บทที่ 1 ผู้หญิงอย่างเธอต้องโดนลงโทษ (2)

1472 คำ
น้ำส้มเดินไปตามทางผ่านต้นไม้ใหญ่ก่อนจะเลี้ยวไปที่หอพักคนงานแล้วไปเคาะประตูห้องพักของขจีเนตร ไร่ส้มภูตะวันวาดมีห้องพักสำหรับคนงานที่ไม่สะดวกเดินทางไปกลับ แต่จำนวนห้องไม่ได้เยอะมากจึงอนุญาตให้คนที่เดือดร้อนจริง ๆ เท่านั้นเข้าพัก โดยแบ่งเป็นหอพักชายหญิงแยกกัน ถึงแม้จะเป็นหอพักคนงานแต่เจ้านายเห็นถึงความสำคัญ ทำให้ขนาดห้องไม่เล็กจนเกินไปและมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ทางไร่ไม่เก็บค่าห้องแต่เก็บค่าน้ำค่าไฟตามการใช้งานจริง “มาเคาะประตูห้องฉันค่ำมืด มีอะไรอีกยายน้ำเปรี้ยว” เจ้าของห้องเปิดประตูก่อนจะกลอกตามองบน ไม่รู้ชาติก่อนไปทำเวรทำกรรมอะไรกับผู้หญิงตรงหน้า เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้านอนพอดี ล้มตัวลงนอนไม่ถึงห้านาทีก็มีคนมาขัดจังหวะ “คุณคีทต้องการพบ แกโดนลงโทษแน่นังคุณหนูตกสวรรค์” เผยยิ้มด้วยความสะใจ แม้ลึก ๆ แล้วจะอิจฉาที่ขจีเนตรได้ไปเจอเจ้านายถึงบนบ้าน เหตุเพราะคิรินไม่ชอบความวุ่นวาย จึงไม่อนุญาตให้ใครเข้านอกออกในตัวบ้านสองชั้นที่เพิ่งได้รับการรีโนเวตใหม่เมื่อต้นปี มีเพียงป้าดวงกับหลานสาวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต “แล้วเธออยากรู้ไหมว่า บทลงโทษของคุณคีทคืออะไร” ขจีเนตรยิ้มยั่ว มองจากดาวอังคารก็รู้ยายส้มเปรี้ยวคิดอย่างไรกับเจ้านายสุดหล่อ แต่ผู้ชายไม่เล่นด้วยก็เหนื่อยหน่อย “หน้าด้าน แกอย่ามาพูดให้ดูดีหน่อยเลย คนอย่างคุณคีทไม่นิยมกินของต่ำ” เพราะไม่เชื่อคำพูดสองแง่สองง่ามของคนตรงหน้าน้ำส้มจึงเถียงคอเป็นเอ็น คนอย่างคิรินฉลาดพอที่จะเลือกผู้หญิงขึ้นเตียง อีกอย่างขจีเนตรเป็นศัตรูเป็นไปไม่ได้แน่นอน เรื่องแบบนั้นต้องไม่มีทางเกิดขึ้น “หมายถึงตัวเองเหรอ เป็นฉันก็ไม่กินเหมือนกัน ดูท่าจะไม่อร่อย ขอตัวก่อนนะคืนนี้คงอีกยาวไกล หึ” ยกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัยหลังจากเห็นคู่สนทนาใบ้กินเพราะโดนด่า “กรี๊ดดดดด นังเซลีน อย่าให้ถึงคราวฉันนะ ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลย” “แล้วฉันจะรอ แต่ตอนนี้ไม่ว่าง ผู้ชายถามหาต้องรีบไป” ขจีเนตรยิ้มสะใจที่เห็นน้ำส้มเต้นเป็นเจ้าเข้าโกรธจนหน้าดำหน้าแดง มาลับฝีปากกับคนอย่างเธอชาติหน้าตอนบ่าย ๆ เถอะถึงจะชนะ อดีตคุณหนูเอาแต่ใจอย่างเธอปากร้ายยิ่งกว่าหมา คมกริบยิ่งกว่ากรรไกร น้อยคนที่จะเถียงชนะบอกเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของแม่เธอไม่ทนอยู่ให้คิรินโขกสับหรอก ยายผู้หญิงขี้อิจฉามองแผ่นหลังของขจีเนตรด้วยความริษยา สงสัยมาตลอดทำไมเจ้าของไร่หนุ่ม ถึงชอบเรียกยายคุณหนูตกสวรรค์ไปหาช่วงค่ำมืด มันเป็นแบบนี้เองสินะคงไม่ได้คุยเรื่องงานอย่างเดียว เตียงหนานุ่มของเจ้านายสุดหล่อควรเป็นเธอสิที่ได้ไปนอนครวญครางไม่ใช่ยายขจีเนตร ไม่ได้การแล้วเรื่องนี้ต้องถึงหูม่ายสาวพราวเสน่ห์อย่าง รดา พี่สาวแท้ ๆ ของอันดาอดีตคนรักของคิรินที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายเดือนก่อน และนั่นก็เป็นสาเหตุทำให้ขจีเนตรต้องมาอยู่ในไร่ส้มภูตะวันวาด ร่างบอบบางสูงโปร่ง หน้าตาสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ ดวงตากลมโตหวานซึ้งน่ามอง เพราะดวงตาคู่นี้บิดามารดาจึงตั้งชื่อเธอว่า ขจีเนตร หมายถึง ผู้ที่มีดวงตางดงาม หญิงสาวเดินมาหยุดตรงหน้าห้องนอนของผู้ชายไร้เหตุผลเอาแต่โทษเธอ หาว่าเธอคือต้นเหตุทำให้คนรักของเขาต้องตายก่อนเวลาอันควร “มาถึงแล้วทำไมไม่เดินเข้าไปล่ะ หรือต้องรอให้ใครอัญเชิญ” เจ้าของห้องนอนใหญ่เดินออกมาจากห้องทำงานเห็นเชลยสาวถอนหายใจไม่ยอมเปิดประตูเสียที จึงเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเธอก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงถากถาง “คุณคิริน คุณไม่ได้อยู่ในห้องเหรอ” หญิงสาวหันขวับมองด้วยความตกใจ ขวัญหนีดีฝ่อคิดว่าเป็นผี คนอะไรมาไม่ให้สุ้มให้เสียง “ถามทำไม ก็เห็นอยู่ เดินเข้าไปสิ” เขาเอ่ยราวกับไร้ความรู้สึกทั้งที่ข้างในกำลังร้อนรุ่ม เพียงแค่เห็นเรียวขาขาวภายใต้กางเกงนอนขาสั้นผ้าลื่นกายแกร่งก็แทบจะทนไม่ไหว กี่วันแล้วที่เขาไม่ได้เก็บดอกเบี้ยจากเรือนร่างเธอ “ยายส้มเปรี้ยวบอกว่าคุณต้องการพบฉัน คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันเหรอ” ถามด้วยน้ำเสียงประหม่าหลังจากเห็นแววตาของเขา แววตาที่แสดงออกถึงความต้องการบางอย่างจากร่างกายของเธออย่างปิดไม่มิด “เข้าไปคุยในห้อง ทำไม? กลัวเหรอ ไม่เห็นต้องกลัวเลย ทำเหมือนไม่เคย” มุมปากยกยิ้มขึ้นมาอีกครั้งยามที่คิดถึงเรื่องนั้น “ใครบอกว่ากลัว อีกไม่นานฉันก็จะไปจากที่นี่แล้ว” เธอเชิดหน้าตอบอย่างไม่เกรงกลัว ถ้าไม่ใช่เพราะแม่เพราะเงิน ไม่มีทางที่คนอย่างขจีเนตรจะเอาตัวเข้าแลกเด็ดขาด แต่ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกก็ต้องทำ “เหรอ แต่ในข้อตกลงของเรายังมีเวลาอีกหลายเดือน ตราบใดที่ผมยังแก้แค้นคุณไม่ครบปี อย่าคิดจะออกไปจากที่นี่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคนที่จะลำบากก็คือแม่ของคุณ จำเอาไว้คนสวย” “ฉันจะจำเอาไว้ จำหมดทุกอย่าง อย่าให้ถึงเวลาของฉันก็แล้วกัน คุณกระอักเลือดขาดใจตายแน่คุณคิริน” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ มั่นใจจังเลยนะคุณ แต่ผมจะบอกอะไรให้ ไม่มีใครทำอะไรผมได้หรอกโดยเฉพาะคุณหนูตกอับอย่างคุณ” “ไม่ต้องมาผลัก ฉันเดินเข้าไปในห้องเองได้ มีขา” หญิงสาวตวัดสายตามองคนใจร้ายอย่างไม่กลัวเกรง ก่อนจะหันหลังแล้วเปิดประตูเข้าไปข้างในโดยมีเจ้าของห้องตามติดไม่ห่าง ขจีเนตรคุ้นเคยกับห้องนอนกว้างใหญ่นี้เป็นอย่างดี เพราะเข้าออกนับครั้งไม่ถ้วน แม่คนไม่ยอมคนเดินไปนั่งบนโซฟาพลางเชิดหน้าขึ้นราวกับนางพญาลืมไปว่าตัวเองคือเชลย ไม่ใช่แขกกิตติมศักดิ์ คิรินเท้าสะเอวมองยายคุณหนูตกสวรรค์ด้วยความไม่พอใจ ทำไมถึงไม่รู้หน้าที่ของตัวเองเลย ค่ำมืดแบบนี้เรียกให้ถ่อมาถึงห้องจะทำอะไรล่ะนอกจาก... “คิดว่าผมเรียกคุณมาทำอะไร นั่งมองหน้าหรือไง” “คุณเรียกฉันมาคุยเรื่องน้ำส้ม ฉันก็นั่งรอฟังอยู่นี่ไง มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมาสิเสียเวลาคนพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องตื่นทำงานตั้งแต่เช้า แดดก็ร้อน ยืนมองอยู่ได้ ฉันรู้หรอกว่าตัวเองสวย” เพราะเธอเป็นคนไม่ยอมคน เรื่องราวถึงได้บานปลายถึงกับต้องระเห็จออกจากเมืองหลวงมาอยู่ที่ไร่ส้มภูตะวันวาด ถึงจะถามไปแบบนั้นแต่เธอก็รู้คำตอบดีจึงเบนสายตาไปมองทางอื่น อดเศร้าใจกับชีวิตของตัวเองไม่ได้จริง ๆ จากคุณหนูผู้มีอันจะกินมีชีวิตดุจเจ้าหญิงกลับกลายเป็นยาจกเพียงชั่วข้ามคืน “ลืมฐานะของตัวเองแล้วเหรอ คุณเป็นเชลยของผม ไม่ใช่เจ้านายอย่ามาสั่ง” เขาชี้หน้าต่อว่าเธอด้วยความโมโห ตัวเองเป็นเพียงเชลยแต่กล้ามาพูดแบบนี้มันน่าตีก้นให้เข็ด ถ้าเขาใจร้ายกว่านี้เธอตายไปนานแล้ว แต่เพราะยังหลงเหลือความเป็นคนถึงได้จับเธอมาทรมานด้วยการให้ตำแหน่ง ‘คนใช้’ ไม่ว่าเจ้านายใช้ให้ไปทำอะไรก็ต้องทำทั้งนั้น ในเมื่อกฎหมายลงโทษ ขจีเนตรไม่ได้เขาเองนี่แหละจะเป็นคนลงโทษเธอ “งั้นก็บอกมาสิ กลางค่ำกลางคืน คุณเรียกฉันมาทำไม” “เรียกมารับโทษ คนอย่างคุณต้องโดนลงโทษถึงจะสำนึก” “ฉันทำผิดอะไรไม่ทราบ คราวนี้ฉันไม่ยอมสนองตัณหาของคุณอีกแล้ว” “คุณไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ ถอดเสื้อผ้าแล้วไปนอนบนเตียง เดี๋ยวนี้” “มันจะมากไปแล้วนะคุณคิริน! เห็นฉันเป็นอีตัวหรือไง” “อย่าให้ผมโมโห คุณก็รู้ถ้าผมโกรธ คุณจะเป็นยังไง” “ฉันเกลียดคุณ เกลียดดดดด” “ผมก็เกลียดคุณเหมือนกัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม