สืบเรื่องราว (1)

1027 คำ
ลั่วเหยียนเจิ้งยืนเหม่อมองพระจันทร์เต็มดวงด้วยหัวใจว้าเหว่ แม้จะมีพระสนมมากมายเต็มตำหนักหลังแต่มิเคยมีใครที่ทำให้หัวใจอบอุ่นแม้แต่คนเดียว หญิงสาวพวกนั้นเป็นเพียงหมากการเมืองเท่านั้น หวนให้คิดถึงน้องห้าที่ได้อยู่กับคนที่รัก ทว่าอดีตที่ผ่านมาของตนล้วนพบเจอแต่ความเจ็บปวดอีกทั้งหน้าที่ต้องรับผิดชอบคงยากจะพบเจอ            “ฝ่าบาทวันนี้เสด็จไปตำหนักใดพ่ะย่ะค่ะ”            หยางซือหมิงองครักษ์ฝ่ายขวาเอ่ยถามพร้อมยื่นไม้เสี่ยงทายมาให้ ลั่วเหยียนเจิ้งปรายตามองอย่างเบื่อหน่าย เพราะเข้าไปได้แต่กลิ่นน้ำหอมแรงจนไม่อยากเข้าใกล้พวกนางทำให้เขาอึดอัดทุกครั้งที่พบเจอ มีแต่การแก่งแย่งชิงดีเพื่อให้เป็นที่โปรดปราน            แม้ภายนอกพวกนางจะงดงามเหมือนดอกไม้แต่จิตใจเต็มไปด้วยความริษยาชิงชัง แม้กระทั้งความรักยังไม่มีให้ มีแต่ความทะเยอทะยานที่ฉายชัดในแววตาเท่านั้น            “ข้าไม่ไป”            ลั่วเหยียนเจิ้งตอบกลับทันควันหันวรกายกลับไปบรรทมบนเตียงนอนตัวเองโดยไม่สนใจสายตาลำบากใจขององครักษ์คนสนิทแม้แต่น้อย            “ฝ่าบาทตั้งแต่รับสนมเข้ามาพระองค์เสด็จแทบนับครั้งได้นะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ไม่ทรงโปรดสนมคนไหนบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ”            “ข้าอยากนอน” เมื่อเจ้าเหนือหัวกล่าวมาเช่นนี้หยางซือหมิงจึงมิกล้าขัดพระทัยอีก จึงได้ก้มหน้าคารวะถอยไปจากห้องบรรทม เห็นทีคราวนี้คงไร้ซึ่งรัชทายาทสืบทอดบัลลังก์เสียแล้วกระมัง            หลังจากพ้นหลังองครักษ์ไป ลั่วเหยียนเจิ้งจึงลุกขึ้นนั่งถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย หน้าที่ฮ่องเต้ที่ดีต้องดูแลประชาชนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขเรื่องนี้เขาสามารถทำได้            แต่เรื่องสตรีในวังหลังเขามิอาจมอบความสุขให้พวกนางได้ ร่างสูงลุกขึ้นนั่งก่อนจะทะยานออกไปนอกหน้าต่างด้วยเร็วและเงียบเชียบโดยที่องครักษ์ไม่มีทางจับได้ว่าตนมิได้อยู่ในห้องบรรทม            วิชานี้เขาได้มาจากอาจารย์ฝู่ซานซึ่งฝึกสอนเขาเมื่อสิบหกปีที่ผ่านมาทว่าจนบัดนี้ที่ลึกลับแห่งนั้นเขาก็ไม่ได้พบเจออีกเลย มิรู้ว่าปานนี้อาจารย์จะหลุดพ้นการลงทัณฑ์ไปได้หรือยัง            ลั่วเหยียนเจิ้งปรากฏตัวอีกครั้งที่ห้องอักษรเดินไปหยิบราชกิจที่ค้างคาอยู่มาพิจารณาอีกครั้ง เรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้านเกี่ยวกับผู้ว่าราชการในแต่ละเมืองเริ่มเก็บภาษีราษฎรเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งมีการคดโกงการค้าจนอยากลงไปสัมผัสด้วยตนเอง            แต่ก่อนจากไปจะต้องให้ใครมาสวมตำแหน่งแทนชั่วคราว และคนที่ไว้ใจได้อีกทั้งรูปร่างพอๆ กับตนก็มีเพียงองครักษ์ฝ่ายซ้ายและขวาเท่านั้น หากให้หยางซือหมิงอยู่แทนคงไม่ยินยอมแน่ๆ ส่วนกวงไห่ก็เป็นคนไม่ค่อยจะยิ้ม แต่ละตัวเลือกน่าลำบากใจจริงๆ            ลั่วเหยียนเจิ้งเก็บม้วนฎีกาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้กับตัว ก่อนจะกลับมายังห้องบรรทมอีกครั้ง เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเสด็จออกไปเยือนประชาชนให้เห็นด้วยตาตนเอง            เช้าวันรุ่งขึ้นลั่วเหยียนเจิ้งเรียกองครักษ์มาสั่งงานเพื่อดำเนินตามเป้าหมาย โดยมอบหมายให้หยางซือหมิงปลอมเป็นพระองค์เพราะรูปร่างที่คล้ายกับตนมากที่สุด และหน้ากากยางที่มีใบหน้าเขา ซึ่งจิวชงหยวนมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้ใช้เหมือนอีกฝ่ายกล่าวไว้จริงๆ            “ฝ่าบาทให้กระหม่อมเสด็จไปด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ หากมีใครจับได้หัวกระหม่อมคงหลุดจากบ่าแน่ๆพ่ะย่ะค่ะ”            หยางซือหมิงเอ่ยอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร ทว่ากลับไม่สะดุ้งสะเทือนหัวใจเจ้าเหนือหัวแม้แต่น้อย มีเพียงร้อยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นทีไรรู้สึกหวาดระแวงไปเสียทุกครั้งแทน            “ใครจะสังหารเจ้ากัน ในวังหลวงแห่งนี้ข้ามีอำนาจสูงสุดและนี่เป็นคำสั่งข้า เจ้ากล้าปฏิเสธหรือ อีกอย่างเจ้าโป้ปดเรื่องที่ข้าประชวรมานานหลายปีได้โป้ปดต่อไปอีกจะเป็นไรไป”            ลั่วเหยียนเจิ้งกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ทำให้คนฟังเถียงไม่ออกได้แต่มองตามอย่างอ้อนวอนเท่านั้น แต่มีหรือผู้มีหัวใจด้านชาเรื่องเช่นนี้จะใส่ใจ            “โธ่ฝ่าบาท กระหม่อมทำตามบัญชาฝ่าบาทไหนเลยจะกล้าขัดคำสั่ง แต่เรื่องนี้พระองค์ทำไมไม่ให้กวงไห่อยู่แทนกระหม่อมล่ะพ่ะย่ะค่ะ”            ผู้ที่ถูกดึงไปเกี่ยวข้องปรายสายตาไปมองสหายอย่างไม่พอใจ แต่เมื่อคำสั่งจากเจ้าชีวิตจึงได้ปิดปากเงียบ            “ไม่ต้องห่วงเพราะกวงไห่ต้องอยู่กับเจ้าแน่นอน” ลั่วเหยียนเจิ้งบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้คนฟังรู้สึกไม่ไว้วางใจเอาเสียเลย แต่ว่าเรื่องนี้เขาพิจารณาดีแล้ว หากมีตัวแทนเขาขึ้นมาแล้วไม่มีองครักษ์ติดตามยิ่งทำให้ผิดสังเกตได้ง่าย            “ฝ่าบาทโปรดพิจารณาอีกครั้งด้วยพ่ะย่ะค่ะ” หยางซือหมิงคุกเข่าก้มหน้าชิดพื้น ตามด้วยกวงไห่ที่เห็นด้วยคุกเข่าอ้อนวอนอีกคน ลั่วเหยียนเจิ้งมองตามอย่างเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นห่วงแต่ใช่ว่าตนจะไร้ฝีมือ            “พวกเจ้าวางใจเถอะ ข้ามิใช่คนไร้ฝีมืออีกอย่างยังมีองครักษ์เงาของน้องห้าติดตามข้าอยู่ย่อมไม่มีอันตรายง่ายๆ หรอก” ลั่วเหยียนเจิ้งบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน มุมปากยกยิ้มน้อยๆ พลางคิดว่าเรื่องอะไรจะให้ใครติดตามการหาโอกาสไปเที่ยวข้างนอกนั้นยากยิ่ง            ทว่ารอยยิ้มที่มุมปากองครักษ์กลับไม่ได้เห็น ทั้งคู่ได้แต่นอบน้อมรับคำสั่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็เชื่อมั่นในฝีมือขององค์จักรพรรดิ อีกทั้งความเฉลียวฉลาดของพระองค์ทำให้พวกเขามั่นใจไปมากกว่าครึ่ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม