เซอร์ไพรส์วันเกิด

2019 คำ
วันวิวาห์เดินยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เธอแค่อยากให้หมอหนุ่มรู้ว่าเธอรู้สึกดีๆ ด้วยเท่านั้น เธอไม่กล้าคิดไปถึงขั้นเป็นแฟน เพราะแอบคิดเหมือนกันว่าคนหล่อโปรไฟล์ดีระดับหมออชิรวิทย์ต้องมีคนรู้ใจอยู่แล้ว แต่ว่าก็แค่ปลื้มเท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นไปตามไล่ล่าเขามาเป็นแฟนสักหน่อย “ยายมิ้ลค์ แกอ่านหนังสืออย่างมีความสุขได้แล้วละสิ” “ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า ฉันรู้ว่าควรพอแค่ไหน เออนี่ งั้นเราไปกินข้าวกัน ฉันเลี้ยง” นันทิตาก้มมองเวลาแล้วส่ายหน้า “ไม่ดีกว่าแก ฉันอยากกลับไปอ่านหนังสือที่บ้าน ฉันว่าฉันแยกกับแกตรงนี้เลยดีกว่า เพราะยังไงบ้านเราก็คนละทางกัน ที่มาด้วยเพราะว่าฉันเป็นห่วง ไม่อยากให้แกมาคนเดียวเท่านั้นแหละ” “ซึ้งอะ แกเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ” “ฉันอยากให้แกมีแฟนจริงๆ สักทีนี่หว่า เห็นแกโสดมานานแล้ว แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่นะว่าหมออาจไม่แมน อาจมีแฟนเป็นใครสักคนในโรงพยาบาลที่เราไม่รู้ก็ได้” “เออ แกขยี้ฉันพอหรือยัง ฉันไม่กล้าคิด ไม่กล้าหวังแล้วละ จบไหม” นันทิตาเลยหัวเราะออกมาเพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ได้งอนจริงและยังไม่ได้เลิกกรี๊ดหมออย่างที่ปากบอก ประเดี๋ยวก็ชวนมาที่โรงพยาบาลอีก คอยดูสิ วันวิวาห์แยกกับเพื่อนแล้วก็ยังครุ่นคิดถึงเรื่องของหมอหนุ่มที่แอบชอบไม่หาย เธอชอบคนในเสื้อกาวน์มานานแล้ว แต่ทำไมความชอบครั้งแรกก็ต้องเจอกับความผิดหวังด้วยนะ วันวิวาห์เห็นเค้าลางมาแต่ไกล หล่อขนาดนั้นมีแฟนแน่ๆ คิดพลางถอนใจระหว่างกำลังมองหารถแท็กซี่อีกคันเพื่อโดยสารกลับบ้าน ดวงตาคู่หวานเพ่งมองไปที่ถนนด้านหน้าโรงพยาบาล รถยนต์คุ้นตา เอสยูวียี่ห้อเลกซัสสีขาวคันนั้นคล้ายกับของ... แต่เธอต้องหยุดหาคำตอบให้ตัวเองเพราะว่าตรงหน้ารถคันนั้นมีคนแก่กำลังเดินงกๆ เงิ่นๆ จากอีกฟากมาหยุดอยู่ที่กลางถนน วันวิวาห์มองด้วยความตกใจ เป็นห่วงคนชราว่าจะถูกรถเฉี่ยวชนเอาได้ และสิ่งที่ทำให้นิ่งงันคือเจ้าของรถคันหรูคุ้นตาเปิดประตูลงมา วันวิวาห์มองตามด้วยความรู้สึกลุ้นระทึก และภาพนั้นทำให้เธออึ้ง รวิศลงมาจากรถแล้วตรงไปประคองคนแก่ให้เดินข้ามถนนไปอีกฟากอย่างปลอดภัย ก่อนจะเดินกลับมาที่รถโดยไม่ลืมมองซ้ายมองขวา รวิศไม่เห็นว่าเธอมองอยู่ วันวิวาห์พึมพำเสียงเบากับตัวเอง “ผู้ชายตัวโตๆ เวลาทำเรื่องแบบนี้ก็น่ารักดีนะ ใจหล่อมาก” ริมฝีปากอิ่มขยับเป็นรอยยิ้มโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว เธอชอบผู้ชายอบอุ่น เพราะเธอกำพร้าบิดามารดา ฝันของเธอคืออยากได้ผู้ชายที่เป็นผู้นำครอบครัว ดูแลเธอได้ แต่ว่าในสังคมปัจจุบันนี้หาผู้ชายดีๆ ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ฝันของเธอจึงไม่เคยเกิดขึ้นเลย กระทั่งได้มาพบกับคุณหมอหนุ่มที่ดูแลเธออย่างดีตอนป่วย ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเป็นจังหวะซุมบ้า เขาเหมือนฮีโร เป็นชายในฝัน แต่ก็อย่างที่เธอเตือนตัวเองเสมอ หมอหล่อ น่ารัก อบอุ่นคงอยู่ได้แต่ในฝันไม่ได้อยู่ในชีวิตจริง วันวิวาห์ไม่ใช่คนโลกสวย เธอเป็นเด็กกำพร้าจึงชินชากับการคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเอง และนั่นทำให้เธอคงจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งกว่าคนในวัยเดียวกันก็เป็นได้ จึงไม่หวังสูงกับความรักเหมือนคนอื่น ................................................................................................................. “ตั้งแต่มีรถไฟฟ้า แถวนี้รถไม่ค่อยติดแล้วนะคะคุณ ไปไหนมาไหนก็เร็วขึ้นเยอะ” เสียงเนิบนาบของผู้หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น ม่านสายตาของคนผ่านประสบการณ์มาเกือบหกสิบปีมองวิวด้านนอกรถพลางยกยิ้มอย่างคนที่มีหัวทางธุรกิจอยู่เสมอ “คุณนิกำลังบอกผมว่าเป็นเพราะธุรกิจรถไฟฟ้าที่เราร่วมหุ้นกับบีอาร์ทีทำให้คุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ดีขึ้นใช่ไหม” คนเป็นภรรยาที่นั่งข้างๆ กันยิ้มให้สามี พลางมองตึกรามบ้านช่องที่เคลื่อนผ่านครรลองสายตาไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย “โชคดีที่คุณมีความสามารถ ทำให้เราได้เข้าไปเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วย ฉันภูมิใจในตัวคุณมากเลยค่ะคุณประวิทย์” “คุณนิก็ชมจนผมจะตัวลอยแล้ว” “อะแฮ่ม คุณพ่อคุณแม่ลืมไปหรือเปล่าครับว่ามีผมนั่งรถมาด้วย จีบกันแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะไปฮันนีมูนกันอีกรอบนะครับ หรือว่ามีแพลนจะไปจริงๆ ผมจะได้เคลียร์งานที่ไซต์แล้วเข้าออฟฟิศมาช่วยดูแลแทนคุณพ่อ” “ยังก่อนตานิว พ่อกับแม่ยังไม่คิดจะไปเที่ยวที่ไหนตอนนี้ งานที่บริษัทยังยุ่งกันอยู่ไม่ใช่หรือจ๊ะ” คุณนิรชาถาม ตอนนี้ที่บริษัทเอสวีจีมีงานยุ่งมาก เพราะตั้งแต่ได้งานรับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าบีอาร์ทีมาก็ทำให้ทั้งสามีและลูกชายทั้งสองไม่ค่อยมีเวลากลับมากินข้าวเย็นที่บ้านเลย ต่างคนต่างไปกินนอนที่คอนโดฯ กันหมด สามีของนางกลับบ้านทุกวันเรื่องนี้นางยังอุ่นใจ ลูกชายคนโตนั้นมีครอบครัวไปแล้วก็เป็นเรื่องของภรรยาเขาที่ต้องดูแล ห่วงแต่ลูกชายคนเล็กที่ยังไม่มีเมีย และไม่เคยกลับมานอนที่บ้าน เลือกที่จะค้างที่คอนโดฯ แทนเพราะอ้างว่าทำงานเลิกดึกไม่สะดวกกลับบ้าน “ยุ่งมากครับ อีกเป็นปีเชียวละ ผมว่าถ้าคุณแม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศก็ชวนคุณพ่อไปได้เลยนะครับ งานทางนี้ผมดูแลแทนคุณพ่อได้” “จริงๆ พ่ออยากวางมือด้วยซ้ำไป ให้นอตกับนิวดูแลแทน พ่อแก่มากแล้ว” คนเป็นลูกชายคนเล็กรับฟังด้วยสีหน้านิ่งสงบ ยิ้มเรียบๆ แทนคำตอบ เขาอายุสามสิบสี่แล้วก็อยากช่วยแบ่งเบาบิดา เพราะท่านทำงานหนักมามากแล้ว อีกอย่างเขากับพี่ชายก็ช่วยกันดูแลบริษัทได้ “คุณพ่อยังไม่แก่เลยครับ แต่ผมก็อยากให้คุณพ่อได้พัก ถ้าคุณพ่ออยากให้ผมมาดูแลแทนเมื่อไรก็บอก แต่ตอนนี้ผมยังสนุกกับการทำงานหน้างาน ยังไงคุณพ่อก็อย่าเพิ่งรีบวางมือนะครับ” “ลูกคนนี้ แม่ให้มาทำงานในออฟฟิศดีๆ ไม่ชอบ ชอบไปลำบากหน้างาน” คุณนิรชาว่าพลางถอนใจ ครอบครัวของนางเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ลูกชายคนโตเรียนจบบริหารธุรกิจ จึงให้ดูแลงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ส่วนลูกชายคนเล็กเรียนจบวิศวะ จึงให้ดูแลเรื่องงานวิศวโยธาทั้งหมดเช่นกัน “คุณคะ ตานิวถึงแล้ว” คุณนิรชาเรียกสามีและบุตรชายให้หันมาดูตามสายตานาง ทำให้หนุ่มต่างวัยทั้งสองหยุดสนทนาแล้วมองออกไปนอกกระจกรถตู้ “ฉันอยากได้ที่ดินผืนนี้ค่ะ แต่เห็นนายหน้าบอกว่าเจ้าของไม่ยอมขาย ให้ราคาสูงเท่าไรก็ไม่ยอม” “ยังไม่มากพอหรือเปล่าคุณนิ ผมเชื่อนะว่าถ้าเยอะมากพอ ยังไงเจ้าของที่ก็ยอมขาย ผมเห็นมาเยอะแล้ว” “ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ นายหน้าที่ฉันคุยด้วยเขาหมดปัญญาแล้ว แต่ฉันอยากได้มาก” “ถ้าคุณแม่อยากได้ ผมเชื่อว่ายังไงคุณแม่ก็ต้องได้มาอย่างแน่นอน ผมไม่เห็นมีที่ดินผืนไหนรอดมือคุณแม่ไปได้เลยถ้าคุณแม่บอกว่าอยากได้” รวิศออกความเห็น เพราะมารดาของเขาเป็นเจ้าแม่แห่งวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่ดิน เล็งที่ดินผืนไหนไว้ไม่เคยไม่ได้ และที่ดินผืนนั้นส่วนใหญ่ก็นำไปต่อยอดได้กำไรมหาศาลทุกแปลง “แต่แปลงนี้แม่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร แม่คิดว่าแม่คงต้องไปคุยกับเจ้าของเองแล้วถ้านายหน้ายังไม่สามารถจัดการให้แม่ได้” คุณนิรชาพูดอย่างคาดหวัง มองที่ดินผืนนั้นด้วยความเสียดาย เจ้าของไม่ได้นำไปต่อยอดทำธุรกิจอะไรก็น่าจะขายให้กับกลุ่มทุนที่สามารถนำไปพัฒนาได้ อีกอย่างที่ดินผืนนี้ก็ถูกโอบล้อมด้วยคอนโดมิเนียม ไม่เหมาะจะอยู่อาศัย ผู้ร่วมบทสนทนาด้วยไม่มีใครกล่าวอะไรอีก เพราะรู้ดีว่าถ้าคุณนิรชาหมายมั่นปั้นมือแล้วละก็ อย่างไรที่ดินผืนนี้ก็ต้องตกมาอยู่ในมือไม่ช้าก็เร็ว “คุณพ่อคุณแม่ครับ ถ้าอย่างนั้นผมว่าผมลงสถานีรถไฟฟ้าข้างหน้าดีกว่านะครับ ผมจะนั่งไปที่ไซต์งานเลย ไม่ได้เข้าไปหลายวันแล้ว อยากเข้าไปดูงานสักหน่อยครับ” “จะไปเองอย่างนั้นเหรอ” คนเป็นพ่อถาม “นิวจะนั่งรถไฟฟ้าไปเองหรือลูก ยังไงให้พ่อกับแม่วนรถไปส่งที่ไซต์ก่อนดีไหม” เพราะวันนี้นางชักชวนลูกและสามีให้มากินข้าวนอกบ้าน และขับรถผ่านที่ดินที่อยากได้ เพื่อประเมินดูอีกทีว่ายังต้องการจริงไหม และตอนนี้นางก็มีคำตอบให้ตัวเองว่านางต้องการจริงๆ “ไม่ต้องหรอกครับคุณแม่ ขับรถจากวงเวียนใหญ่ไปที่บางนาเสียเวลาแย่ ผมไปรถไฟฟ้าดีกว่า สะดวกรวดเร็วดี อีกอย่างผมไม่ได้นั่งนานแล้วด้วย ไหนๆ ก็เป็นคนสร้างโครงสร้างขึ้นมาเองก็ขอลองนั่งดูบ้าง” คุณนิรชาพยักหน้าขบขัน “ถ้าอยากนั่งก็ตามใจ” เมื่อคนเป็นภรรยาเอ่ยออกมาแบบนี้คุณประวิทย์ก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะเขาและภรรยาไม่ได้เลี้ยงลูกแบบคุณหนู หากแต่เลี้ยงให้ใช้ชีวิตติดดิน ช่วยเหลือตัวเองเป็นทุกอย่าง ทำให้ลูกชายทั้งสองคนไม่ได้เป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ................................................................................................................. รวิศลงจากรถตู้แล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปต่อคิวซื้อตั๋วรถไฟฟ้า เขาเองจะว่าไปก็งกๆ เงิ่นๆ เหมือนกัน เพราะไม่ได้ขึ้นมานานหลายปีแล้ว เมื่อดูป้ายบอกสถานีที่ต้องการลงแล้วก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปรอขึ้นรถไฟฟ้า ระหว่างรอ ดวงตาคมกริบก็มองระบบโครงสร้างวิศวกรรมที่บริษัทของเขาเป็นคนก่อสร้างขึ้นมา รอยยิ้มคมคายผุดขึ้นที่ริมฝีปาก มันเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานสำคัญชิ้นนี้ เพราะผู้คนที่หลั่งไหลมาใช้บริการจะได้รับความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ไม่ต้องทนรถติดบนถนนเป็นชั่วโมงอีก เขาเดินเข้าไปหาที่นั่งจากหลายๆ เบาะที่ว่าง หลังจากประตูรถเปิดออกและมีสัญญาณเตือนดังขึ้นก่อนประตูจะปิดลงอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ถือโอกาสนั่งพักเงียบๆ ไปด้วย สองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาเข้าออฟฟิศตลอดเพราะมีประชุม อาจจะมีไปที่ไซต์งานบ้างแต่ก็เพียงไม่นาน แต่ตอนนี้แกะไม้แบบเสร็จแล้ว และคานก็ไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการตรวจสอบภายในก่อนที่จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป รวิศเหนื่อยแต่ก็รู้สึกท้าทาย ทุกวันเขาจะมีความรู้สึกฮึกเหิม มุ่งมั่น แต่ทำไมระยะหลังมานี้เขากลับมีความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่เขาบรรยายไม่ถูก ยิ่งตกค่ำเขาเบื่อๆ อยากไปกินเหล้ากับเพื่อน พวกมันก็ไม่มีใครว่าง ไม่ว่าจะไอ้อัศวิน ไอ้สุภาพ ล้วนแต่อ้างว่ามีนัดกับแฟน ด้วยแอร์ที่เย็นสบาย และคนเริ่มลงไปจนบางตา รวิศคิดอะไรเพลินๆ จนอยากพักสายตา เขาหลับตานิ่งพลางคิดว่าหากได้พบกับตุ๊กตาเดินได้อีกหนเขาจะทำอย่างไรดี เขาจะเดินหน้าสานต่อหรือว่าจะหยุดความรู้สึกที่ชอบลงแค่นั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม