เผลอแป๊บเดียวก็ถึงวันเปิดภาคเรียนแรกของปีแล้ว ฉินเสี่ยวหราน ฉินเสี่ยวหลิงตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมตัว ทั้งสองเป็นเด็กใหม่ของโรงเรียนที่ย้ายมาชั้นปีสุดท้าย แน่นอนว่าต้องมีสายตาของคนที่มองมา ยิ่งไปเร็วเท่าไรยิ่งเป็นผลดีกับสองพี่น้อง
ฉินหานแลกวันลากับเพื่อนเพื่อมาส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนพร้อมภรรยาที่ลางานมาเหมือนกัน ปกติต้องเข้าโรงตัดเย็บทุกวัน และมีค่าแรงวันละห้าเหมา ถึงแม้จะขาดรายได้แต่ก็ไม่เสียหายอะไร
"พ่อกับแม่มาส่งได้แค่นี้ มีอะไรให้ไปหาครูธุรการลู่ ระวังตัวด้วย" ฉินหานบอกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง ที่นี่ไม่ใช่อำเภอบ้านเกิดที่คุ้นเคย และไม่มีเพื่อน ลูกสาวต้องเริ่มต้นใหม่
“ใช่ ระวังตัวด้วย"
"หนูจะระวังตัวค่ะ" ฉินเสี่ยวหรานผงกหัว เธอไม่คิดว่าในโรงเรียนจะอันตรายขนาดนั้น "พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ เลิกเรียนหนูกับน้องจะรีบกลับบ้าน"
"อืม"
ฉินเสี่ยวหลิงมองข้างในโรงเรียนอย่างตื่นเต้น มันกว้างกว่าโรงเรียนเดิมหลายเท่าตัว "ไปกันเถอะค่ะพี่สาวใหญ่ ได้ยินว่าวันนี้มีนักเรียนเข้าใหม่หลายคน บางทีฉันอาจจะได้เพื่อนเร็วขึ้น"
ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้าบอกลาพ่อแม่เล็กน้อยก่อนเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมน้องสาว คนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานนายทหาร แต่ละคนจึงไม่มีความเกรงกลัวกัน ต่างจากในอำเภอ ที่พอรู้ว่าสองพี่น้องเป็นลูกของทหาร จากที่เคยกลั่นแกล้งก็หนีหาย
รู้สึกถึงสายตาที่มองมาและเสียงนินทา แต่ไม่ได้ทำให้ฉินเสี่ยวหรานหวาดกลัว หากให้นับกันตามจริง เธอมีชีวิตมาสามสิบกว่าปีแล้ว เรียนตั้งแต่ห้าปีจนกระทั่งได้มาที่นี่ การกลั่นแกล้งในโรงเรียนเกิดขึ้นได้ตลอด ถึงไม่ปกติแต่คนที่โดนก็มองว่าคุ้นชินไปแล้ว หลังจากเข้าโรงเรียนก็พาน้องสาวไปส่งที่ห้องเรียนก่อนจะไปห้องของตนเอง
"นักเรียนใหม่ใช่ไหม ฉันเจิ้งฟางมี่เป็นนักเรียนของโรงเรียนตั้งแต่มัธยมต้นปีแรก" ผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามาแนะนำตัว ภายหลังจึงรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของคุณครูในโรงเรียนกับพ่อค้าบะหมี่
"ฉันฉินเสี่ยวหรานนักเรียนใหม่ค่ะ"
"เสี่ยวหราน เอ๊ะ เธอคงเป็นลูกสาวของพันตรีคนใหม่ที่ย้ายครอบครัวมาใช่ไหม" เจิ้งฟางมี่ตาโต เธอพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับกองทัพทหารบ้าง เนื่องจากสองเดือนก่อนทางกองทัพจัดงานแบบยิ่งใหญ่
"ใช่"
"เอ๊ะ! คุณครูมาแล้ว หาที่นั่งก่อนเถอะ"
"อืม"
ฉินเสี่ยวหรานกวาดสายตามองหาโต๊ะที่ว่าง ภายในห้องเรียนมีไม่ถึงสามสิบคนและมีโต๊ะว่างหลายที่ ก่อนสายตาจะไปหยุดข้างผู้ชายคนหนึ่งที่หันมาสบตา "เหยาหนาน"
"นึกไม่ถึงว่าเธอจะได้มาเรียนที่ห้องนี่" เหยาหนานกล่าวด้วยความเป็นกันเอง
เหยาหนานเป็นลูกชายคนเล็กของคุณนายเหยา ชุดที่เธอสั่งตัดต่อจากของคุณนายเว่ยเป็นชุดของเหยาหนาน และระหว่างปิดภาคเรียนทั้งสองได้พบกันบ่อยเนื่องจากการปรับแก้ชุดที่คิดว่าจะเหมาะสม ยิ่งอายุของทั้งสองเท่ากันจึงไม่แปลกที่จะเข้ากันได้ง่าย
"ครูธุรการลู่บอกว่าห้องเรียนนี้มีคนน้อย เพราะมีคนย้ายไปเรียนที่อื่นตลอดสามปี" ทำให้พอมีคนเข้ามาเพิ่ม ฉินเสี่ยวหรานถึงได้มาอยู่ห้องนี้
"อ้อ"
ภายในห้องเรียนเงียบลงเมื่อคุณครูประจำชั้นเดินเข้ามา ฉินเสี่ยวหรานนั่งตัวตรง นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วที่ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศชั้นเรียนตอนมัธยม จึงทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
"นักเรียนใหม่เดินออกมาแนะนำตัวหน้าชั้นเรียน"
ฉินเสี่ยวหรานถอนหายใจ ไม่ว่าจะยุคไหน การแนะนำตัวก็เกิดขึ้นอยู่เสมอ "สวัสดี ฉันฉินเสี่ยวหราน หรือเรียกว่าเสี่ยวหรานก็ได้ เป็นนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่" หลังแนะนำภาษาจีนที่ทุกคนใช้กัน ฉินเสี่ยวหรานยังไม่ลืมที่จะพูดภาษาต่างประเทศด้วย เพราะเห็นว่ามีคนต่างประเทศเรียนด้วย
"เชิญนั่งจ้ะ เอาละ..."
หลังกลับมานั่งที่ คุณครูประจำชั้นก็อธิบายวิชาและการเรียนของมัธยมปลายชั้นปีสุดท้าย ฉินเสี่ยวหรานตั้งใจฟังถึงรู้ว่าหลักสูตรที่เคยเรียนกับของที่นี่ไม่ได้ต่างกันมาก ทั้งโรงเรียนในอำเภอยังมีการเรียนที่ล้ำหน้ามากกว่าโรงเรียนข้างกองทัพเสียอีก
คาบเรียนเช้ามีเพียงสองวิชาที่ลากยาวหลายชั่วโมง เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน ฉินเสี่ยวหรานปล่อยให้คนอื่นเดินออกจากห้องเรียนไปก่อน เธอและน้องสาวนำปิ่นโตมื้อกลางวันมาด้วย
เหยาหนานลุกขึ้นเก็บของเข้ากระเป๋าเมื่อเห็นว่าคนเหลือน้อยแล้ว "เสี่ยวหรานเธอไม่ไปหรือ ที่นี่ถ้าไปช้าอาหารจะหมดก่อนนะ ห้องเราปล่อยเร็วสุดแล้ว"
"ฉันมีข้าวมาด้วย"
"เสี่ยวหราน"
ยังไม่ทันจะได้สนทนากันต่อ ผู้หญิงที่มีดวงตาสีฟ้า คนที่ฉินเสี่ยวหราน บอกว่าเป็นคนต่างชาติ จริง ๆ แล้วเธอเป็นลูกครึ่งจีนอังกฤษ พ่อเป็นนักธุรกิจ แม่เปิดร้านขายผ้า มีตาเป็นอดีตนายพลของกองทัพหวั่นอิ๋น
"หืม"
"ฉันจูลี่ เธอมาใหม่คงยังไม่มีเพื่อน มาเป็นเพื่อนกับฉันได้นะ" เพื่อนใหม่แนะนำตัวเองอย่างฉะฉานไม่เหมือนผู้หญิงต่างชาติ มีเพียงใบหน้าที่ได้จากพ่อเท่านั้น
"อืม"
"เฮ้ จูลี่ เสี่ยวหรานเป็นเพื่อนของฉันก่อนนะ เธอมีเพื่อนอยู่แล้วนี่" เหยาหนานโวยวาย เขากำลังคุยกับฉินเสี่ยวหรานอยู่แท้ ๆ
"นายก็มีเพื่อนคนอื่นอยู่แล้วนี่" จูลี่ไม่ยอมเช่นเดียวกัน ฉินเสี่ยวหรานเป็นคนแรกที่แนะนำตัวเป็นภาษาต่างประเทศเพราะเห็นว่ามีเธอที่เป็นคนต่างชาติอยู่ ไม่เหมือนคนอื่นที่มองข้ามทั้งที่สามารถพูดได้
ทั้งสองยืนถกเถียงกัน ฉินเสี่ยวหรานยืนงง เจิ้งฟางมี่รีบเข้ามาห้าม "เอาละ ๆ พวกเราจะไม่ได้กินข้าวกันนะ! วันนี้ได้ยินว่าปล่อยเร็ว ไปด้วยกันหมดนี่แหละ"
สุดท้ายฉินเสี่ยวหราน เหยาหนาน จูลี่ และเจิ้งฟางมี่ก็มาปรากฎตัวในโรงอาหารของโรงเรียน เธอเห็นน้องสาวโบกมือให้ อีกฝ่ายอยู่กับเพื่อถึงได้ถอนหายใจ และต้องนั่งเฝ้าโต๊ะระหว่างรอคนอื่นไปซื้อข้าวกับน้ำ ส่วนของเธอเตรียมมาตั้งแต่ที่บ้านแล้ว
คาบเรียนช่วงบ่ายไม่มีอะไรมาก เพราะครูเห็นว่าเป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน มีแนะนำการเรียนนิดหน่อยก็ว่างแล้ว จนถึงเวลาเลิกเรียน เธอจึงเอ่ยลาเพื่อนใหม่ก่อนจะมารอน้องสาวที่หน้าโรงเรียน
"เสี่ยวหลิง"
"พี่สาวใหญ่" ฉินเสี่ยวหลิงเดินมาพร้อมเพื่อนอีกสองคน "นี่เพื่อนใหม่ของฉันค่ะ หลันฝู ปี้ฉาง พวกเธอนี่พี่สาวของฉัน พี่เสี่ยวหราน"
ต่างแนะนำตัวกันเสร็จแล้วทั้งสองก็แยกจากไป "วันนี้เป็นอย่างไรบ้างไม่มีคนแกล้งใช่ไหม" ระหว่างเดินกลับบ้านฉินเสี่ยวหรานก็ถามน้องสาวไปด้วย
"ไม่มีค่ะ"
"ดีแล้ว"
"เสี่ยวหราน"
ฉินเสี่ยวหรานชะงัก เธอมองกลับไปด้านหลังก็เห็นว่ามีรถยนต์ขับเข้ามาใกล้ เป็นพันตรีเว่ยที่เอ่ยเรียก "พวกเธอจะกลับบ้านพักหรือ ฉันจะกลับบ้านเหมือนกัน เป็นทางผ่านพอดี ไปด้วยกันหรือไม่"
ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้าไม่หันไปถามแม้กระทั่งน้องสาว เธอขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนน้องสาวเปิดประตูไปนั่งทางด้านหลัง ภายในรถยนต์มีกลิ่นอับเล็กน้อย คงเป็นเพราะรถยนต์ผ่านการใช้งานมานาน แต่ก็ไม่ได้แย่
ที่เธอไม่ปฏิเสธเพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย วันนี้ทั้งวันถึงจะไม่ได้ทำอะไรมากแต่ก็เหนื่อยไม่น้อย ต้องกลับบ้านไปทำงานบ้านอีก เธอจึงต้องการประหยัดพลังงาน
"เป็นอย่างไรกันบ้าง"
"เพิ่งเปิดภาคเรียนไม่ได้มีอะไรมากค่ะ ครูบอกว่าวันนี้เป็นเพียงการแนะนำวิชาเท่านั้น" ฉินเสี่ยวหลิงบอก
"อืม เพิ่งเปิดภาคเรียนไม่ค่อยได้เรียนหรอก"
ภายในรถยนต์ที่เคลื่อนไปข้างหน้า มีเพียงความเงียบสนิทที่ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจ ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ชวนอีกฝ่ายคุยเนื่องจากไม่รู้ว่าจะคุยอะไร ในขณะเดียวกันเว่ยเซียวก็ไม่รู้จะคุยอะไร ส่วนฉินเสี่ยวหลิงรู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่อาจบอกได้ก็ชิงหลับไปก่อนแล้ว
"ขอบคุณค่ะ"
มาถึงหน้าบ้านพักแล้วฉินเสี่ยวหรานจึงขอบคุณและลงจากรถยนต์ เว่ยเซียวพยักหน้าก่อนขับรถจากไป เธอถึงเดินเข้าบ้าน เพราะเลิกเรียนก่อนเวลาเลิกงานของพ่อกับแม่ กุญแจเข้าบ้านจึงอยู่กับฉินเสี่ยวหราน
ต้องทำงานบ้านให้เสร็จก่อนพ่อแม่เลิกงาน ไม่อย่างนั้นทั้งสองจะเข้ามาช่วย ถ้าเป็นการทำอาหาร เรื่องนั้นฉินเสี่ยวหลิงจะเป็นคนจัดการ ส่วนฉินเสี่ยวหรานก็รดน้ำผัก กวาดบ้าน และนำผ้าไปซักที่โรงอาบน้ำของกองทัพ