เวลาผ่านไปตีสามจนเวลาผับปิด เหล่าบรรดาเพื่อนต่างโทรหาเพื่อนรักอย่างองค์อินทร์ เพราะตั้งแต่บอกว่าจะไปตามเพื่อนในกลุ่มที่ไปเข้าห้องน้ำ คนไม่เคยมาเที่ยวผับอย่างองค์อินทร์ไม่รู้จะเดินหลงไปไหน แถมกระเป๋าสะพายยังอยู่ หรือว่าหนีกลับไปแล้ว แต่หนีกลับก็ควรจะบอก แถมเพื่อนที่ไปเข้าห้องน้ำก็กลับมานานแล้วจนตอนนี้ผับปิด ผับแห่งนี้เป็นผับที่มีแต่เหล้าไฮโซเซเลปมาเที่ยวกัน และชั้นใต้ดินก็เป็นที่ผู้ชายที่ต้องการระบายความต้องการมาใช้สอย จะเรียกว่าซ่องก็ว่าได้ แต่ทุกอย่างถูกกฎหมาย และได้ยินว่าเจ้าของกิจการที่นี่หล่อมาก เป็นผู้ชายที่สาวๆ ทุกคนอยากนอนด้วย แต่ไม่เคยมีใครได้เห็นหน้าเขา มีแต่เพียงเสียงเล่าลือมาให้ได้กรี๊ด
“กระเป๋ายัยอินทร์ยังอยู่ จะโทรไปที่บ้านแม่ก็คงนอนแล้ว” หนึ่งในเพื่อนขององค์อินทร์เอ่ยเมื่อออกมายืนกันหน้าผับจะกลับ
“ยัยอินทร์คงกลับแล้วแหละ ไม่น่าจะอยู่หรอก ที่นี่คนเยอะมีแต่พวกขี้เหล้า แถมยังเหม็นบุหรี่ คนดีอย่างเพื่อนเราคงไม่ทนหรอก” อีกคนพูดขึ้น
“ก็จริง แต่กระเป๋ายังอยู่นะ แถมตอนนั้นก็เห็นบอกว่าจะไปตามยัยตาลด้วย” มณีรัตน์เอ่ย
“แต่ตาลไม่เห็นยัยอินทร์ตามไปห้องน้ำนะ” พุฒตาลเอ่ยบ้าง
“เราก็ไปตามหาอินทร์นะ แต่ไม่เห็นอินทร์” โยธาเอ่ยบ้าง
“คงไม่มีอะไรหรอก อินทร์มันคนดีคงไม่โชคร้ายโดนผู้ชายในผับลวนลามหรอก” อิทธิพลเอ่ยบ้าง
“ขอให้เป็นแบบนั้น งั้นเรากลับกันเถอะ เดี๋ยวโยไปเอารถนะ” โยธาเอยขึ้นแม้จะยังเป็นห่วงองค์อินทร์
“อือ คนดีๆ อย่างยัยอินทร์ไม่โชคร้ายหรอก กลับกันเถอะ ตอนสายค่อยโทรเช็กไปที่บ้านก็ได้ แล้วกระเป๋าของยัยอินทร์ล่ะทำไง” มณีรัตน์เอ่ย
“เดี๋ยวตอนสายโยแวะเอากระเป๋าไปให้เอง” โยธาเอ่ยอาสาก่อนที่เพื่อนทุกคนจะพยักหน้ารับรู้ แล้วโยธาก็เดินแยกไปยังลานจอดรถเพื่อขับรถมารับเพื่อนๆ ที่หน้าผับ
ร่างเล็กปวดเมื่อยไปทั้งตัวกว่าคนเลวชาติชั่วจะถอดถอนกายออกห่าง เธอมองเขาที่แทบจะไม่ได้แก้เสื้อผ้า แต่เธอแม้แต่เสื้อผ้าก็ขาดใส่กลับไม่ได้ เรี่ยวแรงจะลุกก็ไม่มี เขาทำอย่างที่พูด ถ้าเดินคงขาถ่างแน่นอน เธอเม้มปากแน่นกลืนความเจ็บปวดตรงกลางลำตัวของตัวเองขยับลุกขึ้นนั่งพิงโซฟา พร้อมกอดปิดหน้าอกตัวเองไว้ สองขายกไขว้ปิดความเป็นสาว
หึหึ
“ไม่ต้องอายแล้ว เนี่ยเราก็ผัวเมียกันแล้ว” เขาบอกเธอแล้วก็มองไปยังผิวสีน้ำผึ้งที่เต็มไปด้วยรอยขบของฟันหน้าตัวเอง
“สารเลว!”
“เมื่อกี้ยังครางคุณเทือก ตอนนี้เป็นคนสารเลวไปซะแล้ว ช่างเถอะ ตอนนี้อิ่มอยู่ แล้วเนี่ยกลับไปได้แล้ว” พูดจบก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวที่โต๊ะทำงานมาต่อสายหาไอ้ผาดกับไอ้ขาบคนของตนที่ให้ไปสืบประวัติของหญิงสาว
“อืม” เขาครางรับปลายสาย แค่นั้นก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวเองที่มีติดอยู่ในห้องมาให้เธอใส่
“ใส่ซะ แล้วก็กลับได้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความซวยเธอก็แล้วกันเด็กน้อย แต่จะว่าซวยก็ไม่ใช่ เพราะได้นอนกับฉันเชียวนะ”
ตอนนี้รู้แล้วว่าตนเข้าใจผิดจริงๆ สาวเจ้าไม่ได้จะมาขโมยของ เธอหลงทางมาจริงๆ เธอเป็นลูกค้าที่มาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน และประวัติของเธอไอ้ผาดจะเอาเข้ามาให้อ่านที่หลัง
“ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่ได้ขโมย ไม่ใช่ขโมย แต่คุณก็ไม่เชื่อแล้วยังข่มขืนฉันอีก คนเลว!” เธอกำเสื้อเชิ้ตสีดำที่เขาโยนมาให้แน่น
“จะว่าแบบนั้นก็ไม่ได้นะ ก็เธออยากเข้ามาในห้องทำงานฉันเอง แล้วจะให้เชื่อได้ยังว่าไม่ใช่ขโมย ฉันมีศัตรูเยอะแยะก็ต้องระแวงกันบ้างแหละ” บอกแล้วก็เดินเป่าปากอารมณ์ดีไปนั่งลงยังเก้าอี้ทำงานของตน
“แต่งตัวซะ เดี๋ยวคนของฉันจะพาเธอออกไปข้างนอก และอย่าหลงมาอีกล่ะ ขอบใจนะสำหรับพรหมจรรย์ที่มอบให้ ฉันชอบมันมาก”
พูดพร้อมกับดึงลิ้นชักออกมาแล้วหยิบสมุดเช็คออกมาเปิดเซ็นเงินจำนวนหนึ่งแล้วฉีกออกแล้วลุกขึ้นเดินไปหาเธอพร้อมยื่นให้
“ฉันไม่เอาเปรียบเธอหรอกอินทร์ เนี่ยขวัญถุง” เขาส่งให้เธอและเธอก็รับไปพร้อมมองเงินจำนวนหกหลักแล้วเม้มปากแน่น พร้อมฉีกมันทิ้งต่อหน้าเขา
“สารเลว! เงินชั้นต่ำของคนเลวอย่างคุณฉันไม่ต้องการ” โยนเช็คที่ฉีกทิ้งใส่หน้าเขาพร้อมฝืนกัดฟันพาร่างกายตัวเองลุกขึ้น แม้ขาจะยังสั่นอยู่แต่ก็พยายามไม่อ่อนแอให้เขาหัวเราะเยาะหยันตน
“อวดดี ไม่เอาก็ไม่เป็นไร ดีเหมือนกันได้ของฟรีมีคุณภาพ” พูดพร้อมกับหมุนตัวเดินกลับไปนั่งที่เดิม ไม่สนใจเด็กอวดดีที่กำลังแต่งตัวในตอนนี้
“หวังว่าจะไม่ได้เจอกันอีก แกมันตายไปก็ไม่ได้ไปเกิดใหม่หรอก ขอให้แกตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด คนบาปชั่วช้าอย่างแกมันไม่ควรจะอยู่หายใจให้เปลืองอากาศ”
“หรืออยากได้อีกถึงได้ด่าผัวคนแรกแบบนี้ฮึ” คลังแสงไม่รู้สึกโกรธกับคำสาปแช่งของหล่อน เพราะคำสาปแช่งแค่นี้มันน้อยไปด้วยซ้ำ ตลอดชีวิตของเขาได้รับฟังมาตลอด ชีวิตของเขามันไม่ได้สวยหรูอย่างฉากหน้าที่ทุกคนรู้จักหรอก เขามันต่ำช้า มันคือคนบาป และที่สำคัญเขาไร้หัวใจไร้ความรู้สึกกับคู่นอน และเธอเองก็เหมือนกัน ควรเป็นแบบพวกหล่อนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่แปลกทำไมหัวใจที่ตายด้านถึงได้เต้นผิดปกติยามได้โอบกอดหล่อน
“ไปได้แล้ว แต่งตัวเสร็จก็ไสหัวไปได้แล้ว ไม่อยากเจอหน้า เบื่อ” เมื่อเห็นว่าเธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ไล่ทันที พร้อมกับประตูห้องทำงานเปิดกว้างออก ไอ้ผาดก็เดินเข้ามาโค้งคำนับเจ้านายเหมือนทุกครั้ง
“พาหล่อนไปส่งหน้าผับได้แล้ว”
สั่งไอ้ผาดแล้วไอ้ผาดก็เดินมากระชากแขนเล็กของเธอดึงลากออกไป ไม่สนใจว่าเธอจะเป็นยังไง องค์อินทร์เดินไปตามแรงลากของคนแปลกหน้าที่เป็นลูกน้องของเขาอีกครั้ง คนที่จับล็อกเธอก่อนหน้าและตอนนี้เขาก็กำลังจะพาเธอออกไปจากที่โสมมแห่งนี้
“ฉันเดินเองได้”
เธอบิดข้อมือเล็กแต่อีกฝ่ายไม่ฟังยังคงลากเธอไป เธอได้แต่เม้มปากเจ็บกลางร่างตัวเองยามขาที่ขยับเดินเสียดสีเบียดกันทำให้เธอรู้สึกเจ็บความเป็นสาวที่ถูกรุกล้ำ