อุ่นไอรักจากดวงตะวัน

ตอนที่ 5 - 1

ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเมืองไทย ที่ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าทันสมัย เสื้อผ้าชั้นนำของโลกรวมไปถึงร้านค้าดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านหนังสือ และอื่น ๆ อีกมากมาย ผู้คนต่างหลังไหลกันเข้ามาเดินเลือกซื้อสินค้ากันอย่างเพลิดเพลิน รวมถึงสองสาวเพื่อนรักที่เดินจับมือกันดูโน่นดูนี่ ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

จุดประสงค์ที่ทำให้พวกเธอทั้งสองต้องมาที่นี่ ก็คือการมาเลือกซื้อของขวัญครบรอบวันงานแต่งงานให้บิดามารดาของมินตรา ร้านแรกที่มินตราเข้าไปดูว่ามีอะไรที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญให้บิดาและมารดาของเธอ ก็คือ ร้านนาฬิกานำเข้าแบรนด์ชั้นต่าง ๆ จากทั่วโลก แต่มินตราก็ต้องชะงักเท้า และเหลียวหน้ามามองเจ้าของแรงขืนน้อย ๆ ที่ฉุดแขนเธอไว้โดยมือของเพียงตะวัน

เพียงตะวันส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วยอย่างที่มินตราจะเข้าไปซื้อของที่ราคาแพง ยิ่งอยู่ในวัยเรียนยิ่งไม่สมควรซื้อ ถึงแม้ว่า ฐานะทางบ้านของมินตราอยู่ในขั้นดีมากก็เถอะ เพราะว่าทั้งบิดาและมารดาของมินตรานั้นต้องเดินทางไปทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องอัญมณีที่ต่างประเทศบ่อย ๆ และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ท่านทั้งสองต้องส่งมินตราเข้ามาเรียนโรงเรียนประจำที่เดียวกันกับเธอ

มินตรามองสายตาของเพื่อนรักออก จึงพยักหน้าเบา ๆ เพียงตะวันจึงเปลี่ยนความสนใจมุ่งไปดูอย่างอื่นแทน จนกระทั่งทั้งสองเดินผ่านร้านผ้าไหมชั้นนำที่โด่งดังจากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของรัฐบาล เพียงตะวันกระตุกแขนมินตราเบา ๆ ให้ลองมองเข้าไปข้างในร้าน และแล้วทั้งสองสาวก็เดินเข้าไปในร้านขายผ้าไหมทันที

สุดท้ายแล้วของขวัญสำหรับวันครบวันแต่งงานของคุณพ่อคุณแม่ของมินตราก็เป็นของที่ทำมาจากผ้าไหมไทย โดยมินตราเลือกเนกไทซึ่งตัดมาจากผ้าไหมสีมะปรางเนื้อผ้าเงางาม กับผ้าคลุมไหล่สีมะปรางที่ทอจากไหม ซึ่งของสองชิ้นนั้นเข้าชุดกันซึ่งมินตราหวังให้ท่านทั้งสองใส่ออกงานคู่กัน โดยมีเพียงตะวันช่วยเลือกและออกความเห็น

ในช่วงที่รอพนักสาวบรรจงห่อของสองชิ้นอยู่นั้น เพียงตะวันก็ขอตัวออกมาเดินดูร้านกิฟต์ช็อปซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านผ้าไหมภายในร้านมีของน่ารักและสวย ๆ งาม ๆ จนเด็กสาวอดไม่ได้ที่มองทุกอย่างในร้านด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะไปสะดุดกับกิ๊บท์ติดผมรูปผีเสื้อที่ส่องประกายสวยงามยามต้องแสงไฟสีทองของร้าน ที่ตรงปีกประดับด้วยเพชรปลอมหลากสีพราวระยับ จนดูเหมือนปีกผีเสื้อจริง ๆ เพียงตะวันเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดูแล้วก็รู้สึกถูกใจยิ่งนัก แต่เมื่อพลิกไปดูราคาของกิ๊บรูปผีเสื้อแล้วก็ต้องตกใจเล็กน้อย

“ตั้งพันบาทเชียวหรือ!”

เด็กสาวพึมพำเสียงเบา เธอถอนหายใจด้วยความเสียดาย ทั้งที่เธอไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน เพราะค่าขนมกับค่าใช่จ่ายส่วนตัวนั้น คนของติณณ์จะนำมาให้เธอถึงโรงเรียนทุกอาทิตย์ แต่เด็กสาวก็ตระหนักอยู่เสมอว่าเงิน ที่เธอใช้จ่ายอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่เงินของตนเอง

เด็กสาววางกิ๊บติดผมลงบนผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงิน ตัดใจหันหลังเดินกลับออกไปนอกร้าน แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าอกหนาและอุบอุ่นของใครมาขวางทางเอาไว้ จมูกของเธอแทบจะชนกับหน้าอกแกร่งนั่น และได้กลิ่นโคโลญจ์สำหรับผู้ชายโชยเข้ามา เธอจึงรีบถอยหลังออกมา

เด็กสาวไล่สายตาขึ้นไปมองดูใบหน้าของเจ้าของอกกว้างที่ว่า เมื่อสายตาของเธอสบเข้ากับสายตาคนเข้มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นก็ทอประกายบางอย่าง ที่ชวนให้คนมองรู้สึกถึงความอบอุ่นขึ้นมา แต่แค่พริบตาเดียวแววตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นแววตาคมกล้าและดูดุอยู่ในที

“คุณติณณ์” เด็กสาวเอ่ยชื่อเขาเบา ๆ หลังจากได้กะพริบตาปริบ ๆ มองคนตรงหน้า

“นี่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...ตะวัน” น้ำเสียงติดจะเข้มงวดถามขึ้น แววตาของเขามีแววประหลาดใจและตำหนิ ที่เห็นเด็กสาวมายืนเตร็ดเตร่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแทนที่จะเรียนดนตรีหรือเรียนพิเศษอยู่ที่โรงเรียน

“เอ่อ...พอดี ดิฉันมาเป็นทำธุระกับเพื่อน” กล่าวอย่างอึกอัก จะว่าเป็นเพราะน้ำเสียงเข้มงวดและนัยน์ตาแฝงแววตำหนิของคนตรงหน้านั่นก็ได้

‘ดิฉัน’ อีกแล้วหรือ ติณณ์นึกอย่างไม่ชอบใจกับสรรพนามที่เธอใช้เรียกตัวเองที่ฟังแล้วช่างห่างเหิน แต่เขาก็ต้องเก็บงำความไม่ชอบใจเอาไว้ ก่อนจะไล่สายตาเข้มงวดกวาดหาร่างของเพื่อนที่เด็กสาวอ้างขึ้นมา “ไหนล่ะเพื่อนของเธอ...ตะวัน”

ไม่ทันที่เพียงตะวันจะเอ่ยบอก เสียงหวานกังวานก็แทรก ทั้งติณณ์และเพียงตะวันต่างก็เหลียวมองเจ้าของเสียงที่ว่าพร้อม ๆ กัน

“พี่ติณณ์คะ หนีมาอยู่นี่เอง ทิพย์ตามหาพี่ซะทั่ว” เจ้าของเสียงที่มีนามว่าทิพรดาพูดพร้อมกับก้าวเข้ามาคว้าหมับที่ต้นแขนชายหนุ่มดวงหน้าสวยแบบสาวไทยยิ้มหวานส่งให้คนร่างสูงกว่าเธอ ก่อนจะหันกลับมาเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่อยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนประจำชื่อดัง

ทันที่ดวงตาของทิพรดาปรายมองมาทางเธอ เพียงตะวันก็จำต้องยกมือขึ้นไหว้หญิงสาวที่มีอายุอานามมากกว่าตัวเองตามมารยาทที่เธอได้รับการอบรมมา

“ตะวัน” ทิพรดาขานชื่อเด็กสาวเบา ๆ ขณะยกมือขึ้นมารับไหว้เด็กสาวตรงหน้า เนื่องด้วยว่ารู้จักกันดีและเคยพบกันที่บ้านของคุณลุงเตชสิทธิ์อยู่สองสามครั้ง แต่ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นในงานเลี้ยง ที่ว่ารู้จักกันดีนั้นเป็นผลเนื่องมาจากว่าบิดาของคนทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทกัน

แต่มาถึงรุ่นลูกกลับไม่สนิทกัน เนื่องจากทิพรดานั้นค่อนข้างถือตัวเจ้ายศเจ้าอย่าง หากจะยิ้มให้กับเด็กสาวตรงหน้าก็เป็นรอยยิ้มตามมารยาท ลักษณะประจำตัวของเธอไม่ว่าจะเดินไปไหนหรือทำอะไรจะกระทำด้วยท่วงท่าที่มั่นใจและเชิดคอได้อย่างไม่อายใคร ด้วยตัวของเธอนั้นเป็นลูกสาวของเศรษฐีคนหนึ่ง ดังนั้นคนที่เธอจะสมาคมด้วยนั้นจะต้องอยู่ในระดับเดียวกันหรือไม่ก็สูงกว่า หากต่ำกว่าเธอก็จะมองเลยผ่านหรือบางครั้งทำเหมือนไม่เห็นใครคนนั้นอยู่ในสายตา อย่างเช่นที่เธอกำลังทำกับเพียงตะวัน ถึงแม้ว่าบิดาของเธอและบิดาของเพียงตะวันจะเป็นเพื่อนกันมาก่อนก็ตาม แต่มันก็ก่อนหน้าที่บิดาของเด็กสาวล้มละลายและเสียชีวิตไป

“พี่ติณณ์คะ พี่ช่วยไปดูของตรงนั้นเป็นเพื่อนทิพย์หน่อยได้มั้ยคะ” ทิพรดาเงยหน้าออดอ้อนชายหนุ่มเสียงหวาน

เมื่อเห็นว่าตัวเองเป็นเหมือนอากาศธาตุเพียงตะวันก็พยายามจะปลีกตัวออกมาจากบรรยากาศอันน่าอึดอัด ที่ทิพรดาทำเป็นไม่สนใจเธอ และยังอาการพะเน้าพะนอของทิพรดาอีก

“ตะวัน มาอยู่นี่เอง” เสียงของมินตราดังแทรกขึ้นมา ช่วยทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดลง

ติณณ์ละความสนใจจากคำพูดของทิพรดาก่อนจะมองมินตราแล้วถาม “นี่หรือเพื่อนที่บอกว่ามาทำธุระกัน”

“ค่ะ”

มินตราเมื่อได้เห็นติณณ์เต็มตาถึงกับรีบยกมือไหว้ เกือบจะอุทานด้วยความตื่นเต้นยินดีที่ได้เจอ ติณณ์ อนันท์ตระการ จริง ๆ ชายหนุ่มที่เธอเคยเห็นรูปเขาตามนิตยสารต่าง ๆ ซึ่งบอกได้เลยว่า ตัวจริงหล่อเหลากว่าในรูปเสียอีก เพราะทุกครั้งที่มีการประชุมผู้ปกครองของเพียงตะวัน เขาก็ส่งตัวแทนไปเสมอ โดยปล่อยให้เพียงตะวันต้องชะเง้อคอรอคอยว่าเขาจะมาเข้าร่วมการประชุมเหมือนผู้ปกครองของเพื่อนคนอื่น ๆ ไหมและต้องแอบไปร้องไห้ด้วยความน้อยใจอยู่เสมอ

ชายหนุ่มร่างสูงมีใบหน้าคมคาย อีกทั้งดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั้นก็ดูน่าหลงใหล มินตราจึงเผลอมองเขาอย่างลืมตัว จนกระทั่งเหลือบไปเห็นดวงตาคู่สวยของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายเขาฉายแววไม่พอใจออกมา

หญิงสาวสวยอายุอานามน่าจะมากกว่าเธอและเพียงตะวันเรือนร่างสูงระหงอยู่ในชุดกระโปรงทรงบอลลูนสีชมพูหวาน ใบหน้าสวยอันประกอบด้วยคิ้วเรียวสีน้ำตาลที่มาจากการขีดเขียน พาดอยู่เหนือดวงตาโตที่ล้อมรอบด้วยกรอบขนตาแพงอนอันน่าจะมาจากการดัดและการใช้มาสคาร่าช่วย ริมฝีปากอิ่มเคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพู ผู้หญิงคนคงเป็นคนที่มีข่าวกับชายหนุ่มบ่อย ๆ ว่าเป็นหญิงสาวที่ติณณ์กำลังจะหมั้นหมายและแต่งงานด้วย