ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น

1136 คำ
21:20 นาฬิกา รีเพลย์ ผับ แอนด์เรสเตอร์รอง ร้านอาหารกึ่งผับติดแผ่นป้ายประกาศปิดหนึ่งวันสำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมทั้งติดป้ายแจ้งกำหนดการจัดงานวันเกิดของโมกข์ ทวีกานต์ ไฮโซทายาทเจ้าของกิจการนำเข้ารถยนต์หรูคนดังซึ่งเชิญเฉพาะกลุ่มเพื่อนให้เข้ามาร่วมฉลองแบบเป็นการส่วนตัวในผับกึ่งร้านอาหารแห่งนี้ที่เขามีหุ้นส่วนอยู่เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ บอดี้การ์ดหน้าผับที่รับหน้าที่ตรวจคนเข้าออกยืนมองหน้าผู้หญิงสองคนที่เข้างานมาเป็นอันดับท้ายๆ ท่ามกลางแสงที่สลัวเล็กน้อย คนเป็นหัวหน้ากลุ่มเกือบจะห้ามทั้งสองเข้าแล้ว หากไม่มองดีๆ แล้วเห็นว่าเป็นมีนา น้องสาวของเจ้าของวันเกิด เจ้าหล่อนก็แต่งตัวเข้าทีอยู่หรอก แต่เพื่อนอีกคนที่ยืนหันรีหันขวางและแต่งตัวเรียบร้อยกว่าใครจนดูเหมือนมาผิดงานนั่นต่างหากที่ทำให้เขาเกือบเข้าใจผิดไม่ให้ทั้งคู่เข้างาน... “แขกมาเยอะแล้วหรือยังคะ” มีนาถามหัวหน้าบอดี้การ์ดที่คุ้นเคยดีเพราะหล่อนมาเที่ยวกลางคืนบ่อย “เริ่มมาหนาตาแล้วครับทั้งกลุ่มเพื่อนของคุณมีนาและคุณโมกข์” พยักหน้าให้ลูกน้องของพี่ชาย แล้วก็หันมาพยักหน้าให้เพื่อนของตัวเองที่บังคับให้มาด้วยได้สำเร็จแต่บังคับให้แต่งตัวเซ็กซี่มากกว่านี้ไม่สำเร็จ “ไปกันแพรว เห็นไหมขนาดการ์ดยังมองแปลกๆ บอกแล้วให้แต่งชุดเหมือนๆ กันจะได้กลมกลืน อย่าบ่นแล้วกันว่าวันนี้เป็นจุดดึงดูดสายตาของงานนี้แล้วอึดอัด” มีนาหันไปบอกแพรวพิมพ์ เพื่อนสาวร่วมอาชีพ แม้ครอบครัวมีนาจะร่ำรวยมหาศาล แต่งานที่หล่อนรักคือการเป็นเมคอัพอาร์ตติสและเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ หล่อนรู้จักกับแพรวพิมพ์เพื่อนต่างมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจะเรียนจบเพราะว่าเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์เหมือนกันและคุยกันถูกคอ แม้รู้ว่าอีกฝ่ายฐานะต่างกันมาก แต่ความใจเย็น อ่อนโยนของแพรวพิมพ์ที่ยิ่งรู้จักยิ่งสนิทสนมได้อย่างสนิทใจเลยทำให้ถือโอกาสที่แพรวพิมพ์จะย้ายจากหอพักมหาวิทยาลัยที่ต่างจังหวัดกลับมาอยู่กรุงเทพฯ กับครอบครัวที่อุปถัมภ์เจ้าตัวเป็นลูกบุญธรรมฉกตัวเพื่อนสาวมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดมิเนียมก่อนหนึ่งอาทิตย์ “แพรวเรียนจบเป็นผู้ใหญ่แล้ว ขออนุญาตท่านมานอนบ้านเพื่อนสักอาทิตย์ แล้วค่อยเข้าบ้านท่าน เชื่อเรา เรามีอะไรให้ดูเยอะแยะ มีคลังแสงเครื่องสำอางรอคอยแพรวอยู่ เชื่อสิเดี๋ยวไม่มีโอกาสได้เป็นอิสระเหมือนตอนเรียนแล้วนะ ลองใช้ชีวิตตัวเองสักอาทิตย์ก่อนเข้าบ้านพ่อแม่บุญธรรมนะแพรวนะ” มีนาใช้ทั้งลูกล่อทั้งลูกชนชวนเพื่อนให้อยู่ด้วยกันเพราะใจจริงแล้วอยากแนะนำเพื่อนสาวให้พี่ชายของตัวเองรู้จัก แพรวพิมพ์คนนี้ทำให้คนที่ยิ่งรู้จักยิ่งชอบเจ้าหล่อน เพื่อนคนนี้นิสัยดีแถมเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เข้ากับหล่อนได้ มีนาต้องการเพื่อนคนนี้เป็นพี่สะใภ้เพื่อเบียดบรรดาสาวๆ ของพี่ชายที่ไม่ถูกชะตากับหล่อนให้กระเด็น วันนี้เพื่อนได้รับอนุญาตให้มาอยู่ด้วยหล่อนก็รีบชวนมางานวันเกิดพี่ชายของหล่อนทันที... “คนเยอะจนตาลายไปหมด” แพรวพิมพ์บ่น “เราไม่มีทางโดดเด่นหรอก วันนี้สัญญากับเราแล้วนะว่าจะกลับเร็ว ไม่เมา ไม่อ้อยอิ่ง” “จ้า คุณแม่ชี” มีนาบอกเพื่อนแล้วก็ควงแขนเพื่อนสาวที่หล่อนพอใจทั้งหน้าตา นิสัย ท่าทาง และทุกอย่าง ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงจะจีบเป็นแฟนตัวเองไปแล้ว “อ๊ะ พี่โมกข์ พี่กาจน์ สวัสดีค่ะ” มีนาเรียกพี่ชาย ที่กำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนของเขา เพราะดีใจที่จะเห็นว่าพี่ชายของตนกับเพื่อนตนจะได้เห็นหน้ากันครั้งแรกจึงลืมสังเกตว่าแขนเพื่อนที่ตัวเองเกาะนั้นเกร็งแค่ไหนยามที่เห็นโมกข์กับเพื่อนของเขา... และมัวแต่ลุ้นว่าพี่ชายจะตื่นเต้นไหมที่เห็นเพื่อนคนสวยของหล่อน จึงไม่ทันรู้ว่ากาจน์ย่นคิ้วยามที่เห็นแพรวพิมพ์และแพรวพิมพ์ก็หลบตาเขาวูบหนึ่งก่อนจะทำเมินเหมือนไม่รู้จักกัน “มาช้านะเรา มัวแต่แต่งสวยอยู่ล่ะสิ ถ้าคิดให้เพื่อนพี่สักคนแถวนี้สอยลงจากคานก็อย่าหวังนะมีนา เพื่อนพี่ทุกคนรู้ว่าพี่หวงน้อง” หลังจากที่น้องสาวกับเพื่อนไหว้เขากับเพื่อนแล้วโมกข์ที่กึ่มๆ นิดหน่อยก็พูดติดตลก แต่ก็แกมความเป็นจริงทั้งนั้น เพราะเพื่อนที่รู้จักกันในวงการแข่งรถและวงการธุรกิจน้ำเมาล้วนเป็นคนเทาๆ ไม่ขาว ไม่ดำไปเลย จนไม่อยากให้น้องสาวได้สนิทและคบหากับใคร กันท่าได้ก็พยายามกัน “ว่าไป... มีนารอเพื่อนอยู่หรอก กลัวว่าจะไม่ยอมมาด้วยกันกล่อมแทบตาย... แพรวจ๊ะ นี่พี่โมกข์พี่ชายของเรา นี่พี่กาจน์เพื่อนพี่โมกข์จ้ะ” บอกเพื่อนตัวเอง “พี่กาจน์พี่โมกข์คะ นี่แพรวเพื่อนของมีนาเอง” แพรวพิมพ์ยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อน และกาจน์ พงษ์วาณิชย์ ผู้ชายที่เป็นบทพิสูจน์ว่าโลกนี้กลมเพียงใด คงเป็นเพราะคราแรกนั้นตกใจเผลอมองแล้วก็เมินเขาตอนนี้เขาก็เมินหล่อนเช่นกันจึงไม่มีใครปริปากว่าต่างคนต่างรู้จักกันมาก่อน และเกี่ยวข้องกันอย่างไร “น้องแพรวทานอะไรมาหรือยังครับ...” โมกข์ถาม แพรวพิมพ์เงยหน้ามองพี่ชายเพื่อน เขาเป็นคนร่างสูง แสงไฟที่ไม่ได้มืดของร้านเผยให้เห็นดวงหน้าเรียวผสานผสมระหว่างความมาดแมนและความหวานในยามที่เขาอมยิ้ม แม้ใบหน้าจะดูเป็นเพลย์บอยเหมือนที่มีนาชอบเมาท์พี่ชาย หากแต่ในแววตาเขาแพรวพิมพ์ไม่รู้สึกอย่างนั้นเท่าไหร่นักมันไม่มีความอึดอัดยามมอง ดูเหมือนเขามองหล่อนด้วยสายตาที่ทัดเทียมกับที่มองน้องสาวเขากระมัง “ทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะ” ตอบเรียบๆ “งั้นก็เหลือแต่ดื่ม” เขาเรียกเด็กเสิร์ฟมารับออเดอร์ แล้วหันมาถามสาวๆ โดยที่กาจน์ยืนมองนิ่งเหมือนกำลังสังเกต “ขอสิงคโปร์สลิงค์สองแก้วค่ะ เดี๋ยวเพื่อนๆ แก๊งของมีนาตามมาเพิ่มอีกห้าหกคนนะคะ” สั่งคอกเทลแบบไม่รักษาภาพเลยสักนิด แพรวพิมพ์เลยได้รับสายตาเขม่นมองจากกาจน์แบบหยามหยัน โดยที่หล่อนไม่มีโอกาสบอกว่าไม่ดื่มสักนิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม