เพล้ง!
เสียงแก้วใสๆ ในมือถูกปาลงพื้นอย่างไม่ไยดี พร้อมกับร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สาวเท้าหนักๆ ไปยังเป้าหมายที่ถูกจับกดคุกเข่าอยู่กับพื้นตรงหน้าตัวเอง พอเดินไปถึงก็ใช้เท้าใหญ่ยกขึ้นไปแตะคางเล็กแล้วใช้เท้านั่นดันคางมนให้แหงนเงยขึ้นมาสบตาตัวเอง ดวงตาสีทมิฬจ้องไปมองไปยังดวงตาของกวางน้อยที่นั่งสั่นเทาตรงหน้าตัวเองพร้อมแสยะยกยิ้มสมเพชให้หล่อน
“คิดผิดแล้วที่มาขโมยของของคนอย่างฉัน” น้ำเสียงแหบกระด้างดังออกมาพร้อมกับเท้าที่ดันคางเล็กยกลง กลับมายืนประคองร่างสูงใหญ่ตัวเอง
“ฉันไม่ได้ขโมย” หล่อนตอบกลับเสียงสั่น พร้อมกับก้มหลบตาสีทมิฬน่ากลัวคู่นั้นของเขา
หึหึ
“บอกมาใครจ้างเธอมาขโมยของฉัน” ยังคงเชื่อ เสียงห้าวดุดันที่ดังในตอนนี้คือเสียงของพระเจ้าของความบาปทั้งปวงบนโลกนี้ นายเทือก คลังแสง คอนแวนต์ วัย 39 ย่าง 40 ปี เจ้าของธุรกิจมืดและทรงอิทธิพลที่สุดของน่านฟ้าเมืองไทยก็ว่าได้ เขามีผับ ซ่อง กาสิโน และค้าขายอาวุธ แม้จะเป็นธุรกิจมืด แต่เขาก็เสียภาษีตามกฎหมาย
“ไอ้ผาดไอ้ขาบมันติดต่อกลับมารึยัง” เมื่อกวางน้อยไม่ยอมตอบก็ถามคนของตัวเองที่เป็นคนกดไหล่ล็อกตัวสาวเจ้าไว้ทันที
“ยังครับนาย”
“มันไปทำงานถึงสเปนรึไงวะ ชักช้า”
สลัดเสียงเดือดดาลใส่ไอ้ผาดคนของตัวเอง แล้วโน้มตัวโค้งลงไปเชยคางมนของกวางสาวให้แหงนเงยขึ้นสบตาตัวเอง และเมื่อได้มองอย่างละเอียดแล้วแม่สาวน้อยคนนี้ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่มองตอนแรก
“เดี๋ยวผมโทรตามมันครับนาย”
“เออ! สืบประวัติยัยเด็กนี่ด้วยล่ะว่าเป็นใครมาจากไหน”
เอ่ยเสียงเข้มแล้วผละมือจากคางมนออกมา แล้วเช็ดถูกางเกงตัวเองราวกับรังเกียจหญิงสาว ทั้งๆ ลึกๆ นั้นตัวเองชอบดวงตาที่อาบคลอไปด้วยน้ำตาของหล่อนมากตอนนี้ มันน่าสนใจและน่าค้นหา และยิ่งยามเธอนั่งสั่นกลัวยิ่งน่าค้นหา
“ครับนาย” ไอ้ผาดรับคำแล้วล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสแลคตัวเองออกมาจะกดต่อสายหาไอ้ขาบ แต่ยังไม่ทันได้กดโทรเสียงกัมปนาทก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
“ไปโทรข้างนอก”
“ครับนาย แล้วเธอคนนี้” ไอ้ผาดถาม
“มันไม่หนีไปไหนหรอก ไปสิวะ กูจะซักความแมวขโมยเอง”
ปากพูดแต่สายตาจับจ้องไปยังร่างเล็กนั่งคุกเข่าสั่นเทาที่พื้น เธอแต่งตัวบ้านๆ สบายๆ ไม่ได้จัดจ้าดเหมือนผู้หญิงที่ผ่านมาของเขา หล่อนแต่งตัวด้วยกางเกงยีนเสื้อยืด
ไอ้ผาดรู้ได้ทันทีในความหมายของผู้เป็นนาย มันรีบปล่อยมือที่กดไหล่เล็กไว้ออกแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงานใหญ่ของเจ้านายอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เสียงประตูห้องกระแทกปิดสนิทคนตัวเล็กที่นั่งคุกเข่ากับพื้นก็ถูกกระชากดึงรั้งให้ลุกขึ้น
ว้าย!
“อย่าทำเป็นไร้เดียงสาเลยน่า....เธอน่าจะรู้ว่าฉันให้ลูกน้องออกไปทำไม” พอกระชากคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นพร้อมดึงรั้งเข้ามาปะทะอกตนก็ลูบมือสากกร้านไปตามเรียวแขนเล็กขึ้นมายังไหล่มนของหล่อน
“ฉันไม่รู้ และฉันก็ไม่ได้ขโมยด้วย”
“ไม่ได้ขโมย แล้วเข้ามาอยู่ในห้องทำงานฉันได้ยังไงล่ะ อย่าบอกว่าเดินหลงทางนะ ที่นี่อยู่ลึกมากยากที่คนจะหลงทางมา” เขารีบบอกหล่อนและสอดมือใหญ่เข้าไปในชายเสื้อยืดของเธอเพื่อไปกอบกุมสองเต้าที่ยั่วยวนสายตาตัวเองในตอนนี้
“อ่ะ อื้อ เจ็บ!”
รู้สึกเจ็บและไม่คุ้นชินเมื่อโดนมือหยาบกระด้างกอบกุมหน้าอกพร้อมบีบขยำหนักหน่วง มือเล็กยกขึ้นมาจับห้ามมือใหญ่ให้หยุด แต่ยิ่งห้ามมือใหญ่ก็ยิงคลึงเฟ้นเร็วขึ้น
“อ่า อย่าทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลย มาถึงที่นี่ได้ก็ไม่เบาเหมือนกันแหละน่า” น้ำเสียงแหบแห้งครางพร่า เพียงแค่ได้กอบกุมอกอวบหยุ่นขนาดพอดีมือ อกที่เป็นเนื้อแท้ไร้การศัลยกรรมมันปลุกเร้าอารมณ์เขาได้ดีเหลือเกินตอนนี้ แค่นี้เขาก็ตื่นตัวปวดร้าวไปทั่วกายเนื้อกลางหว่างขาเสียแล้ว
“อือ ฉันเจ็บนะไอ้เลว! ”เธอตอกหน้าเขากลับพร้อมกับจับมือเขาให้หยุด แต่มือเขาอีกข้างก็จับมือเธอรั้งไว้
“เลวได้กว่าที่เธอเห็นอีกเด็กน้อย อายุเท่าไหร่แล้วเธอน่ะ” ถึงจะอยากได้มากแค่ไหนในตอนนี้แต่ต้องรู้อายุของหล่อนก่อน ดูท่าแล้วคงจะยังไม่ถึงยี่สิบปีแน่นอน
“ยี่สิบสอง” เธอตอบเขาเสียงเบา
“ยี่สิบสอง ไม่อยากจะเชื่อหน้าเด็กขนาดนี้ยี่สิบสอง”
“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันไม่ได้มาขโมยของนายจริงๆ ฉันแค่หลงมา”
เธอบอกไปตามจริง เธอมาเที่ยวผับกับกลุ่มเพื่อนที่เพิ่งเรียนจบมาด้วยกัน แล้วเผอิญว่าเห็นเพื่อนเดินหลงมาทางนี้เลยเดินตามหา และมาที่ห้องนี้แหละ ไม่ได้จะมาขโมยของของเขาจริงๆ
“หลงมาลึกจริงนะ ไม่ต้องพูดมากหรอกฉันจะค้นตัวเธอเอง อายุยี่สิบสองใช่ไหม ก็ถือว่าไม่เด็กแล้ว”
พูดจบก็ไม่รอช้าเพราะตอนนี้ความเป็นบุรุษของเขามันปวดร้าวทรมานจนไม่อยากจะทนอีกต่อไป มือใหญ่กระชากเสื้อยืดขนาดฟรีไซส์ของหล่อนขาดผ่ากลางตัวทันที
แควก!
กรี๊ด!
เสียงเสื้อฉีกขาดพร้อมเสียงกรีดร้องตกใจของเธอดังขึ้นและพยายามดิ้นหนี แต่เอวเล็กก็ถูกแขนแข็งแรงของคนต่ำช้ากอดรัดรั้งไว้แน่น
“ก็บอกว่าจะค้นหาความจริงเอง ขโมยไม่ขโมยเดี๋ยวรู้กัน” จากที่สัมผัสบีบขยำก่อนหน้าว่าอวบนุ่มแล้วมาเห็นของจริงที่ดุนดันในยกทรงสีเนื้อยิ่งทำให้เขาตกใจกับความสวยงาม รูปทรงของมันสวยน่าค้นหาที่สุด
“คุณจะข่มขืนฉันไม่ได้นะ” เธอบอกเขาพร้อมปัดมือใหญ่ที่กำลังวนเวียนกับหน้าอกตัวเองออก อีกมือก็ดันหน้าอกแข็งแรงไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองแนบเนื้ออกไปเบียดถูกับหน้าอกของเขา
“คำว่าข่มขืนใช้กับฉันไม่ได้หรอกนะ” น้ำคำหยาบคายดังออกมาจากริมฝีปากหนาได้รูป