EP.01
ครั้นชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่แห่งหน่วยรุกฆาตเดินด้วยท่วงท่าองอาจเข้ามาในห้องนั้น หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพี่ชายพร้อมกับรอยยิ้มกริ่มยินดี ก่อนจะส่งเอกสารในมือซึ่งสลักคำสั่งลับให้กับเขาโดยไม่พูดอะไร
อัครินทร์ ถิ่นเมฆา มองกระดาษเอกสารในมือหญิงสาวสลับกับกรอบหน้าสวยหวานแกมมุ่งมั่นอย่างไม่เข้าใจในความหมาย
“อะไรของแก ยายธาร”
“ลองอ่านดูสิคะ พี่ชาย”
หญิงสาวว่าพร้อมคะยั้นคะยอส่งกระดาษให้พี่ชายอีกครั้งเป็นเชิงเร่งให้เขารับไปอ่านโดยเร็ว
นายตำรวจหนุ่มรีบเอื้อมมือคว้ากระดาษแผ่นนั้นพร้อมกับบ่นพึมน้องสาวที่ไม่ยอมเปิดปากบอกอะไรเขามากไปกว่าให้ตนอ่านจากเอกสารชุดนั้นด้วยตัวเอง
“หวังว่าจะไม่ใช่คำสั่งบรรจุงานของแกหรอกนะ”
เขาพูดเช่นนั้นก่อนจะเงียบเสียงอ่านเอกสารไปสักพัก ก่อนจะรู้ว่าสิ่งที่ตนพูดไปเมื่อสักครู่มันไม่ได้ผิดไปจากนั้นเลย
ธาราริน ถิ่นเมฆา น้องสาวของเขาได้รับเอกสารคำสั่งส่งตัวพัฒนากรลงบรรจุในจังหวัดที่เธอได้เลือกเอาไว้
สามตัวเลือกที่น้องสาวของเขาได้เคยบอกไปเมื่อหลายเดือนก่อนคือจังหวัดในภาคเหนือทั้งสิ้น
แม่ฮ่องสอน พะเยาและน่าน
“ธารชอบธรรมชาติค่ะ ธารอยากอยู่กับธรรมชาติ ถ้าได้ทำงานจริงๆ ธารอยากจะทำงานกับพี่น้องชาวเหนือ มีบรรยากาศอันอบอุ่น เย็นสบาย ผู้คนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและวัฒนธรรมอันอ่อนช้อยงดงาม”
นั่นคือเหตุผลที่เขาได้รับทราบจากน้องสาวเมื่อหลายปีก่อน
ธารารินชอบภาคเหนือเป็นที่สุด ทุกๆ ปีหญิงสาวมักจะหาโอกาสไปพักผ่อนกับเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ หรือไม่ก็จังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ
เช่นเดียวกับการเลือกลงบรรจุทำงาน หญิงสาวได้เลือกจังหวัดที่มีแต่ธรรมชาติเพื่อการทำงานอย่างเต็มที่และมีความสุขตามความต้องการ
“แกแน่ใจหรือว่าจะไปอยู่ได้ มันไม่ใช่ใกล้ๆ นะ”
ชายหนุ่มละจากเอกสารชุดคำสั่งบรรจุพนักงานราชการในตำแหน่งที่ผู้คนทั่วไปรู้จักในนามของนักพัฒนามามองหน้าธารารินอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจในความต้องการของเธอ
ฝ่ายหญิงสาวยิ้มหวานแล้วลุกขึ้น ก่อนจะมาคลอแขนล่ำของพี่ชายแล้วว่า
“ธารเลือกแล้วค่ะ คำสั่งให้รายงานตัวอบรมในอาทิตย์หน้าก่อนลงปฏิบัติงานจริงในอีกหนึ่งเดือนค่ะ พี่รินไปส่งธารนะ”
“แล้วพี่คินทราบเรื่องนี้หรือยัง”
ชายหนุ่มนิ่งเงียบแล้วมองหน้าน้องสาวคนสวย รอคำตอบจากเธอซึ่งก็นิ่งไปเช่นกัน
พี่คิน หรือ เภคินทร์ ถิ่นเมฆา เสืออากาศแห่งกองกำลังอินทรีผยอง นายเรืออากาศหนุ่มแห่งน่านฟ้าไทย พี่ชายคนโตของตระกูลซึ่งเวลานี้ย้ายไปประจำการที่กองทัพ ทิ้งให้น้องชายคนรองและน้องสาวคนเล็กอยู่บ้านและดูแลกันเองหลังจากบิดาและมารดาเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน
ธาราริน ดูเหมือนจะสนิทกับอัครินทร์มากกว่าพี่ชายคนแรก นั่นเพราะทั้งสองได้อยู่ใกล้ชิดและเห็นกันทุกวัน
แม้ทั้งสามคนจะถูกเลี้ยงมาจากครอบครัวที่อยู่ในฐานะปานกลาง แต่บิดามารดาของพวกเขาก็สอนและปลูกฝังให้ดูแลตัวเอง มีความรับผิดชอบสูง มุ่งมั่นต่อหน้าที่ เภคินทร์ ถิ่นเมฆาดูเหมือนจะเป็นตัวอย่างให้กับน้องๆ เข้ารับงานราชการ รับใช้แผ่นดินเกิดอย่างเต็มภาคภูมิ
คนต่อมาคืออัครินทร์ ที่เดินตามรอยพี่ชายเข้ารับงานราชการ สังกัดหน่วยรุกฆาต
บัดนี้ธาราริน กำลังก้าวตามพี่ชายทั้งสองคนเข้ารับงานราชการเป็นนักพัฒนา โดยเลือกชนบทเพราะเห็นว่าสมควรจะนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาฟื้นฟูให้สมกับความตั้งใจ ตามรอยของพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย
เรื่องนี้เภคินทร์ยังไม่ทราบ อัครินทร์จึงเห็นควรให้น้องสาวบอกกล่าวกับพี่ชายเสียก่อน เพราะถึงแม้จะไม่มีพ่อแม่แล้ว เภคินทร์พี่ชายคนโตก็เหมือนพ่อแม่อีกคนของพวกเขา
นานกว่านาที หญิงสาวคนสวยจึงยิ้มแล้วอ้อนอัครินทร์ให้พาไปหาพี่ชายคนโตเพื่อให้ช่วยบอกเรื่องนี้กับเภคินทร์ ซึ่งเธอรู้ดีว่าพี่ชายจะต้องไม่พอใจและไม่เห็นควรด้วยอย่างแน่นอนที่น้องสาวไปทำงานไกลหูไกลตา แม้จะเป็นงานราชการรับใช้แผ่นดินเหมือนกับพี่ชายทั้งสองก็ตาม
อย่างที่คาดไว้ตั้งแต่แรก ครั้งแรกเภคินทร์ไม่ยอมให้น้องสาวไปปฏิบัติราชการในจังหวัดภาคเหนือตามคำสั่ง โดยเขาบอกว่าจะอาสาไปคุยกับอธิบดีกรมฯ เองเพื่อจะย้ายตัวของน้องสาวให้มาทำงานใกล้ๆ ในภาคกลางหรือในกรุงเทพฯ หากธารารินกลับไม่ยอม ย้อนพี่ชายไปหลายคำซึ่งหนึ่งในนั้นคือเหตุผลที่เธอต้องการตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกษัตริย์นักพัฒนา ที่เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องชาวชนบทผู้ยากไร้อย่างไม่สนต่อความยากลำบาก อย่างนี้แล้วคนเราประชาชนคนไทยที่ต้องการตามรอยพระองค์ท่านจะกลัวไปทำไมกับความลำบากเหล่านั้น ซึ่งเหตุผลนี้เองที่พี่ชายคนโตไม่อาจจะขัดขวางความมุ่งมั่นของเธอได้
เสืออากาศหนุ่มจึงได้แต่อวยพรน้องสาวที่รักในอาทิตย์ต่อมา โดยการเดินทางครั้งนี้มีอัครินทร์เดินทางติดตามไปส่งน้องสาวด้วยตัวเอง
การเดินทางสู่เมืองเหนือของธาราริน ถิ่นเมฆา จึงเกิดขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งในช่วงหนึ่งเดือนแรกเธอเข้าร่วมการอบรมพร้อมกับเพื่อนร่วมอาชีพที่ได้รับการบรรจุงานในชุดเดียวกัน ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังจังหวัดและอำเภอที่ได้รับผิดชอบ