4 ปะทะคู่แข่ง

878 คำ
มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง "มาช้าจังล่ะรีน หรือว่าเมื่อคืนแกดื่มหนัก" เยลลี่เพื่อนสาวคนสนิทรีบโบกมือควักเรียก เธอมาจองที่นั่งประจำตรงโต๊ะหินอ่อนข้างอาคารเรียน เวลาเช้าเช่นทุกวัน เพราะอีกฝ่ายมักชอบมาสาย เพราะติดเที่ยวปาตี้หนักวันเว้นวัน พวกเธอเลือกเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ เน้นสาขาการออกแบบแฟชั่น เข้ากับนิสัยจัดจ้านเจ้าตัว ทำให้เรื่องแต่งกายแต่ละวัน สร้างจุดดึงดูดแก่เพศตรงข้ามไปด้วย "เมาจนได้เรื่องเลยแหละ รถโครตติดด้วยไม่รู้คนจะแย่งกันมาทำไมหนักหนา" ร่างอรชรในชุดนักศึกษากระโปรงตัวสั้น อวดเรียวขาขาวให้บุรุษแง้มมอง ทิ้งกายลงนั่ง พลางยกมือซับเหงื่อผุดข้างขมับ "แกเห็นข่าวยัยข้าวฟ่างหรือยัง" คนบอกรีบยื่นโทรศัพท์มือถือกดแอพพลิเคชั่นข่าวให้ดู "ในที่สุดก็คั่วกันจริงสินะ..สารเลว" ภาพสองชายหญิงนัวเนียกันในผับ ล้วงลึกกันอย่างเปิดเผย ไม่อายช่างภาพชื่อเสียงนายแบบดัง ~ช่างมีความสุขเหลือล้น มีเพียงเธอคนเดียวยังผูกใจเจ็บ~ "งั้นก็จบเถอะเนอะ แกก็สวยๆมีใหม่ไป" "มันง่ายไปเยล ฉันเนี้ยแหละจะเป็นแม่มดสาบแช่งพวกมัน โทษฐานกล้าหักหลังกันคอยดู" สายกระเป๋าในมือแทบฉีกขาด เล็บยาวสีจัดจ้านจิกเกร็ง แต่มุมปากดันยิ้มร้าย เสมือนมีความคิดแล่นผ่านสมอง . . ช่วงเที่ยง "แกว่าอาจารย์คณะเราแปลกไหม อยู่ๆสั่งงานปุ๊บจะเอาปั๊บ หัวใครจะคิดแบบไวกัน" เสียงใสบ่นร่ายยาว กอดหนังสือเรียนปึกใหญ่แนบอก ทั้งที่ไม่ใช่คนชอบอ่านมันเลยสักนิดเดียว ความหิวประท้วงเร่งสับก้าวส้นสูงกระฉับกระเฉง มุ่งตรงโรงอาหารเพื่อซื้อมื้อเที่ยงรับประทาน "จะแปลกก็แปลกแต่เราไม่มีทางเลือกนี่ รีบกินแล้วไปหามุมเงียบๆทำกัน" "ตรงไหนจะเงียบ...ว๊าย!!!" ยังพูดไม่ทันขาดคำ ร่างอรชรเซถลาเกือบชนมุมขอบโต๊ะ แหลมประมาณปลายมีดคม ยังดีที่เยลลี่คว้าไว้ได้ทัน ส่วนผู้เดินชนแสร้งก้มหน้าขอโทษ ผิดจากดวงตาหลบซ่อนเล่ห์ "ข้าวขอโทษ..รีนเจ็บตรงไหนไหม" ข้าวฟ่างเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อน ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เมื่อมีคนระแวกนั้นมองดูเหตุการณ์ ใครต่างก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนยอมคน "มีตาก็แหกดูสิ ชนแรงอย่างกับควายขวิดคิดว่าไม่เจ็บได้ไง" แน่นอนว่าเสียงจัดจ้านสวนกลับทันควัน ข้าวฟ่างคือคู่แข่งตัวฉกาจ ไม่รู้โกรธแค้นอะไรหนักหนาถึงราวีไม่เลิก กระทั่งคัดเลือกดาวคณะที่เสนอตัวเอง แต่คนอื่นดันลงคะแนนเลือกมารีนมากกว่า "เราพูดดีๆนะรีน ถ้างั้นเราขอโทษอีกรอบนะ" "ตอแหล" เมื่อความเจ็บแค้นในใจมันสุมทรวง ถ้อยคำด่าหยาบคายพลั่งพลูออก ยิ่งเรียกผู้คนมารุมดู ส่วนเยลลี่รีบดึงแขนเพื่อนสาว เพื่อเลี่ยงความรุนแรง "ข้าวพูดด้วยดีๆนะ คนแบบนี้อย่าไปเสียเวลาพูดกับพวกมันเลย" ปริ่มคือสาวประเภทสองรูปร่างอ้วนท้วม เพื่อนสนิทคนเดียวข้าวฟ่างรีบดึงแขนรั้งไว้ ไม่ให้หญิงสาวเข้าไปจับมือขอโทษ แล้วกึ่งบังคับจูงกันออกจากจุดที่ยืนอยู่ โดยมีสายตาเหยียดหยามเหลียวมอง "อิซากศพหมาอืด!" "ไปๆเถอะ อายคนอื่นเค้ารีน" จนทั้งสองพากันมานั่งตรงพุ่มไม้ ข้างตึกคณะบริหารที่น้องชายเรียนอยู่ สงบสติอารมณ์ได้เพียงไม่นาน นิสัยเลือดร้อนดันเริ่มสูบฉีดใหม่ นึกได้ตอนไหนก็โมโหเมื่อนั้น "ข้าวก็ไม่ได้กิน โมโหก็โมโห นัดตบกับมันสักรอบให้รู้กันไปเลย" น่าเจ็บใจชะมัด ในเมื่อพื้นที่ตั้งกว้าง แต่ทำไมถึงเดินชนได้ จิตใจที่เสแสร้งแสดงหน้าเรียบร้อย ทำตัวน่าสงสารดูสมเพชต่อสายตาสิ้นดี ต่างจากเธอที่คนอื่นว่านิสัยร้ายรุนแรง กว่าตัวโกงในละครอีกหลายเท่า เพียงเพราะอ่อนหวานไม่เป็น "มีแต่เสียกับเสียนะ รีนต้องใจเย็นลงบ้าง" แต่ที่รู้ตอนนี้คือเพื่อนสาว ดียิ่งกว่าแม่พระหนุนนำ ทำคนไม่สนใจธรรมะหันขวับจ้อง "เลิกเรียนแล้วไปบวชไปยัยเยล" "จะให้พี่เยลไปบวชทำไม ผมก็เฉาแย่สิ" ทว่าเสียงของน้องชายดังขึ้นดึงดูดทุกคนหันเหลียว บุคคลมาเยือนใหม่ในชุดนักศึกษาชายหลุดรุ่ย ทุกอย่างเน้นผิดกฎระเบียบชัด "เลิกหม้อเพื่อนฉัน แล้วนี่จะรีบไปไหนไม่เข้าเรียนบ่ายหรอ" พี่สาวรีบคว้าเอาข้อมือน้องชาย ที่ความสูงนำกว่าเธอไปหลายเท่า "ไม่อะ ไปหาอะไรสนุกทำกับพวกเฮียซายน์หน่อย" "ทำอะไร" พอพูดถึงชื่อบุคคลตัวต้นเหตุของการมาสาย มือบางผละออกทันที นั่งลงสนใจงานกับเพื่อนสาวต่อ ปล่อยให้ฮาเกนเออออไปคนเดียว "ปะทะอริ" ...................................................... เมื่อน้องกับผู้ชายเข้ากันได้ดี 555 #มีคนอ่านของไรท์บ้างไหมเอ่ย....ช่วยกดถูกใจเพื่อดันเรื่องนี้หน่อยคนับ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม