“กรี๊ด! อย่าค่ะ พอแล้วค่ะ พอแล้ว”
เสียงกรีดร้องและร้องขอดังมาจากบ้านไม้สีขาวหลังเล็ก ที่อยู่ในอาณาเขตของบ้านสุวรรณเจริญ เสียงนั้นบอกให้คนที่ได้ยินรู้ว่ากำลังเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายและไม่มีหนทางต่อสู้ มันเป็นภาพและเสียงที่ชาชินสำหรับคนในบ้านหลังนี้ แล้วเสียงนี้ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวทิ้งของในมือ เปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งเข้าไปในบ้านที่ตนเองอาศัยมาตั้งแต่เกิด
“คุณพ่อ” ญาตาวีตะโกนเรียกชื่อคนที่กำลังฟาดฝ่ามือลงบนแก้มของผกากรองผู้เป็นมารดาเสียงหลง ก่อนจะวิ่งไปยังร่างของคนที่ถูกทำร้าย “คุณพ่ออย่าทำแม่ของตาเลยนะคะ ตาขอร้อง ฮือ”
ผู้ร้องขอกอดมารดาแน่น หันมาขอร้องรณชัยที่ใช้มือผลักร่างลูกสาวคนเล็กให้ออกห่างร่างผกากรองภรรยาน้อย แล้วกระชากร่างของสตรีไร้หนทางสู้เข้ามาใกล้ตัว ฟาดฝ่ามือลงซีกแก้มของอีกฝ่ายสองครั้งติด
“โทษฐานที่มึงกล้าขัดคำสั่งกู” รณชัยพูดเสียงเหี้ยม ย้ำฝ่ามือลงบนแก้มของผกากรองอีกครั้งจนเกิดเสียงเผียะสามครั้งติดกัน
“เอามันให้หนักเลยค่ะคุณพ่อ ตบมันเลย มันกล้าขัดคำสั่งคุณพ่อ อย่างนี้ต้องลงโทษให้หนัก”
รัตนามณีทำตัวเป็นลูกคู่สนับสนุนการกระทำของบิดา ไม่นึกสงสารผกากรองแม้แต่น้อย เธอมีแต่ความสะใจ สาแก่ใจเท่านั้น
แต่สำหรับญาตาวีไม่ใช่ เธอไม่อาจนิ่งดูดายมองดูบิดาทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองได้ หน้าที่ของเธอคือปกป้องดูแลผู้เป็นแม่ ญาตาวีคลานเข้าไปกอดขาบิดา ร้องไห้อ้อนวอนรณชัย
“คุณพ่อขา อย่าทำแม่ของตาเลยนะคะ ทำตาแทนนะคะคุณพ่อ ฮือ”
“ก็แม่ของแกมันดื้อรั้น ฉันขอให้แกช่วยอะไรฉันนิดหน่อยแค่นี้ทำเป็นช่วยไม่ได้ อย่างนี้มันน่าตบสั่งสอนไหมล่ะ”
รณชัยชัยกล่าวอย่างเดือดดาล สะบัดขาออกจากอ้อมแขนน้อยๆ ของลูกสาวคนเล็กที่เขาไม่คิดจะดูดำดูดี ไม่คิดอุ้มชูเหมือนรัตนามณี ทว่าญาตาวีก็กอดขาข้างนั้นของบิดาไว้แน่น
“คุณพ่อจะให้ตาทำอะไรคะ บอกตามาได้เลย ตายอมทุกอย่าง ฮือ...แต่อย่าทำแม่เลยนะคะ ฮือ...ตาขอร้อง”
ญาตาวียอมทำตามที่รณชัยบอกทุกอย่าง ขอเพียงข้อเดียวเท่านั้นคืออย่าทำร้ายแม่ของเธอ แล้วคำพูดของญาตาวีก็ทำให้รณชัยยิ้มสมใจ
“ฉันจะไม่ทำร้ายแม่ของแก” รณชัยพูดเสียงเรียบทว่าเย็นเฉียบ “ถ้าแกทำตามที่ฉันบอก”
“ค่ะ ตายอมค่ะ ตายอมทุกอย่างค่ะคุณพ่อ” ญาตาวีเงยหน้าบอกบิดาที่ก้มลงมามองหน้าเปื้อนน้ำตาของลูกสาวคนเล็กด้วยสายตาว่างเปล่า
“แน่นะ แกรับปากฉันแล้วนะ” รณชัยถามย้ำ
“อย่านะตา อย่ารับปากคุณพ่อนะลูก”
แม้ว่าเจ็บปวดจากการถูกทำร้าย แล้วรู้ดีว่าหากเอ่ยประโยคนี้ออกไป ผลตามมาคืออะไร ทว่าผกากรองจำเป็นต้องพูด ไม่เช่นนั้นคนที่เสียใจที่สุดไม่ใช่ใคร คือตัวนางเอง
เป็นไปตามความคิดของผกากรอง จบคำพูดของนางฝ่ามือรณชัยก็ฟาดลงบนแก้มนางฉาดใหญ่
“อย่ามาทำปากมากให้เสียเรื่องนะเดือน ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าพูดมาก”
“คุณพ่ออย่าทำแม่ค่ะ อย่าทำแม่”
ญาตาวีโผเข้าไปกอดร่างของมารดาไว้แน่นเมื่อเห็นนางถูกทำร้าย เวลานี้ผกากรองหาได้กลัวว่าตนเองจะถูกทำร้ายให้บอบช้ำทางร่างกาย คนที่นางเป็นห่วงมากที่สุดคือญาตาวี ที่กำลังถูกพ่อบังเกิดเกล้านำพาไปสังเวยกามให้กับราชสีห์แลกกับเงินมหาศาลที่รณชัยจะได้รับ
“คุณชัยขา คุณชัยอย่าทำกับตาอย่างนั้นเลยนะคะ เดือนขอร้อง จะตบตะตีเดือนยังไงก็ได้ แต่อย่าให้ตาไปตกนรกเหมือนกับที่เดือนเจอเลยนะคะ” ผกากรองคลานมากราบแทบเท้าสามี อ้อนวอนทั้งน้ำตา นางไม่ต้องการให้ญาตาวีมีสภาพเดียวกับนาง
“แกต้องการอย่างนั้นจริงๆ เหรอเดือน ถ้าแกต้องการอย่างนั้นฉันก็จัดให้” รณชัยคำรามเสียงดัง โกรธที่สองแม่ลูกไม่ได้ดังใจ
“ถ้ามันอยากเจ็บตัวก็จัดให้มันเลยค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวหญิงจะช่วยเองค่ะ”
รัตนามณีไม่ห้ามปรามบิดา ยังจะสนับสนุนและเห็นดีเห็นงามด้วย เธอตรงเข้าไปดึงรั้งร่างของน้องสาวให้ออกห่างร่างของผกากรอง เพื่อที่บิดาจะได้จัดการกับภรรยาน้อยได้อย่างถนัด
“คุณพ่อขา พี่หญิง อย่าทำแม่ของตาเลยนะคะ คุณพ่อจะให้ตาทำอะไรบอกตามาเลยค่ะ ตาทำทุกอย่าง อย่าทำร้ายแม่ของตาเลยนะคะ ฮือ”
ญาตาวีพยายามดิ้นรนออกจากการเกาะกุมของพี่สาว แต่ความที่เธอตัวเล็กและผอมบางทำให้ไม่อาจเข้าไปช่วยมารดาที่กำลังถูกบิดาทำร้ายได้
“แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง ให้ที่อยู่ที่กินยังไม่นึกถึงบุญคุณของฉัน ยังจะมีหน้ามากำเริบดื้อดึ้งไม่ทำตามที่ฉันบอก วันนี้แกได้ตายคามือฉันแน่เดือน” ทุกประโยคที่รณชัยพูดจบท้ายด้วยกันตบใบหน้าของอีกฝ่าย
ผกากรองทำตัวเป็นเป้านิ่งให้สามีซ้อมตามอำเภอใจ นางไม่ดิ้นรน ไม่ขัดขืน นางยอมเจ็บยอมทนทุกอย่างเพื่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง เพื่อสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของนาง
ญาตาวีน้ำตาไหลพรากที่ต้องทนเห็นมารดาถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แน่นอนที่ว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มารดาโดนทำร้าย มันเป็นภาพที่เธอเห็นนับครั้งไม่ถ้วน เห็นครั้งใดใจเจียนสลาย เจ็บปวดที่ไม่อาจช่วยเหลือผกากรองได้ และต้องทนเห็นภาพที่เกิดขึ้นไปอีกนานแสนนาน ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อใด