่างจากเจ้าตัวราวครึ่งคืบเช่นเดิม “อ๊ะ! กล้าตบฉันเหรอ ฉันไม่ใช่นางเอกสนิมสร้อยนะ!” หวืด! เสียงฝ่ามือของมารีดังแหวกอากาศมา กฤติการอรับแรงตบนั้น เผียะ! อาการชาลามไปตั้งแต่ซีกแก้มถึงใบหู เธอกัดฟันแน่นๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับมารีอย่างขุ่นเคือง “คัท! โอเค!” เสียงเวหาร้องบอกอยู่หลังจอมอนิเตอร์ กฤติกากุมแก้มที่ยังชาหนึบ เจ็บจนน้ำตาคลอแต่ยังน้อยกว่าหัวใจที่กำลังหนักอึ้ง บิดาของเธออาการทรุดอีกแล้ว ทรุดหนักยิ่งกว่าเมื่อคืนเสียอีก “น้องกุ๊ก พี่ขอโทษนะคะ เจ็บมากใช่ไหม” หากเป็นยามปกติ กฤติกาคงส่งสายดุๆ ไปหามารี ค่าที่มือหนักเกินไป แต่เวลานี้เธอคิดว่าเสียเวลาหากมัวแต่ทำอย่างนั้น “ไม่เป็นไร ช่างเถอะ” บอกนางเอกสาวรุ่นพี่ที่เพิ่งประเดิมงานละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก่อนจะปลีกตัวออกมาด้วยความรวดเร็ว เวหาส่งสายตาเต็มไปด้วยคำถามมาให้เธอ แต่เธอไม่สน “จะไปไหน!” “เปลี่ยนชุด!” “มีอีกหลายซีนที่ต้องถ่ายวันนี้” “ไม่รู้ เอาไว้ถ่ายวันหลัง ถ่ายคนอื่นไปก่อน” เธอบอกร้อนรนตอนที่เดินมาถึงเต็นท์ของช่างแต่งหน้า กระเป๋าถือของเธอวางอยู่บนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง เธอคว้ามันมาถือไว้ แล้วควานหาโทรศัพท์มือถือในนั้น มีสายจากโรงพยาบาลโทรมาอีกในระหว่างที่เธอถ่ายซีนเมื่อกี้อยู่ “กุ๊ก!? มันจะมากไปแล้วนะ วันนี้มีแต่ซีนของเธอ!” “ก็บอกว่าไม่ถ่ายไงเล่า พ่อฉันกำลังจะตาย! ได้ยินไหม พ่อฉันกำลังจะตาย!” ตะโกนบอกเขาแล้วคว้าเอากระเป๋าถือ ไม่มีเวลาจะเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ เธอมองเขาราวอยากจะฆ่า ถ้าเธอไปหาพ่อไม่ทันละก็ เวหา นายเจ็บแน่! เวหายืนอ้าปากค้างท่ามกลางความอึ้งของช่างหน้าช่างผมและคนอื่นๆ กฤติกาก้าวฉับๆ จากไป ไม่สนใครทั้งนั้น ไหมขวัญเดินออกมาจากห้องส่วนตัว พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้นี้ “เวย์ กุ๊กไปแล้วเหรอ” “ครับพี่ วันนี้มีแต่ซีนที่มีเธอ ถ้าเธอไม่อยู่แล้วเราจะถ่ายได้ยังไง” “เธอมีธุระสำคัญ ถ่ายพี่ก่อนก็ได้ ซีนไหนที่พอจะถ่ายก่อนได้ ก็ถ่ายได้เลย จะได้ไม่ต้องเลิกกอง” ดาราสาวรุ่นใหญ่ผู้มากประสบการณ์ แนะกับผู้กำกับหนุ่มด้วยไม่อยากให้เขาเสียเวลา การเลิกกองโดยไม่ได้ถ่ายตามแผนที่วางไว้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย “ยัยบ้านี่! ทำไมผมต้องมาเจอเธอด้วยนะ คนอื่นเคยเจอเหมือนผมไหมเนี่ย” “ไม่หรอกค่ะคุณเวย์ เดือนนี้พ่อของหนูกุ๊กอาการทรุดบ่อยจริงๆ อย่าโกรธเธอเลยนะคะ” เจ๊หวีที่สนิทกับกฤติกามากที่สุด แก้ต่างแทนดาราในดวงใจ ถึงอีกฝ่ายจะร้ายกาจและขี้วีนไปบ้าง แต่เวลาที่เดือดร้อนเงินทอง กฤติกาก็คอยช่วยเหลือเสมอ เจ๊รู้จักกับกฤติกามานานแล้ว ตั้งแต่เจ้าตัวยังเป็นแค่นางร้ายใน MV “เฮ้อ...ประสาทจะกิน!” “จุ๊ๆๆ ไม่เอานะ ไปนั่งก่อน อย่าถือสาเด็กมันเลย พี่ขอนะเวย์” ไหมขวัญตบต้นแขนชายหนุ่มเบาๆ ราวกับร้องขอ และสัมผัสจากไหมขวัญก็เหมือนน้ำเย็นๆ ที่กำลังลูบไล้หัวใจอันร้อนรุ่มของเวหา เขาปลื้มปริ่มไหมขวัญมานานแล้ว สนิทกับหล่อนด้วยรู้จักกันมานาน และการที่หล่อนปลอบเขานั้น ช่วยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ทันทีเลยล่ะ “ก็ได้ครับพี่ ถ่ายเท่าที่ถ่ายได้ไปก่อนก็แล้วกัน” เวหาอ่อนลงให้พี่ไหม หากจะมีผู้หญิงสักคนที่สำคัญในชีวิตเขา หนึ่งในนั้นต้องเป็นพี่ไหมอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเริ่มต้นอาชีพนี้เพราะใบหน้างดงามของอีกฝ่าย ไม่นานหลังจากที่ได้รู้จัก ก็ได้กลายเป็นคนสนิทคุ้นเคย ทว่าพี่ไหม ก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้เขาได้เป็นมากกว่าเพื่อนรุ่นน้อง อาจจริงที่เขาเองก็ไม่เคยเอ่ยปากพูดความในใจออกไป แต่หากพี่ไหมสังเกตสักนิดคงรู้ได้ หรือบางที...อีกฝ่ายรับรู้และเข้าใจ แต่ไม่ยอมแสดงออกว่ารู้ นั่นเพราะไม่อยากสานต่อความสัมพันธ์ ไม่อยากพัฒนาความรู้สึกให้มันเติบโต อดีตที่เจ็บปวดทำให้พี่ไหมไม่ยอมเปิดใจ เขาเข้าใจและจะรอวันนั้น คงมีสักวันที่พี่ไหมมองเห็นเขาบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม