EP.09
หลังจากเสร็จกิจจากกลุ่มชาวบ้านแล้วธารารินจึงได้มีเวลาขับมอเตอร์ไซค์ไปยังวัดประจำอำเภอซึ่งชาวบ้านต่างเคารพนับถือว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณกาล
ธารารินลงจากรถแล้วก้าวเข้าไปในวัด พร้อมกับรู้สึกใจชื่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว หัวใจที่มีแต่เรื่องราวต่างๆ อันวุ่นวายเสมือนถูกขับออกไปนอกเขตขัณทสีมาแห่งนี้เสียหมดสิ้น
กระแสความเย็น เมตตาแผ่มาจากดวงเนตรของรูปตัวแทนองค์สัมมาอนุตระพระพุทธเจ้า สาวจากเมืองกรุงทรุดกายลงนั่งกับพื้นพรมที่ปูลาดทั่วทั้งอุโบสถหลังนั้นพร้อมกับพนมมือระหว่างอกแล้วก้มลงกราบด้วยท่วงท่างดงาม ก่อนเธอจะขยับมานั่งขัดสมาธิตามหัวใจสั่งการแน่วแน่ว่าจะขอนั่งทำสมาธิถวายแด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าและบิดามารดา
นักพัฒนาสาวจากเมืองกรุงใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมงกับการเดินเล่นอยู่ในวัดแห่งนั้น โดยมีกล้องถ่ายภาพของเธอช่วยในการเก็บภาพความทรงจำและความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะพื้นบ้าน ก่อนเธอจะเดินทางกลับที่พักพร้อมกับค้นหางานในการพัฒนาต่อไป
โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า งานที่เธออุตส่าห์ตั้งใจทำและค้นหามาทั้งหมดจะถูกวางลงที่เดิมอย่างน่าเสียดาย
เช้าวันทำงาน...
ในขณะที่อริมาเดินทางมาถึงห้องในช่วงเช้าของวันนั้น ยังไม่ทันวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะเสียด้วยช้ำ ข้อมือบางของหญิงสาวก็ถูกจากใครบางคนจับยึดแล้วลากออกจากห้องนั้นไปอย่างรวดเร็ว
พี่เลี้ยงสาวของธารารินดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยกับความกะทันหันนั้น ยิ่งเห็นคนที่ลากเธอมาด้วยแล้วเธอก็ยิ่งแปลกใจ เพราะปกติเขาคนนี้ไม่แม้จะกรายใกล้มาพูดคุยกับเธอ
“ป้าพร!!”
ทั้งสองหญิงต่างวัยมาหยุดหลบมุมอยู่ที่หลังอาคารสำนักงาน ก่อนสาวใหญ่วัยใกล้เกษียรจะใช้สายตาอันคมกล้าจิกมองเพื่อนร่วมงานรุ่นลูกอย่างดูถูกดูแคลน
สายตานั้นอริมาย่อมมองออกว่าหญิงสูงวัยคนนี้ต้องการอะไร เพราะเธอนั้นพบเจออยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่เข้ามารับผิดชอบงานในอำเภอบ้านเกิด
หลายครั้งที่เธอนึกแปลกใจ เหตุใดคนบ้านเดียวกัน อำเภอเดียวกันอย่างป้าคนนี้ถึงได้ตั้งแง่กับเธออย่างกับเป็นนอกไม่น่าไว้ใจ ตราบจนได้ทำงานร่วมกันนานๆ เข้า หญิงสาวจึงได้รู้ซึ่งอุปนิสัยของหญิงกลางคนคนนี้ว่าเป็นอย่างไร
นอกจากมีจิตคิดริษยาคนอื่นแล้ว ป้าพรยังเป็นคนไม่สนใจในคำพูดของตัวเองและไม่สนแม้แต่ใจของคนฟัง
คำพูดคำจานั้นไม่น่าฟังเอาเสียเลย ขนาดเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แท้ๆ ยังทำตัวไม่เหมาะสมให้คนอื่นเคารพนับถือ
“ฉันมีเรื่องจะเตือนหล่อน อริมา”
ดวงตาคู่สวยของอริมาเบิกมองหญิงใกล้เกษียรงานอย่างไม่เข้าใจ
นับครั้งได้ที่เธอจะได้ฟังคำเตือนจากป้าพร เพราะแต่ละครั้งจะเป็นไปในทางส่อเสียดและเสียดสีเธอเสียมากกว่า
“อะ...อะไร หรือคะ”
“เรื่องนังเด็กเส้นคนนั้นน่ะ ถ้าหล่อนไม่อยากเดือดร้อนก็อย่าไปใกล้ชิดกับมันนัก อย่าสนใจมันเลยยิ่งดี” สาวสูงวัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยามเหยียด “หล่อนก็เห็นนี่ว่าคนอื่นในที่นี้ต่างเกลียดพวกเด็กฝากเด็กเส้นกันขนาดไหน อย่าลืมสิว่าหล่อนเป็นคนอำเภอนี้ ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ ชั้นว่านะยังไงก็ต้องได้ทำงานกับพวกชั้นไปอีกหลายปีเลยทีเดียว แต่นังเด็กนั่นอีกไม่กี่เดือนเชื่อสิผู้หลักผู้ใหญ่ในกรมฯ ก็คงจะมีคำสั่งย้ายให้มันไปที่อื่น ทีนี้แล้วหล่อนก็จะเดียวดาย ไม่มีใครเพราะไปตั้งแง่กับคนที่นี่ เชื่อชั้นสิอริมา อย่าได้สร้างกระแสเป็นคนรักการรักงานกับนังเด็กนั่นเลย มันช่วยอะไรหล่อนไม่ได้หรอกนะ”
หลังพ่นคำไม่สมกับเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว ป้าพรก็สะบัดตูดออกจากตรงนั้นไปอย่างอารมณ์ดี
ฝ่ายอริมาได้แต่อึ้งและตกใจในคำพูดไม่สนโลกของหญิงวัยกลางคน ไม่คิดว่าในเช้าของวันนี้เธอจะได้พบกับคำพูดที่ไร้ซึ่งความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์จากหญิงคนนี้
นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวแบ่งแยกความรู้สึกที่มีต่อบุคคลรอบข้างได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะป้าพรที่เพิ่งเดินจากไปด้วยสีหน้าแววตาเยาะหยัน