“เรายินดีมากสหายรัก ปีนี้คงมีอะไรพิเศษอีกเป็นแน่ แต่ท่านมีอะไรน่าประหลาดใจทุกปีสินะ”
สุลต่านอีซาพูดยิ้มๆ ก่อนหันไปมองใบหน้านวลผ่องของมเหสีคู่กาย เขายังจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วเขามาด้วยความเบื่อหน่ายไม่ค่อยสุขใจนักเพราะถูกดึงมาจากราชกิจสำคัญมากมายที่ทำอยู่
เพราะเพื่อนรัก... เขาจึงมิอาจขัด แต่ก็ไม่เสียใจสักนิด หากเขาพลาดโอกาสการที่จะมางานวันเกิดของสหายรักในปีที่แล้ว คงไม่ได้พบกับนักร้องสาวเสียงดี นักเต้นงดงามอย่างมาเลย์น่า และหญิงสาวที่ครอบครองใจเขาได้เช่นนี้
“เราให้ท่านการิมเป็นผู้คัดเลือกนักแสดงเช่นเดิม ปีนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายหรอกสหาย”
รอฮิมตอบยิ้มๆ ก่อนยกน้ำชาขึ้นตรงหน้าเพื่อเชิญเพื่อนรักและมเหสีดื่มด้วยกัน
แขกผู้มีเกียรติในงานเริ่มรับประทานอาหารกันอย่างพร้อมเพรียง อาหารรสเลิศที่ต่างปรุงสรรปั้นแต่งไม่เคยทำให้แขกเหรื่อต้องตำหนิรสชาติเลยสักครั้ง
มีแต่จะเยินยอถึงความเอร็ดอร่อยอย่างไม่ขาดปาก การสนทนาอย่างออกรสพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องงานและการลงทุนเป็นส่วนใหญ่ มีการบรรเลงเพลงแรกด้วยนักร้องสาววัยกลางคนซึ่งถูกเชิญมาในงานวันพระราชสมภพทุกปี
“จะกี่ปีกี่ปีนางก็ยังร้องเพลงไพเราะเสนาะหูเช่นเดิม”
อีซาหันไปชมนักร้องที่ขับกล่อมเสียงเพลงอยู่บนเวทีกับสหายรัก
“ใช่ หากขาดนางไป เหมือนงานจะไม่สมบูรณ์ มีหลายคนรอคอยฟังเสียงนางอยู่เสมอเวลาเริ่มงาน” รอฮิมพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
“อาหารก็ยังอร่อยเหมือนเดิม”
อีซากล่าวชม รอฮิมยิ้มรับก่อนชวนสนทนาต่อ
“ชายแดนที่โซโมโรสเป็นเช่นไรบ้าง ยังมีปัญหาอยู่อีกหรือไม่ หลังจากปราบพวกโจรไปครั้งก่อน”
รอฮิมชวนเพื่อนสนทนาเรื่องราชกิจงานบ้านงานเมือง
“ยังมีอยู่บ้าง แต่น้อยลงมาก เราจัดการปราบอย่างสิ้นซาก”
“ก็ดีนะ ได้คนเก่งๆ มาช่วยแบบนี้ท่านคงเบาแรง”
อีซายิ้มรับ ยกน้ำชาขึ้นจิบ หันไปยิ้มแย้มกับมเหสีคู่กาย
“เศรษฐกิจของประเทศท่านสิ เจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก” คำพูดของสหายรักทำให้รอฮิมหัวเราะเบาๆ ด้วยความชอบใจ
สุลต่านหนุ่มนึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งอดีตที่นี่ยังเป็นดินแดนทะเลทรายอันแห้งแล้งร้อนระอุริมชายฝั่ง ซึ่งเป็นที่จอดเรือใบและหาปลาริมธารเล็กๆ ที่ไหลลงสู่ทะเล
บิดาของเขาเป็นเพียงหัวหน้าเผ่าชาวอาหรับเผ่าหนึ่งในคาบสมุทร ทุกวันท่านจะต้องชวนเขาและรอฟัสน้องชายออกมาดูพื้นที่บริเวณนั้น และพูดคุยถึงความฝันในอนาคตของท่าน จนในที่สุดก็ได้ตัดสินใจยืมเงินจากสหายรักแห่งโซโมโรส ประเทศอันอุดมไปด้วยแร่ทองคำและร่ำรวยประเทศหนึ่ง เพื่อมาจัดการขุดขยายธารน้ำให้กว้างและลึกเพื่อให้เรือผ่านได้ ทรงทำนุบำรุงการสร้างถนน สร้างบ้านเรือน โรงเรียน ทั้งสนับสนุนสาธารณูปโภคโดยได้รับความสนับสนุนจากโซโมโรสประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นสหายกันมานานแรมปี
“เพราะโซโมโรสได้ช่วยเหลือเสด็จพ่อเอาไว้ เราไม่เคยลืมเลย น้ำใจอันยิ่งใหญ่เช่นนี้เรากับเสด็จพ่อซาบซึ้งหาที่เปรียบ”
รอฮิมพูดกับสหายรักด้วยรอยยิ้ม บิดาของเขาคิดเช่นนี้แม้จะทรงสวรรคตไปแล้วก็ตาม
“เป็นเพราะเสด็จลุงทรงพระปรีชาสามารถและมีหัวด้านการค้า โอซาเนียถึงได้เป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองเช่นนี้”
อีซากล่าวชมเพื่อนจากใจจริง เพียงไม่กี่ปีบิดาของรอฮิมทำฝันให้เป็นจริงและสามารถค*****นที่ยืมจากพระบิดาของเขาได้หมดสิ้นโดยไม่ติดค้างอันใดอีก จะเหลือเพียงหนี้บุญคุณ และสัมพันธไมตรีอันดีดั่งบ้านพี่เมืองน้อง
... เสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วท้องพระโรงกว้าง แขกเหรื่อมากมายต่างส่งเสียงชื่นชมนักร้องสาวที่แม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังร้องเพลงได้ไพเราะเช่นเดิม
“จะกี่ปีนางก็ยังเป็นที่นิยมเช่นเดิม”
อีซาปรบมือชื่นชมนักร้องสาววัยกลางคนไม่แตกต่างจากแขกผู้มีเกียรติท่านอื่น
“แต่เราว่าตอนนี้หญิงสาวคนใดคงแพ้คนข้างกายท่านแล้วกระมัง ท่านฟังนางร้องเพลงอันไพเราะทุกคืน จนเราชักจะอิจฉาท่านแล้วล่ะสิ” รอฮิมเอ่ยแซวเพื่อนตามประสา
มาเลย์น่าเพียงแต่ยิ้มรับมิพูดอันใด อีซาหันมาสบสาวตาแวววาวอย่างมีความหมาย
“ตั้งนานนมแล้วเพิ่งคิดอิจฉา ท่านก็หาสักคนสิ อย่ามัวแต่อิจฉาเราเลย” อีซาหัวเราะชอบใจ รอฮิมเพียงแต่ยิ้มรับมิได้พูดอันใด
มีการแสดงอีกมากมายให้เป็นที่ตื่นตาตื่นใจก่อนจะเป็นไฮไลท์ของงาน การแสดงชุดถัดไป เป็นการแสดงที่ถูกคัดเลือกเป็นอย่างดีจากการิม
“การแสดงชุดพิเศษมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
การิมที่ยืนอยู่เบื้องหลังองค์เหนือหัวกระซิบบอกเมื่อสุลต่านหนุ่มหันมาเป็นเชิงถามว่าการแสดงชุดสำคัญใช่หรือไม่ และหญิงสาวที่เขารอคอยก็ปรากฏโฉมตรงหน้า
ทันใดนั้นท้องพระโรงมืดสนิทลงฉับพลัน...
แขกเหรื่อในงานที่รอคอยการแสดงชุดพิเศษต่างเงียบงันเพ่งมองไปยังกลางท้องพระโรงกว้างที่เป็นแป้นหมุน
ทุกปีในวันคล้ายวันพระราชสมภพของสุลต่านหนุ่มก็จะมีการแสดงชุดที่ตื่นตาตื่นใจให้บรรดาแขกผู้มีเกียรติได้ชื่นชมกันทุกครั้งไป หลังจากจบงานต่างกล่าวขานกันไม่รู้จบ เหมือนไม่อยากให้งานเลี้ยงฉลองอันยิ่งใหญ่ตระการตาเช่นนี้จบลงเลยแม้แต่น้อย
... และปีนี้ก็เช่นเดียวกัน แตกต่างจากปีที่แล้วตรงที่เปลี่ยนจากการขับร้องเพลงและระบำหน้าท้องเป็นการเต้นลาตินแดนซ์ แม้จะเป็นเพียงการแสดงที่มีแพร่หลาย แต่นักเต้นทั้งหลายต่างพกพาความสามารถมาเปี่ยมล้น
โดยเฉพาะหญิงสาวแสนเซ็กซี่ที่โดดเด่นที่สุดอยู่เบื้องหน้า ความมั่นใจของเธอและเสน่ห์อันเหลือล้นบนเวทีเรียกคะแนนความชื่นชม กระหายใคร่อยากรู้จักกับเธอให้มากยิ่งขึ้นกระจายไปทั่วท้องพระโรง
ฟาตินหรือแองเจลิน่า โจนส์ ได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาเต้นหน้าพระที่นั่งได้สำเร็จจากความสามารถที่ฝึกฝนมานานเพราะสายเลือดของมารดา
หลังจากย้ายไปพำนักอยู่กับลุงโนอาห์ที่สหรัฐฯ เมื่อบิดาโดนสังหารตายที่ชนเผ่าไบซาซึ่งปัจจุบันเป็นรัฐหนึ่งของโอซาเนีย และเหตุผลหนึ่งที่หญิงสาวยังคงไม่รู้ตัว... ว่าถูกจับตามองจากใครคนหนึ่งอยู่
ลีลาที่เร่าร้อนสอดรับกับจังหวะเสียงเพลงที่เร้าใจ ทำให้ผู้ชมต่างประสานเสียงปรบมือดังกึกก้องอีกครั้ง
รอฮิมนิ่งงันจับกล้องในมือไม่วาง จดจ้องมองหญิงสาวที่เต้นด้วยจังหวะยั่วเย้า สายตาสีเขียวอมฟ้าประสานกับดวงตาสีสนิมเหล็กอย่างไม่หลบหลีก กระตุ้นอารมณ์หลากหลายในกายสุลต่านหนุ่ม เขาสัมผัสถึงพลังความเซ็กซี่เปี่ยมล้นของเจ้าหล่อน
เธอจงใจสบสายตากับเขาไม่ยอมหลบ ประกายตายั่วเย้ายวนอารมณ์หนุ่มให้ปั่นป่วน
ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังท้องพระโรงกว้างแพรวพราวเรียกให้บรรดาแขกเหรื่อฮือฮาจดจ้องแทบอยากกลืนกินร่างสูงอรชรกลมกลึงตรงหน้าให้หนำใจ
อีซาหันมองเพื่อนรักที่เป็นเจ้าของงาน ก่อนหันไปมองสบตามเหสีคู่กายยิ้มๆ แต่ดูเหมือนรอฮิมหาได้สนใจสิ่งใดไม่
เขายังคงเพ่งมองหญิงสาวด้วยความเสน่หาไม่ปิดบัง สบสายตายั่วยวนที่มองมายังเขาไม่วาง
“ดูคราวนี้ท่านจะถูกใจมากกว่าเราเมื่อปีที่แล้วเสียอีก”
แม้สุลต่านรอฮิมจะถูกสหายล้อ แต่ยังเอาแต่เงียบสนใจเพียงหญิงสาวบนเวที อีซาจึงได้แต่เงียบเสีย ไม่อยากกวนอารมณ์หรือสมาธิของเพื่อนรักที่กำลังจดจ้องร่างงามอยู่บนเวที
รอฮิมค่อยๆ มองไล่ไปตามสัดส่วนยวนตา หญิงสาวสูงเพรียวแต่อวบอิ่ม ผมสีน้ำตาลอ่อน สยายไปตามจังหวะเต้น ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับเมื่อกวาดสายตาแพรวพราวยวนเย้า โหนกแก้มสูงรับกับใบหน้าเรียวรูปไข่ จมูกโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจุมพิต กับปลายคางเรียวมนเสริมให้ดวงหน้างดงามยิ่งขึ้น คิ้วโก่งเรียวเป็นระเบียบ
เขาลดกล้องลงมองสัดส่วนบริเวณอกอวบ ก่อนเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ยังหน้าท้อง แบนราบ เอวคอดรับกับสะโพกผายงามงอน ช่วงขายาว ผิวขาวเนียนละเอียด