คุยได้ไหม

808 คำ
​ เสียงเตือนแชทในเฟสบุ้กดังขึ้นรัวๆทำเอาแม่ค้าออนไลน์ยิ้มกว้างทันที วันนี้วันเสาร์ลูกค้าส่วนใหญ่จะโอนเงินจ่ายกันภายในวันนี้ก่อน10โมงเช้า นารินขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริม เริ่มจากที่บ้านเพื่อนของเธอขายสินค้ากระจุกกระจิกของใช้น่ารักอยู่ที่สำเพ็ง นารินจึงเอ่ยปากถามเพื่อนถึงราคาขายส่ง เพื่อนรักจึงจัดการโอนหน้าที่ไปให้แม่ของเธอทันที แม่เพื่อนเห็นถึงความสนใจในเรื่องการขายของจึงอนุญาติให้ถ่ายภาพในร้านไปขายได้ และยังลดราคาให้ด้วย นารินจึงเปิดขายแบบพรีออเดอร์ในเฟสบุ้ก โดยเธอจะอัพเดตสินค้าตลอด รับยอดเอาไว้แล้วรอยอดแจ้งโอนทุกวันเสาร์ หลังจากนั้นก็ไปซื้อที่ร้านแม่เพื่อนในช่วงเที่ยง โดยที่เด็กที่ร้านจะจัดของให้อย่างเรียบร้อยอย่างที่คุ้นเคยกันดี บางช่วงอาจจะซื้อมากถึง100ชิ้นต่อสัปดาห์ แต่บางช่วงอาจเหลือแค่50ชิ้นต่อสัปดาห์เท่านั้น อย่างน้อยนารินก็ยังได้ไปหาเพื่อนสนิทที่คบกันมานานตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน หน้าจอแชทขึ้นรูป ภัทร์ ทักเข้ามา นารินแปลกใจมากที่เค้าทักเธอมาในเช้าวันเสาร์ เธอวางมือลงชั่วคราวแล้ว กดเข้าไปอ่าน 'นาริน' 'ตื่นหรือยังครับ' 'ทำอะไรอยู่' นารินพิมพ์ตอบกลับไปทันที 'ตื่นแล้วค่ะ ทำงานอยู่' เค้าตอบกลับมาอย่างรวดเร็วคล้ายรอคำตอบ 'วันนี้ทำอะไรครับ ว่างไหม' นารินชะงักไปกับคำถาม แล้วนิ่งไปสักครู่ 'นาทำงานค่ะ ไม่ว่าง คุณภัทร์มีอะไรหรือเปล่าค่ะ' เธอถามกลับทันทีกลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องงานหรือเปล่า ถึงได้แชทมาหา 'จะชวนไปซื้อของเข้าบ้าน' เค้าตอบกลับมา นารินใจสั่นระรัว หมายความว่าไง ชวนไปซื้อของเข้าบ้าน ทำไมต้องเป็นเธอด้วย 'นามีงานค่ะ วันนี้ทั้งวันเลย ถ้าคุณภัทร์ไม่รีบ เป็นพรุ่งนี้ได้ไหมคะ' เธอตอบไปดั่งใจคิด แค่คิดว่าคงไม่มีอะไรเท่านั้นเอง ภัทร์อมยิ้มกับคำตอบ วันหยุดว่างทำงานก็ไม่มีแฟนละสิ 'ได้ครับ แล้วคุยกัน' นารินยิ้มกับตัวเองหน้าจอโทรศัพท์ เค้าแค่ว่าง เค้าแค่หาเพื่อนไปก็เท่านั้นนาริน เธอบอกกับตัวเองแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ร่างบอบบางสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น สะพายกระเป๋าสะพายข้างเดินฝ่าคนเข้าไปที่สำเพ็ง เสาร์ อาทิตย์ คนมากมายมหาศาล บ่ายกว่าแล้ววันนี้เธอมาช้ากว่าปกติเพราะมัวแต่ใจเต้นแรงกับแชทของคุณภัทร์นั่นเอง "มาช้านะ รถติดหรอ" เสียงเพื่อนร้องถาม พิม ลูกสาวเจ้าของร้าน และเพื่อนสนิท ส่งน้ำเย็นเจี้ยบให้เพื่อน นารินรับมาดื่มแล้วบอกขอบใจ "พ่อกับแม่ละ" นารินถามหาพ่อกับแม่ของเพื่อนรัก "ไปงานวันนี้เจ๊พิมคุมร้านเอง" นารินหยิบกระดาษจดรายละเอียดสินค้ากว่า140รายการส่งให้เจ้าของร้าน เสียงเรียกลูกน้องหน้าร้านให้มาจัดของให้อย่างว่องไว วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ พิมดาว ลูกสาวเจ้าของต้องคอยรับเงินเองทั้งหมด แม้จะเรียนจบปริญญาตรี แต่เพื่อนเธอก็ไม่ต้องทำงาน กิจการที่บ้านอยู่ตัวรอให้ลูกสาวคนเดียวมาสืบทอด "ขายดีเนอะ" นารินบอกเพื่อนที่คอยทอนเงินคิดบัญชีมือเป็นระวิง ใจจริงอยากจะคุยกับเพื่อนเรื่องคุณภัทร์มากๆแต่โอกาสไม่เป็นใจ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ลูกน้องก็หอบถุงใส่ของมากองตรงหน้า นารินค่อยๆหยิบขึ้นมาเช้กสินค้าอีกรอบเพื่อความมั่นใจ เสียงเพื่อนบอกว่า "ดีนะที่มันไม่หนัก ถ้าหนักละแกเอ๋ย หลังหักแน่ " นารินยิ้มรับแล้ว รอจ่ายเงินเพื่อนทันทีที่คิดเงินเสร็จ "ไปนะพิม ต้องแพคของอีก" พิมดาวยิ้มส่งเพื่อนแล้ว ก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อ ห้าโมงเย็น นารินจอดรถถึงใต้ตึกอพาร์ตเม้นท์ วันนี้เธอต้องแพคของให้เสร็จ เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องไปส่ง แล้วยังจะต้องออกไปซื้อของกับคุณภัทร์อีกด้วย มือบางหอบถุงพะรุงพะรังเดินขึ้นห้องไปอย่างเหนื่อยล้า "ไม่รวยตอนนี้จะรวยตอนไหน" นารินบอกกับตัวเองแล้วจัดการแพคของ มองดูเวลาอีกที เกือบทุ่มแล้ว อาหารเย็นเธออยู่ไหน มือบางเปิดตู้เย็น ข้าวกล่องเย็นเจี้ยบอยู่ในนั้นหนึ่งกล่อง กล้วยหอมยังเหลืออีก1ลูก มื้อค่ำของเธอวันนี้ นารินบอกกับตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม