ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็คงบุกเข้าไปกระชากคนทั้งสองออกจากกัน แล้วก็อาละวาดหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปแล้ว แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้น
คุณสองมาส่งฉันที่คอนโดฯ ได้สักพักแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังนอนดูคลิปวิดีโอที่แอบถ่ายเอาไว้ ดูภาพแฟนตัวเองกะหนุงกะหนิงกับผู้หญิงอื่น ที่มองยังไงก็ไม่ใช่แค่เพื่อนกันหรือพี่น้อง จู่ๆ น้ำตาฉันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ฉันโทรหาบาส เขารับสายฉัน พูดคุยกับฉันปกติดีทุกอย่าง ฉันอยากถามเขาให้รู้แล้วรู้รอดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่แล้วก็เก็บปากเงียบ ฉันอยากถามต่อหน้าเขา อยากสบแววตาของเขาเวลาตอบคำถามฉัน
เมื่อคืนฉันหลับไปตอนไหนก็รู้ หลับคาชุดทำงานนั่นแหละ ฉันตื่นมาก็เกือบตีห้าแล้ว เดินไปส่องกระจกดูสารรูปตัวเอง ตาแดงบวมปูดน่าเกลียดชะมัด ฉันถอนหายใจครั้งหนึ่ง ก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน
เพื่อนที่ทำงานทักเมื่อเห็นตาบวมปูดของฉัน ฉันตอบคนพวกนั้นไปว่าเมื่อคืนดูซีรีส์แล้วอินจัดน่ะ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เชื่อฉัน นั่นคือพี่อ้อม
"ทะเลาะกับบาส? " พี่อ้อมถามฉัน ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในห้องน้ำ ฉันแค่มายืนรอพี่แกเติมหน้าเติมปากน่ะ
ฉันสบตาพี่อ้อมผ่านกระจก พลันน้ำตาก็ไหลดื้อๆ พี่อ้อมถอนหายใจ ก่อนจะกอดปลอบฉัน ฉันกอดตอบผู้หญิงตรงหน้า ที่เป็นทั้งหัวหน้างาน เป็นทั้งเพื่อนและเป็นทั้งพี่
ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่อ้อมฟังจนหมด ซึ่งพี่แกก็เป็นผู้ฟังที่ดี ตั้งใจฟังเงียบๆ ไม่เอ่ยแทรก จนฉันเล่าจบ พี่อ้อมถึงพูดขึ้นว่า
"ถ้าบาสมีคนใหม่จริงๆ ล่ะ" คำถามนี้ฉันก็คิดหาคำตอบอยู่ทั้งคืน ถ้าเขามีคนใหม่จริงๆ ฉันควรทำไงดี
บาสเป็นครั้งแรกของฉัน เป็นรักครั้งแรก แฟนคนแรกและเป็นคนแรกที่ฉันมอบความบริสุทธิ์ให้ เราทั้งคู่ต่างเป็นครั้งแรกของกันและกัน
ฉันยืนเหม่อลอย มือก็คนกาแฟไปเรื่อย จนป้าแม่บ้านเอ่ยทักเพราะเห็นยืนคนกาแฟอยู่ตรงนี้นานแล้ว ฉันยิ้มเก้อเขินให้ป้าแม่บ้าน ก่อนจะรีบนำกาแฟไปเสิร์ฟคุณสอง อ้อ ตอนนี้ฉันมีตำแหน่งใหม่แล้วนะ เลขาชั่วคราวน่ะ มาทำแทนเจน ที่ตอนนี้นอนใส่เฝือกอยู่โรงพยาบาล
"หวานชะมัด"
เสียงนุ่มทุ้มทำให้ฉันได้สติ ฉันรีบขอโทษขอโพยคุณสอง "ขอโทษค่ะ ฉันจะไปชงมาให้ใหม่"
"ไม่ต้อง วันนี้คุณดูไม่ค่อยมีกระจิตกระใจจะทำงานเลยนะ"
ฉันหลุบตาต่ำไม่กล้ามองหน้าคุณสอง "ขอโทษค่ะ"
"คุณเอาแต่ขอโทษๆ ผมเบื่อจะฟังแล้ว เมื่อเช้าคุณพิมพ์รายชื่อลูกค้าตกหล่น โทรหาลูกค้าผิดคน นัดวันก็ผิด มั่วไปหมด เรื่องง่ายๆ แค่นี้คุณไม่ควรทำผิดพลาดซ้ำๆ ผมไม่รู้ว่าคุณมีปัญหาอะไรนะ แต่ก็ควรแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวด้วย"
แล้วฉันโดนคุณสองตำหนิอยู่ครู่หนึ่ง วันนี้ฉันทำงานพลาดหลายอย่างจริงๆ แหละ แม้กระทั่งงานง่ายๆ
ฉันเลิกงานกลับถึงคอนโดฯ ก็เกือบทุ่มหนึ่ง เพราะต้องอยู่สะสางงานที่ตัวเองทำผิดพลาด ตอนฉันกลับคุณสองยังอยู่ที่ทำงานอยู่เลย
"มาแล้วเหรอคะ ช้าจังวันนี้" เสียงบาสดังขึ้นจากครัว ไม่แปลกใจที่เห็นเขาอยู่ที่คอนโดฯ ฉัน เพราะฉันเอาคีย์การ์ดให้เขาไว้ชุดหนึ่งและวันนี้ก็เป็นวันศุกร์
ฉันถอดรองเท้าเก็บเข้าตู้ เดินเอากระเป๋าไปเก็บในห้องนอน ก่อนจะเดินเข้ามาหาเขา บาสสวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนน่ารัก เขามองมาที่ฉันแล้วยิ้มอย่างอบอุ่น แล้วภาพวันนั้นก็แล่นเข้ามาในโสตประสาท
รอยยิ้มแบบนี้...เขาก็ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น
"งานไม่เสร็จน่ะ"
"มากอดหน่อย คิดถึงจัง" บาสกางแขนกว้าง มือข้างหนึ่งยังถือตะหลิว ฉันเดินเข้าไปหาเขาด้วยความคุ้นชิน แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้า
"ขอโรสอาบน้ำก่อนนะ วันนี้เหนียวตัวจะแย่"
บาสเอียงคอมองฉันอย่างงงๆ "ได้ครับ รีบอาบนะ จะได้ออกมากินข้าวกัน บาสทำของโปรดไว้ให้โรสด้วยนะ"
"อื้อ" ฉันหันหลังรีบเดินออกมา คว้าเอาผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำ ฉันนั่งลงบนชักโครกอย่างคนหมดแรง ก่อนจะร้องไห้คนเดียวเงียบๆ
ฉันอาบน้ำเสร็จ ก็พอดีกับที่บาสตั้งโต๊ะเสร็จเหมือนกัน อาหารบนโต๊ะฝีมือบาสทั้งนั้น มื้อค่ำนี้มีข้าวผัดปูเนื้อแน่น น้ำซุปร้อนๆ ไว้ซดให้คล่องคอ แล้วก็ผัดผักบุ้ง
ฉันเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง มองบาสที่กำลังบริการฉันอย่างเต็มที่ เขาตักเนื้อปูในจานตัวเองให้ฉัน ฉันได้แต่เอ่ยขอบคุณเขาเสียงเบา
"โรสดูเครียดๆ นะ ที่ทำงานมีปัญหาเหรอ" บาสถามหลังมื้อค่ำเสร็จสิ้น เขาเก็บจานไปไว้ในซิงก์ล้างจาน เปิดตู้เก็บของด้านบนแล้วหยิบแก้วมาสองใบ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบไวน์มาขวดหนึ่ง ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเท้าคางมองบาสที่กำลังรินไวน์ใส่แก้วให้ฉันแล้วก็ตัวเอง
"อืม วันนี้โดนตำหนิเรื่องงานนิดหน่อยน่ะ"
"คนเราผิดพลาดกันได้ โดนตำหนิบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา บาสก็เคยโดน เพราะงั้นโรสก็อย่าคิดมากไปเลยนะคะคนเก่ง" เขายื่นมือมาลูบหัวฉันพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนจะเลื่อนแก้วไวน์ทรงสูงมาตรงหน้า
ฉันยกไวน์ขึ้นจิบ พอมองหน้าเขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรแล่นขึ้นมาจุกอก "บาส..." ฉันรอเวลาหลังมื้อค่ำของเราเสร็จนี่แหละถึงจะเอ่ยปากพูดเรื่องสำคัญ
บาสละสายตาจากมือถือมองหน้าฉันทันที "ว่าไงคะ"
"โรสอยากแต่งงานแล้ว เรื่องสินสอด...พ่อแม่โรสท่านหัวสมัยใหม่ ท่านไม่ถือเป็นเรื่องสำคัญหรอก ไม่มีก็ไม่เป็นไร" ฉันลอบสังเกตสีหน้าเขา แล้วฉันก็เห็นความตกใจพาดผ่านแววตาคู่นั้น "สี่ปีที่เราคบกันมาก็นานอยู่นะ นิสัยเราก็เข้ากันได้ดีทุกอย่างไม่ใช่เหรอ ถ้าบาสห่วงเรื่องงาน โรสลาออกจากที่เก่าแล้วหางานใหม่แถวบ้านบาสก็ได้นะ"
บาสยกไวน์ขึ้นจิบ เขาดู...อึดอัดระคนตกใจที่ฉันเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมากะทันหัน
"ไม่ใช่ไม่อยากแต่งนะ บาสทำงานได้แค่สองปีเอง ยังตั้งหลักไม่ได้เลย เงินดาวน์บ้านสักหลังไว้เป็นเรือนหอยังไม่พอเลย ไหนจะค่าจัดงานอีก บาสยังอยากหาเงินอีกนิด"
"ไม่ต้องมีพิธีก็ได้ แค่บอกพวกผู้ใหญ่ ผูกข้อไม้ข้อมือ แล้วก็จัดงานเลี้ยงเล็กๆ ภายในครอบครัว ส่วนเรื่องบ้าน...เราช่วยกันกู้ก็ได้นี่"
"เราแต่งงานกันทั้งที บาสอยากทำมันให้ดีที่สุด อยากให้โรสเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด โรสเคยบอกบาสว่าอยากใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ กระโปรงฟูฟ่องเหมือนเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอ" เขาสบตาฉันจริงจัง ที่เขาพูดออกมาทั้งหมดนั่นก็จริง ฉันเคยบอกกับเขาอย่างนั้น ผู้หญิงทุกคนก็ฝันอยากสวมชุดเจ้าสาวสวยๆ
...แต่ฉันรู้ดีว่าตอนนี้เขาพยายามบ่ายเบี่ยงอยู่ต่างหาก เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะแววตาเขามันฟ้องยังไงล่ะ
"โรสไม่อยากสวมชุดแต่งงานแล้ว ไม่อยากจัดงานด้วย จัดไปก็เปลืองเงินเปล่าๆ สู้เก็บไว้ทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ ...หรือว่าที่จริงบาสไม่อยากแต่งกับโรสแล้ว?"
ถามจบฉันก็เจ็บเอง เพราะว่าฉันรักเขาไงล่ะ ฉันไว้ใจเขา เขาคือทุกอย่างสำหรับฉัน