6

1499 คำ
“งั้นลองกุหลับ จามานสิ” เขาผายมือไปที่ขนมตรงหน้า ฟาตินตักขนมดังกล่าวทาน “พระองค์ไม่ทานหรือเพคะ” “ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบทานขนมหวาน แต่ชอบทานอะไรหวานๆ” ท้ายประโยคสายตาคมกริบทอดมองมายังเธอ ฟาตินทานได้อีกนิดก็อิ่ม เธอแทบทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องเป็นฝ่ายทานและให้อีกฝ่ายเป็นผู้มอง “รับชาหรือกาแฟดี” การสิ้นสุดของมื้ออาหารคือเครื่องดื่มเลิศรสตบท้าย หญิงสาวขอรับเป็นชาและจิบตามมารยาทเท่านั้น “อยากเที่ยวชมพระราชวังโอซานหรือไม่” เขาถามขึ้นเมื่อสิ้นสุดมื้ออาหารแล้วจริงๆ “เพคะ” หญิงสาวตอบรับ ลุกขึ้นเมื่อทาสรับใช้ที่อยู่บริเวณนั้นเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้เธออย่างอ่อนน้อม “ตามฉันมาสิ” เขากล่าวเสียงนิ่มแต่ทรงไปด้วยอำนาจ ฟาตินเดินตามร่างสูงออกไปจากตำหนักกว้าง ตอนเด็กๆ เธอมีโอกาสได้ชื่นชมกับพระราชวังโอซานบ้างแล้ว แต่การได้ชมอีกครั้งเต็มๆ ตาทำให้นึกทึ่งในความหรูหราอลังการที่ในอดีตไม่ได้เป็นเช่นนี้ “ชอบที่นี่หรือไม่ หากจะอยู่นานๆ ฉันจะยินดียิ่ง” “หากพระองค์ไม่รังเกียจ หม่อมฉันถือว่าเป็นเกียรติยิ่งที่ได้พำนักอยู่ที่นี่เพคะ” “ไปเถอะ ฉันจะพาเธอไปเยี่ยมชมตำหนักของฉัน” เขาเอ่ยเชื้อเชิญ แต่คำว่า “ตำหนักของฉัน” ทำให้ฟาตินใจเต้นแรง ถึงเวลาแล้วสินะที่เธอจะได้ทำตามแผนการที่วางไว้ “เพคะ” ฟาตินรับคำไม่อิดออด สุลต่านหนุ่มกอบกุมมือน้อยนุ่มนิ่มเอาไว้ จับจูงไปยังตำหนักอันโอ่อ่าวิจิตรอลังการเบื้องหน้า “เธออยู่โซโมโรส แล้วไม่เคยมาที่โอซาเนียเลยเหรอ” เขาถามขึ้น ฟาตินเม้มริมฝีปาเล็กน้อยก่อนจะคลายออก เพื่อหาคำพูดมาตอบเขา “ไม่เคยเพคะ” เธอปดคำโต หลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องในอดีต รอฮิมไม่ว่ากระไร เพียงแค่พยักหน้าแสร้งทำเป็นรับรู้ ฟาตินลอบผ่อนลมหายใจแผ่วเบาด้วยความโล่งอก เมื่อเธอไม่ต้องถูกตรวจค้นจากองครักษ์ของเขา หากในเวลาอื่นเธอคงไม่รอดพ้นเป็นแน่ ถ้าได้พกพาอาวุธร้ายแรงเช่นนี้เข้าไปในตำหนักสุลต่านประมุขผู้นำประเทศ ดีที่เธอเข้าวังมากับริฟฮานเพื่อนของผู้เป็นลุง จึงมิได้ถูกตรวจค้นตอนเดินทางเข้ามา... เพียงผ่านพ้นเข้ามาในตำหนัก ฟาตินแทบไม่ทันตั้งตัว เมื่อโดนริมฝีปากร้อนชื้นเข้าจู่โจม เธอเกร็งร่างในคราแรก ก่อนจะโอนอ่อนให้ เมื่อสำนึกได้ว่าไม่ควรขัดขืนให้เขาขุ่นใจ ปลายลิ้นสากเข้าเกี่ยวกระหวัดดูดรัดลิ้นน้อย กวาดต้อนเอาหยาดน้ำหวานอย่างเอาแต่ใจ รอฮิมผละริมฝีปากที่ดูดดื่มกับริมฝีปากหวาน ทำท่าจะตวัดอุ้มหญิงสาว แต่ฟาตินผวาหลบ ถ้าเขาอุ้มแนบร่างอาจสัมผัสกับสิ่งที่เธอซุกแนบมากับขาก็เป็นได้ และมั่นใจว่าสุลต่านเช่นเขาฉลาดพอที่จะรู้ว่ามันคืออะไร ฐานะของเขาย่อมต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเมื่ออยู่กับคนแปลกหน้าแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิงก็ตาม “หม่อมฉันกลัวพระองค์หนักเพคะ” ร่างอรชรเดินหนีไปยังเตียงกว้าง อย่างไรเสียหากเธอชักช้าจะเสียการณ์ ต้องรีบลงมือให้เร็วที่สุด… ร่างสูงใหญ่เดินตามร่างหอมกรุ่นที่ทรุดนั่งบนเตียงกว้างคล้ายรอคอยเขาอยู่ แต่เมื่อเดินไปหา เธอทำท่าจะหนีไปอีก เขากระชากเรียวแขนกลมกลึงเอาไว้ บดเบียดเรือนร่างสูงใหญ่เข้าหา กดร่างหล่อนนอนหงายบนเตียงกว้าง “ฉันปรารถนาเธอนักแองจี้” เขาเรียกชื่อเล่นของเธออย่างสนิทสนม ริมฝีปากร้อนบดเบียดจุมพิตเรียวปากสีชมพูสด มือใหญ่กอบกุมทรวงสาวเพื่อเคล้นคลึง ก่อนเลื่อนมือลงไปด้านล่างเพื่อจะสอดเข้าใต้กระโปรงที่ยาวกรอมเท้า ฟาตินออกแรงพลิกร่างสูงให้นอนหงายทันที ก่อนที่เขาจะได้สัมผัสกับบางอย่างที่ขาเธอ หญิงสาวขึ้นทาบทับ ดวงตาสวยเฉี่ยวมองสบอย่างท้าทาย “เคยมีคนบอกเธอหรือไม่ว่าดวงตาของเธอสะกดให้คนมองลุ่มหลงเพียงใด” รอฮิมลูบมือหนาไปตามเค้าโครงหน้างดงามผุดผาด เขากำลังเตรียมรับมือกับความฉลาดของเธอ แต่คนเช่นสุลต่านรอฮิมไม่มีวันฉลาดน้อยกว่าหญิงสาวที่ฝีมือเทียบเขาไม่ได้เช่นนี้เป็นแน่ ฟาตินไม่ตอบแต่ก้มใบหน้าประทับจุมพิตบนริมฝีปากหยักลึก สุลต่านรูปงามกดท้ายทอยของเธอเอาไว้เพื่อจูบตอบเร่าร้อน กระหายในเรือนร่างหอมจรุงที่ทาบทับบนร่างเขาอย่างที่สุด มือบอบบางเริ่มลงมือปลดอาภรณ์ออกจากกายหนา เธอกดจูบบนผิวเรียบแน่นของเขาทุกครั้งที่สัมผัสเรือนกาย ดวงตาสวยเฉี่ยวช้อนขึ้นมองยั่วยุอารมณ์ มือน้อยปลดผ้าคลุมผมบางเบาออกจากศีรษะ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงเอวคอดสยายไปรอบกรอบหน้าสวยคมงดงาม รอฮิมมองด้วยสายตาลุ่มหลงนอนนิ่ง มองเธออย่างเสน่หา “ปิดตานะเพคะฝ่าบาท” ฟาตินก้มลงกระซิบ จูบใบหูขาวสะอาดและแก้มสากเบาๆ รอฮิมถึงกับคำรามลั่นใช้อุ้งมือทั้งสองกอบกุมใบหน้าหญิงสาวเอาไว้แล้วยกใบหน้าขึ้นระดมจูบดุเดือดจนฟาตินแทบขาดใจตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด “คืนนี้หม่อมฉันจะทำให้ฝ่าบาทมีความสุขนะเพคะ” “เราอยากมีความสุขตลอดไปได้หรือไม่” รอฮิมจับมือน้อยเอาไว้เมื่อหญิงสาวทำท่าจะปิดตา “หม่อมฉันยินดีทำให้พระองค์มีความสุขตลอดไปเพคะ” “แองจี้ เธอสัญญาแล้ว หญิงสาวที่สัญญากับฉันเช่นนี้ จะต้องอยู่กับฉันตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็ต้องอยู่กับฉันตลอดไป” คำพูดของเขาดูเรื่อยๆ แต่สะท้อนอยู่ในอกเพราะมันแฝงไปด้วยความจริงจัง “แสดงว่ามีหญิงสาวมากมายสัญญากับพระองค์หรือเพคะ” เธอเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ไม่ เธอคนเดียวเท่านั้น ฉันไม่เคยต้องการหญิงสาวคนใดไปตลอดชีวิตเช่นเธอ” รอฮิมยกมือน้อยขึ้นจุมพิต เธอแสร้งเอียงอายไม่กล้าสบสายตาแพรวพราวกรุ้มกริ่มนั้น แต่หัวใจเธอมันสั่นทุกครั้งที่สบตาเขา “หม่อมฉันควรเชื่อฝ่าบาทดีหรือไม่เพคะ” ฟาตินยกผ้าคลุมผมหอมกรุ่นหมายจะปิดตาชายหนุ่ม รอฮิมดึงผ้าคลุมผมไปสูดดมกลิ่นหอมของเรือนผมเสียก่อน เขามองตาเธอไม่วาง ก่อนหลุบตาลงมองอกอวบอิ่มที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้อาภรณ์เนื้อดีสีทองอร่าม “ฉันจะพิสูจน์ให้เธอเชื่อเอง” รอฮิมดึงผ้าไปปิดตาเสียเอง ฟาตินยิ้มหวานส่งให้ ช่วยกระชับผ้าปิดตาเขา แล้วก้มลงจูบระไปตามแผงอกกว้าง มือบอบบางเอื้อมไปสอดใต้ขาของตัวเองเพื่อดึงอาวุธออกมา ฟาตินยกมีดสั้นขึ้นหมายจะแทงชายหนุ่มให้ตาย เธอจะปักตรงขั้วหัวใจเขา แต่... “จะทำอะไร” รอฮิมยกมือขึ้นจับมือบอบบางเอาไว้ แล้วพลิกร่างหญิงสาวลงด้านล่าง มืออีกข้างกระชากผ้าปิดหน้าออก “โอ๊ย!” ฟาตินร้องด้วยความเจ็บเมื่อถูกบีบแขนจนมีดในมือร่วงหล่น เธอนึกทึ่งในประสาทสัมผัสของเขานัก รอฮิมไม่เคยไว้ใจใคร เขาอยู่ในฐานะที่มีคนหมายเอาชีวิตมากมาย แม้แต่ผู้หญิงก็ตามที แต่เพราะนั่น เขารู้ตัวอยู่ก่อนหน้า จากฝีมือการสืบข่าวของการิมที่เขารู้ว่าไม่เคยพลาด เขาเองเป็นคนเรียกเธอเข้าพบเอง แม้จะถูกคนสนิทห้ามไว้ก็ตามที สุลต่านหนุ่มรู้การเคลื่อนไหวทุกอย่างของหญิงสาว แม้แต่ผู้เป็นอาของเธอที่มาพบเธอในช่วงเวลาสั้นๆ ดูท่าว่าเขาคงต้องทำอะไรอีกหลายอย่าง อัมรานดูเหมือนจะไม่ห้ามปรามหลานสาวเลยแม้แต่น้อย เขาวิเคราะห์สถานการณ์ไปอีกอย่างหนึ่ง “ฉันไม่เคยยอมให้ผู้หญิงคนไหนปิดตาเวลาร่วมรักกัน” เขาบอกเธอเสียงเครียด หากเขายอมให้ใครก็ได้ปิดตา นั่นหมายถึงชีวิตของเขาอาจไม่ปลอดภัย แต่ที่ยอมเล่นตามเธอ เพราะว่าอยากจะรู้ว่าเธอจะทำอันใด ฟาตินตกใจเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะสงบนิ่งดังเดิม มองคนเหนือร่างเพื่อประเมินสถานการณ์ “เธอจะฆ่าฉันรึ” รอฮิมกระชากร่างอรชรเต็มแรงจนหญิงสาวเสียหลักล้มลงฟาตินงอเข่ากระแทกที่ส่วนกลางของร่างใหญ่เมื่อได้จังหวะ อาศัยความเร็วผลักร่างสูงให้พ้นตัว รีบกระโดดลงจากเตียงนอนกว้าง  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม