เรื่อง หยกสื่อรัก nc25+
EP.3
บนตึกหลายสิบชั้นเป็นที่ทำงานของเหล่าโปรดิวเซอร์ผู้จัดการดาราทั้งหลาย ตอนนี้ภายในห้องถ่ายโฆษณาของน้ำหอมแบรนด์ดังกำลังวุ่นวายเพราะนายแบบแอบชิ้งงานไปต่างประเทศตั้งแต่เมื่อคืนวานแต่ไม่มีใครรับรู้เลย ผลกรรมเลยตกมาอยู่ที่คนรับผิดชอบงานนี้ทั้งหมด บริษัท เวิร์ล สตาร์อินเตอร์เทนเมนต์ เป็นบริษัทที่ปั้นดาราดังมานับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายแบบถ่ายโฆษณา ซีรี่ หนัง วาไรตี้โชว์ ต่างๆอีกมากมายล้วนแต่มีผู้ลงทุนมากหน้าหลายตากล้าประเคนเงินลงที่นี้ เพื่อประโยชน์และผลกำไรที่ได้รับที่สูงกว่าต้นทุน และแน่นอนว่าหนึ่งในดาราที่กำลังติดชาร์ตต้นๆ ในการค้นหาก็คือ โซฟี่ อัญมณี เทียมใส นางเอกสาวที่อยู่ในช่วงขึ้นๆลงๆเพราะข่าวคราวที่โดนแฉออกมาไม่หยุด ทำให้เธอติดชาร์ตในการค้นหานางเอกสาวที่ใกล้ ‘ล่วง’ อย่างช่วยไม่ได้
“ที่ พอล หนีไปเพราะว่าได้ร่วมงานกับดาราฉาวโฉ่คนนี้รึป่าวนะ”หางตาจิกกัดหันไปมองคนที่กำลังซ้อมท่าโพสอยู่ที่หน้าไฟด้วยสายตาริษยา ในใจก็คิดว่าดีแล้วล่ะที่ดาราในดวงใจสาวๆหลายคนได้หนีไปแล้วจะได้ไม่ต้องมาร่วมงานกับดาราฉ่าวคนนี้
“หล่อนก็สวยนะ เสียดายที่ใช้เต้าไต่”ช่างทำผมอีกคนเอ่ยขึ้นมาสมทบ ก่อนจะมองไปยังคนที่กำลังเขม้กเขม้นในการซ้อมท่าอยู่กับผู้จัดการ ไม่รู้หรือไงว่านายแบบออกนอกประเทศไปแล้ว
“พี่ว่าเอาวางไว้ตรงไหล่เราดีกว่า ไหล่เราสวยนะ”ผู้จัดการสาวรีบหาจุดวางที่เหมาะสมให้กับนางเอกตัวเองทันที ใบหน้าหวานพยักเพยิดตามผู้จัดการก่อนจะมองตัวเองในจอก็เห็นว่ามันสวยจริงๆ ก็คงมีแต่ผู้จัดการคนนี้แหละที่ดีต่อเธอเหมือนน้องสาวจริงๆ
“อ๋อ ไม่มีปัญหาค่ะ”ใบหน้าสวยหวานตามแบบฉบับลูกครึ่งคลี่ยิ้มหวานให้ผู่จัดการส่วนตัว ก่อนจะรีบจัดท่าจัดทางให้ตัวเองให้เข้ากับเซต
“น้ำค่ะคุณโซฟี่”พนักงานสาวเดินถือถาดน้ำเย็นๆเข้ามาให้นางเอกสาว ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานส่งให้เป็นการทักทาย
“อ๋อค่ะ พักดื่มน้ำกันก่อนดีกว่าค่ะพี่เอ้”
ขาเรียวสวยก้าวลงจากเก้าอี้ทรงสูงก่อนจะค้อมหัวขอบคุณคนที่เอาน้ำมาให้ พร้อมกับหยิบแก้วน้ำมาสองใบแล้วยื่นให้ผู้จัดการตัวเอง ที่มีสีหน้าเหนื่อยล้าไม่แพ้เธอเลย ถ้าเธอเก่งกว่านี้ผู้จัดการก็คงได้พักบ้าง ได้แต่คิดแล้วก็ถอนหายใจ
เชรด!! หลังจากส่งน้ำเสร็จพอพ้นประตูพนักงานสาวก็ร้องเย้ออกมาอย่างสะใจ ก่อนจะหันไปแปะมือกับพรรคพวกด้วยสายตาแห่งความพึงพอใจ
“หึ! นึกว่าจะมีคนดีกับหล่อนจริงๆรึไง น่าสมเพช!”ใบหน้าสวยหวานที่ผ่านมีดหมอมานับไม่ถ้วยยักยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ บังอาจมาแย่งงานที่เธอควรได้รับหล่อนสมควรโดนสะบ้างจะได้รู้ว่าหล่อนกับเธอมันคนละระดับกัน “นี้ค่าเหนื่อยของเธอ”แบ้งค์สีเทาหลายใบถูกยื่นไปตรงหน้าพนักงานสาวอย่างไม่ใส่ใจในจำนวนเงิน
“ขอบคุณค่ะคุณ พริกแกง มีอะไรให้หนูรับใช้อีกบอกมาได้เลยนะคะ”พนักงานสาวยิ้มแก้มแทบปริ ไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่ตัวเองนั้นทำลงไปมันถูกหรือมันผิด จะมีใครเป็นอะไรกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเพราะเงินไหม “หนูขอตัวค่ะ”พูดจบก็รีบเอาแก้วน้ำที่เหลือไปเททิ้งให้หมดทันที
นางเอกสาวดาวรุ่งมองคู่ปรับตัวเองผ่านช่องประตูเล็กที่แง้มไว้ ก่อนจะเหยียดยิ้มขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นไม่ให้เป็นจุดสงสัยทันที
ตัดมาในที่ห้องถ่ายที่กำลังชุลมุนเพราะพึ่งมีคนมาแจ้งพรีเซนเตอร์ผู้หญิงว่านายแบบได้หนีไปแล้วทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกโดยเฉพาะโซฟี่ที่ได้แต่เดินวกวนไปมาหน้ากล้องอย่างลำบากใจ
“โทรไม่ติดเลยค่ะน้องโซ”ผู้จัดการสาวก็มีอาการเครียดไม่ต่างกัน ยิ่งเป็นแบรนด์ดังนานๆทีมีคนถูกใจน้องสาวของเธอ ถ้าไม่ได้งานนี้โซฟี่ต้องเสียใจเป็นอย่างแน่
“ลองโทรไปเรื่อยๆดูค่ะพี่เอ้เผื่อเขารับสาย”ใบหน้ากลัดกลุ้มของเด็กในสังกัดทำให้ผู้จัดการสาวพยักหน้ารับก่อนจะกดโทรไปที่เบอร์นั้นอีกซ้ำๆ
“ผมไม่รู้นะว่าเรื่องมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดแล้ว เงินเขาก็จ่ายมาแล้ว พวกเธอจะทำยังไงฉันไม่สนฉันสนแค่ภาพโฆษณาที่ลูกค้าจะพึงพอใจเท่านั้น!!”เสียงตะคอกของรองผู้จัดการค่ายดังไปทั่วทุกมุมห้อง ทุกคนต้องก้มหน้าไม่มีใครกล้าเงยหน้ามองสักคนเดียว ไม่รู้ว่ารองผู้จัดการรู้ข่าวเร็วขนาดนี้ได้ยังไง พวกเธอเลยไม่มีโอกาสได้แก้ไขงาน เขาก็ดันมาถึงก่อนแล้ว
“เป็นเพราะเธอคนเดียวโซฟี่ ไม่มีนายแบบคนไหนอยากร่วมงานกับเธอหรอก”ค่าเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าได้ง่ายๆ ทำให้เหล่าช่างแต่งหน้าทำผมลุกขึ้นมาต่อว่านางเอกสาวด้วยถ้อยคำที่ไม่เกรงใจทันที
“ใช่! ใครเขาอยากจะทำงานกับคนอย่างเธอ คงมีแต่ผู้จัดการที่เป็นแม่เล้าให้เธอนั้นแหละที่สามารถอยู่กับคนอย่างเธอได้”
“ไม่เจียมตัว สาระแนรับงานดีนักผลเป็นไงล่ะ มีปัญญาชดใช้เขาไหมล่ะทีนี้ ห้ะ!!”
“ถ้าพวกเราต้องชดใช้ ฉันจะให้เธอเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดสาระแนไม่เข้าเรื่อง!”
เล็บตัดสั้นจิกเข้าที่อุ้งมือนุ่มๆตัวเองจนรับรู้ได้ถึงความเจ็บ ใบหน้าสวยหวานก้มหน้ากัดริมฝีปากที่มันสั่นระริกไว้สุดความสามารถ ต้นเหตุมาจากเธออย่างงั้นหรอ จะเป็นไปได้ยังไง เธอเคยไปทำอะไรให้คนพวกนี้ไม่พอใจด้วยหรอทำไมทุกคนถึงด่าเธอไม่ไว้หน้าขนาดนี้
“อ๋อ นึกว่าทำงานด้วยฝีมือ ที่แท้ก็ทำงานด้วยฝีปากนี้เอง กัดคนอื่นเขาไปทั่ว ทำไมตัวเองไม่มีปัญญาเป็นเหมือนเขารึไง”ผู้จัดการสาวตะคอกกลับอย่างอดไม่ได้ ต้อให้วันนี้โดนเรียกเข้าพบเธอก็ยอม
“พะ..พี่เอ้ อย่าพูดเลยค่ะ ปล่อยให้เขาด่าหนูไปเถอะ”เมื่อเห็นผู้จัดการออกโรงแทน นางเอกสาวรีบดึงแขนคนสนิทเพียงคนเดียวของตัวเองไว้ทันที
“หึ แสดงว่าเธอมีปัญญารับผิดชอบเรื่องทั้งหมดงั้นสิ ไหนจะค่าช่างต่างๆ ค่ากล้อง ค่าห้อง และที่สำคัญค่าเสียหายที่เจ้าของสินค้าควรได้รับเธอมีงั้นหรอ”ใบหน้าสวยที่มีน้ำใสๆขึ้นมาเอ่อบนขอบตาแล้ว ได้แต่กำมือผู้จัดการตัวเองไว้แน่น เธอตัดสินใจแล้วว่ายังไงงานนี้เธออาจมีส่วนผิดเพราะฉะนั้นก็คงต้องรับผิดชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ค่ะ หนูจะคุยกับทางเจ้าของแบรนด์เรื่องค่าเสียหายทั้งหมดเองค่ะท่านรอง”
“โซฟี่!!”ผู้จัดการถึงกับเผลอปล่อยมือนุ่มนิ่มนั้นทันที เธอจะบ้าไปแล้วหรอมันไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อยหรอกนะ
“ค่ะ หนูจะหามาชดใช้ทางแบร์ดเองไม่ให้ทุกคนมาเดือดร้อนด้วยแน่นอนค่ะ”นางเอกสาวก้มหน้าหงุด หัวใจที่ถูกบีบคั้นเธอได้แต่หายใจเข้าออกเบาๆแทนการโต้เถียงออกไป
“ดี งั้นก็ดีทำให้ได้ด้วย”รองผู้จัดการค่ายวัยกลางคนถึงกับยกยิ้มพอใจ ก่อนจะเบ้หน้าใส่นางเอกนอกคอกคนนี้แล้วเดินออกไป
“ไม่ต้องชดใช้อะไรทั้งนั้นครับ ผมจะถ่ายคู่กับคุณโซฟี่เอง”เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเรียกความสนใจของทุกคนในห้องเป็นอย่างดี โดยเฉพาะรองผู้จัดการดาราที่พึ่งจะเดินออกไปต้องหยุดชะงักหน้าถอดสี แถมยังก้าวถอยหลังมาเกือบชนนางเอกสาวที่ยืนอยู่อีกด้วย
“คุณคือ…”โซฟี่มองผู้ชายที่หล่อจนหัวใจเธอกระตุกเบาๆอย่างเพ่งพินิจว่าเคยรู้จักกันหรือเปล่า แต่คิดยังไงเธอก็ไม่น่าจะไปรู้จักคนอย่างเขาได้ แล้วเขาเป็นใครกัน
“ท่าน..ท่านประธาน!!”