ตอนที่ 4 (เช็คสมอง)
“นังเจนเล่ามาเลยมึงอย่าได้คิดปิดเชียว”ฉันนั่งยิ้มร้ายให้กับความอยากรู้ของยัยทราย ที่แทบจะกระโจนมาง้างปากฉันอยู่แล้ว
“ เอ้า ชนแก้วก่อนมึง ”หึยัยซานิก็อีกคนอย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้นะว่ามันจะมอมเหล้าพอฉันเมามันก็จะให้ฉันเล่า แต่ยังก่อนค่ะเจนไม่พร้อม ขอเล่นตัวอีกสักนิดเถอะนะการที่เป็นคนสำคัญมันก็ดีแบบนี้แหละ
“ พอ ๆ พวกแกอย่าคิดจะมอมฉันเลย แหมทำเป็นเอาเหล้ามาล่อแล้วจะให้แม่คาบตะขาบไม่มีทางย่ะ”
“ งั้นแกก็มโนแล้วเจน ”
“ เฮ้ย..แต่ไม่แน่นะเว้ย เมื่อวันก่อนมันไปดินเนอร์กับบอสสุดหล่อมันอาจจะลากคุณมาร์ตินไปกินแล้วจริง ๆ ก็ได้ ”
“ ว้าวว...ซ่านังเจนเป็นไงวะคุณบอสแซ่บไหม อ่อยมาเป็นชาติและแล้วเจนจิราของเราก็ได้แดกบอสสักที มาเรามาฉลองให้กับการเสียซิงของนังเจนกันหมด แก้ว ” เอากับมัน คิดเองเออเองเก่งเจนยอม แต่ถ้าฉันก็ยกแก้วขึ้นไปชนกับพวกมันก่อนจะสาดมันลงคอไปเกือบครึ่งแก้ว จริง ๆ ฉันคอแข็งมากนะ แต่วันนั้นเหล้าที่เขาดื่มกันมันเป็นเหล้ามาจากรัสเซียไงแล้วประเทศนี้ก็เหล้าแร้งแรง คุณอีวานน่ะหิ้วมาดื่มกับบอสโดยเฉพาะ ส่วนฉันก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย แต่เรื่องบอสเนี่ยฉันจะบอกมันดีหรือเปล่านะ แต่เอาไว้ก่อนละกันให้มันหวีดไปก่อนค่อยเฉลยทีหลัง
“ เฮ้ย ๆ เพลงนี้ ๆ แม่ขอโยก ” เสียงเพลงสากลที่ฉันชอบดังขึ้นมาและเพลงนี้ฉันก็ชอบมาก มันต้องเต้นนิ่ง ๆ แต่ยั่ว ๆ รับรองถ้าฉันลุกขึ้นเต้นเพลงนี้ถ้าไม่มีผู้มาชนแก้วฉันให้ด่าเลย
“ ว้าวว...เอ็กซ์ มากลูกสาวบดเข้าไปลูก ” เพื่อนทั้งสองของฉันก็ลุกขึ้นมาเต้นด้วยกัน กลายเป็นว่าพวกเราเต้นกันอย่างยั่ว ๆ แสงสีบวกกับท่าทางพวกฉันแล้ว โต๊ะข้าง ๆ ดับไปเลยจ้า ใครจะมาสู้ถามจริง
“ ขอชนแก้วหน่อยนะครับคนสวย ”
“ ได้ค่ะ”
“ คนสวยชื่ออะไรครับ ”
“ ชื่อคนสวยไงคะ”
นั่นไงฉันพูดขาดคำที่ไหนผู้ชายหลั่งไหลเข้ามาขอชนแก้วไม่หยุด อีตานั่นส่งสายตาสื่อความหมายมาให้ฉันไม่หยุด คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงอยากฟันฉันแน่ ๆ ขอไม่ล่ะจ๊ะฉันน่ะยั่วเยอย่างเดียวพอ ไม่ขอเยจริงนะจ๊ะ และก็เพราะอย่างนี้ไงพวกเราจึงจำเป็นต้องใช้บริการเด็กดริ๊งก์น่ะ ตัดพวกน่ารำคาญได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ
ปัง!!!!
“ กรี๊ดดดด ”
“ ว้ายยยย ”
“ หมอบลง ๆ ” ในขณะที่ฉันกำลังเต้นอย่างสนุกสนานอยู่ ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นจากทางด้านใน ผับหรูแบบนี้ไม่น่าจะมีวัยรุ่นมาตีกันได้นะแต่ว่าฉันก็ไม่เห็นจะมีใครตะลุมบอนกันเลย ฉันพยายามชะโงกหน้ายืนขึ้นไปดูเพราะความอยากรู้ในขณะที่เพื่อน ๆ ฉันก้มลงหัวแทบติดกับพื้นอยู่
“ นังเจน อีบ้าก้มลงมาเร็ว ” ยัยซานิตะโกนแข่งกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวผู้รักสนุกขึ้นมา พร้อมกับกวักมือหย็อย ๆ ให้ฉันนั่งลง
“ เดี๋ยวสิ ยังไม่รู้เลยว่าใครยิงกัน ” ฉันตะโกนตอบกลับไปพร้อมกับพยายามสอดสายตามองหาต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้
“ โอ๊ยอีเจนอีบ้า มึงจะอยากรู้อะไรขนาดนั้นก้มลงมาเดี๋ยว ” ยัยทรายก่นด่าฉันเสียงดังและยังกระตุกมือฉันไม่หยุด แต่ฉันก็สะบัดมือมันออก และจะปีนโต๊ะขึ้นไปดูให้ได้ ก็คนมันอยากรู้น่ะ
ฟิ้วว!!!
“ว้าย! ”
เสียงลูกปืนมันเฉียดฉันไปนิดเดียว ผมฉันสะบัดปลิวและเสียงมันยังก้องอยู่ในหูฉันอยู่เลย ฉันยืนตะลึงขาสั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก จะก้มจะเงย ยึกยัก ๆ อยู่อย่างนั้นแม่จ๋าฉี่เจนจะแตกแล้วจ้า ขาฉันข้างหนึ่งก็เหยียบไปบนเก้าอี้ อีกขาก็อยู่ที่พื้นถ้ามีคนมองมาคงเห็นน้องแมวตัวน้อยของฉันแน่ ๆ
“ หมอบลงสิคุณ อยากตายหรือไง ยืนนิ่งล่อเป้าอยู่ได้ประสาทหรือเปล่า ”
“ ฉะ...ฉันขาสั่นหมอบไม่ลง ”
“ ให้ตายเถอะเจนจิราคนเก่ง ตามมานี่ ”ฉันกระเด็นตามแรงฉุดของใครก็ไม่รู้ ฉันไม่รู้จริง ๆ ฉันช็อกจนไม่รู้อะไรแล้ว เฮ้ยลูกปืนนะเว้ยมันเฉียดฉันไปนิดเดียวเองนะ ฉันโดนลากออกมาและถูกจับยัดลงไปในรถก่อนที่คนตัวโตจะขับรถออกไป ฉันก็นิ่งช็อกอยู่อย่างนั้น ฉันเกือบตายนะเว้ย เกือบตายเพราะความอยากรู้อยากเห็นไม่เข้าท่าของตัวเองแท้ ๆ นี่ไงที่เขาบอกหมองู ตายเพราะงู คนเสือก ก็ต้องตายเพราะความเสือกนี่แหละเข็ดแล้วจ้า
“ เอ้า เป็นใบ้ไปเลยหรือไง หรือลูกปืนนั่นมันยิงเอาวิญญาณคุณไปแล้ว ”
“.....”
“ เจนจิรา เกลื้อหนุน คุณได้ยินผมไหม ” ฉันเริ่มได้สติตอนที่ผู้ชายคนนั้นเรียกฉันอย่างเต็มยศ เจนจิรา เกลื้อหนุน อย่างนั้นเหรอใครกันที่รู้ชื่อนามสกุลฉันขนาดนั้น และยังสำเนียงแปร่งๆ นั้นอีกฉันค่อย ๆ หันไปก่อนจะจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ อีตาฝรั่งขี้นก มาได้ยังไง
“ ฮะ..ฮ้า...คุณว่ายังไงนะคะ...เฮ้ย...อีวานมาได้ยังไง..ลงไปจากจากรถฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“ โอ๊ย..คุณอย่าตีเดี๋ยวได้รถคว่ำตายกันอยู่ตรงนี้แหละผมไม่ได้ช่วยคุณออกมาเพื่อที่จะตายตรงนี้นะ”
ฉันส่งมือไปทุบที่ไหล่ของเขาอย่างไม่พอใจ นี่แน่ะมาขึ้นรถฉันได้อย่างไร ฉันไม่อยากข้องแวะอะไรกับเขาอีกแล้วนะ ครั้งเดียวก็เกินพอถึงแม้จะแอบติดใจอยู่มากก็ตาม
“ ก็จอดสิ แล้วลงไปจากรถฉันด้วย ฉันไม่ปรารถนาจะร่วมทางกับคุณ ” ฉันกอดอกเชิดหน้าบอกออกไปอย่างหยิ่งผยอง
“ เลขาเจน ช่วยดูด้วยครับนี่มันรถผม แหกตาดูดี ๆ ” ฉันค่อย ๆ หันไปมองภายในรถอย่างละเลียดก่อนจะค่อย ๆ หันไปยิ้มแหย ๆ ให้กับคนข้าง ๆ ที่นั่งขับรถมองตรงอย่างไม่สบอารมณ์แน่ ๆ
“ เอ่อ...แฮ่ ๆ ขอโทษค่ะ เจนเมาไปหน่อย คุณคงไม่ถือสาใช่ไหมคะ ”
“ มาร์ตินมันไปหาเลขาบ้า ๆ แบบนี้มาจากไหน ผมชักจะสงสัยแล้วว่าคุณทำงานเป็นจริง ๆ หรือเปล่า ”
“ นี่คุณ อย่าคิดว่าเป็นหุ้นส่วนของบอสแล้วฉันจะไม่กล้าด่านะ” ฉันแหวออกไปอย่างไม่พอใจ ไม่มีใครเคยว่าฉันบ้านะ มีแต่คนบอกว่าฉันสวย ฉันไม่ใช่คนบ้าฉันเป็นคนสวยเข้าใจซะใหม่ด้วย
“ พอ ๆ อย่าเพิ่งด่าเลยลงมาก่อนเถอะ ให้หมอตรวจเช็คสมองสี่ขวบของคุณด้วยเลยมาแล้วก็ทำให้เสร็จทีเดียวไปเลย ”
“ อีตาบ้า ฉันไม่ได้บ้านะพาฉันมาหาหมอทำไม ฉันจะกลับคอนโด ” ฉันหันไปมองสถานที่ ที่อีวานพาฉันมา ฉันโมโหจนควันออกหูอยากจะทุบอีตาฝรั่งนี่ให้ตาย จะไม่ให้โมโหได้ไงอีตาบ้านี่พาฉันมาโรงพยาบาล ฉันหันไปทุบกำปั้นรัวไปที่ตัวเขาไม่ยั้ง
“ โอ๊ย!! คุณ มาตีผมทำไม ”
“ ยังจะมาพูดอีก คุณพาฉันมาตรวจสมองไม่ใช่หรือไงฉันไม่ได้บ้านะ”
“ จะบ้าเหรอ ผมบอกว่าให้คุณตรวจสมองด้วย หลังจากที่คุณทำแผลบนหน้าคุณเสียก่อน ไม่มาหาหมอนี่ไม่กลัวเสียโฉมหรือไงยิ่งขี้เหร่ ๆ อยู่ด้วย ” ฉันเอามือจับไปที่หน้า ก่อนจะรู้สึกว่าเริ่มเจ็บ ๆ อยู่บ้าง หน้าฉันมันเหนอะหนะเหนียว ๆ แปลก ๆ ฉันค่อย ๆ เอามือลูบบริเวณโหนกแก้มและเอามือมาดู
“ กรี๊ด.....เลือด...อ้ายย...โอ๊ย!!! ตายแล้ว...ฉันโดนยิง ฉันจะตายแล้วฉันเพิ่งเคยเสียตัวครั้งเดียวเองนะฮื้อ...ฉะ...ฉัน...อะ”เจนจิรากกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเสียจนอีวานตกใจ ชายหนุ่มไม่เคยเจอใครที่โอเว่อร์ขนาดนี้มาก่อน ร้องเสร็จหญิงสาวก็เป็นลมคอห้อยอยู่ในรถของเขา อีวานปลดเข็มขัดออกก่อนจะเดินไปอุ้มหญิงสาวเข้าไปทำแผลที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลต่อไป