หัวใจของหลันหยาเต้นรัว ซุนโหวใช้ลิ้นทาบเลียปุ่มเกสรอย่างโหยหา เขาย่อมรู้ว่าเป็นนางที่มาแอบดู เขาต้องการกระตุ้นอารมณ์ของหลันหยา ให้นางเห็นว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด
“อูย ข้าเสียว พอเถิด ขะ ข้าจะกลับแล้ว”
ก้นของนางลอยขึ้น ทั้งยังแบะขาออกกว้างแม้จะบอกให้เขาพอแต่กิริยาที่แสดงออกนี้กลับยั่วเย้าจนเขาต้องฝังใบหน้าลงไป
“มาแอบดูข้าเพราะต้องการปลดปล่อย แล้วยามนี้จะกลับได้อย่างไร”
“ผะ ผู้ใดแอบดูเจ้าและอยากปลดปล่อยกัน ปล่อยข้า อย่ามาล้อเล่นกับข้า”
ถึงจะบอกให้ปล่อย แต่กลับแอ่นเนื้อหวานให้เขาดูดกิน
“อย่าปากแข็งเลยขอรับ ข้าจับท่านได้แล้ว น้ำหวานไหลเยิ้มมากเพียงนี้ ยังแต่งกายเช่นนี้มาอีก เป็นอาภรณ์ที่บางมากเพียงแค่แตะลิ้นก็เปียกชื้นเสียแล้ว อา ยั่วกำหนัดข้าจนข้าทนไม่ไหวแล้ว”
“พอเถิด ข้า ข้า อื้อ”
แคว่ก!
เมื่อบอกว่าทนไม่ไหว ซุนโหวก็ใช้สองนิ้วเกี่ยวผ้าเนื้อบางแล้วฉีกให้ขาดออกทันใด
“อ้ะ เจ้าทำสิ่งใด”
“ในเมื่อแต่งกายมายั่วข้า เช่นนี้ก็ให้ข้าได้กินเต็มปากเถิด”
“มิใช่เช่นนั้น ปล่อยข้า เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”
“แล้วที่น้ำเยิ้มเช่นนี้เป็นเพราะสิ่งใดกัน เป็นเพราะแอบดูข้าหรือ หลันหยาจึงน้ำเยิ้มเพียงนี้ อ้ะ เหมือนน้ำจะแตกไปแล้วด้วย อ้า ขอชิมหน่อยได้หรือไม่”
ไม่รู้ว่านางจะตกใจสิ่งใดก่อน ระหว่างที่เขารู้ว่านางมาแอบดู และที่เขาเรียกนางว่าหลันหยา
กระทั่งท่านแม่ทัพยังไม่เคยเรียกชื่อของนางเช่นนี้ ซุนโหวคือบุรุษที่นับเป็นรุ่นน้อง เขาอายุยี่สิบห้าปีในขณะที่นางอายุสามสิบห้าปีแล้ว
แค่ความอาวุโสเรื่องอายุเขาก็ไม่ควรเอ่ยนามของนางออกมาตรง ๆ แล้ว
ทว่าน้ำเสียงเร้าใจของเขากลับทำให้นางรู้สึกชื่นชอบชื่อของตนเองที่สุดในชีวิต
“จะ เจ้า อ้า เรียกข้าว่าอย่างไร ซี้ด ลิ้นของเจ้า อ้า ยะ หยุด ซี้ด เจ้าทำให้ข้า สะ เสียวแล้ว”
“หลันหยาของข้าดูสิน้ำหวานไหลเยิ้มไปหมดแล้ว กลิ่นน้ำรักหอมหวานลื่นลิ้น อา อร่อยยิ่งนัก”
นิ้วสากเขี่ยปุ่มสวาทของนางแรง ๆ หลันหยาถึงกับสะดุ้ง ร้องลั่น
“อ้า ซุนโหวเจ้าพอเถิด หยุดเถิด ข้ามิได้ตั้งใจจะยั่วเจ้า ปล่อยข้าเถิด”
“อยากไปจริง ๆ หรือ หื้ม อา หากข้าไม่ยอมปล่อยแล้ววันนี้หลันหยาจะทำเช่นไร”
ขาของนางสั่นระริก ซุนโหวกลับเป่าลมร้อนแล้วตวัดเลียพูเนื้อที่ปลิ้นออกมาจากด้านหลัง ลิ้นของเขาปาดนาบไปทั่วกลีบฉ่ำเยิ้ม
“อ้า ซี้ด ข้าไม่ไหวแล้ว อื้อ”
หลันหยาส่งเสียงครางจนแทบใจจะขาด นางไม่ได้พบเจอลิ้นชำนาญเช่นนี้มานานมากแล้วตั้งแต่สามีไปออกศึก
นางส่ายก้นยั่วยวนเขาในยามที่ซุนโหวกระแทกลิ้นเข้าไปด้านในรูสวาทซ้ำ ๆ
“อ้า อร่อยยิ่ง ไม่คิดว่าจะหอมหวานอร่อยเพียงนี้”
หลันหยามิใช่สตรีไร้เดียงสา นางอายุไม่ใช่น้อยแล้วสามารถนับเป็นท่านย่าได้เลยด้วยซ้ำ
ถึงปากจะร้องว่าอย่าแต่กิริยาท่าทางที่แอ่นหยัดกลีบดอกไม้งามให้เขากลืนกินก็ยั่วเย้าจนไม่อาจห้ามใจได้
ลิ้นของเขาลากเลียเข้าไปในรูหวานสัมผัสได้ว่าภายในตอดรัดแน่นเพียงใด
เสียงครางของหลันหยายังกระตุ้นอารมณ์ดิบของเขาให้พุ่งทะยาน เขาต้องการทำให้นางมีความสุขและครางเรียกขานนามของเขาในค่ำคืนนี้
นิ้วของเขาแหวกกลีบของนางให้อ้าออก แล้วสอดเข้าไปภายในลึกล้ำขึ้น หลันหยาขมิบรัดลิ้นเอาไว้พร้อมกับเด้งสะโพกบดเข้าไปเบา ๆ
“ซี้ด อา เสียวเหลือเกิน อูย”
เพียงแค่เจอลิ้นร้อนนางก็เสียวจนกลีบสะท้าน หากเป็นแท่งหยกของเขานางคงจะตาลอยเหมือนสตรีนางนั้นเป็นแน่
จู่ ๆ เขาก็ดึงเสื้อคลุมกายของนางลงมาปกปิดแล้วช้อนร่างของนางขึ้นมา
“ว้าย”
“ทำให้หลันหยาลำบากแล้วที่ต้องใช้เตียงสกปรกของข้า”
“หยุดนะ เจ้าบาดเจ็บอยู่ แขนของเจ้า”
“บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยหลันหยาไม่ต้องห่วง ข้าหายดีแล้ว”
ซุนโหวสวมเพียงเสื้อคลุมกายออกมาด้านนอก เขาไม่ฟังเสียงของหลันหยายังอุ้มนางเข้ามาในเรือน แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดเสียงดังปัง
“ปล่อยข้าเถิด ข้าไม่อยากสวมหมวกเขียว[1]ให้ผู้ใด”
ซุนโหวยังคงคิดถึงนางก่อนเสมอ
“หากข้ามิได้ล่วงเกินสอดใส่ เช่นนั้นนับว่าเป็นการสวมหมวกเขียวหรือไม่”
“ขะ ข้า”
แน่นอนว่านางต้องการเขา และขณะเดียวกันนางยังคงมีสำนึกผิดชอบชั่วดี
“ข้าแค่ต้องการช่วยท่านเพื่อปลดปล่อย”
จากนั้นเขาจึงวางนางลงบนเตียง จับสองขาของนางให้แยกออกกว้าง ฉีกเนื้อผ้าบางให้ขาดยิ่งกว่าเดิม
“ข้าจะไม่เข้าไปในกายของหลันหยาจนกว่าท่านจะยินยอม”
กล่าวจบปากอุ่นร้อนของเขาก็ซบนาบลงมา ฝังใบหน้าคลึงเคล้ากลีบเนื้อสาว พร้อมทั้งใช้สองนิ้วแยกเนื้อออกให้กว้าง
เม็ดเสียวสีแดงฉ่ำปรากฎอยู่เบื้องหน้า เขาครางเล็กน้อยแล้วสอดลิ้นลึกเข้าไปทาบเลียอย่างอร่อย
“อ้า ซี้ด เสียว อื้อ เสียวมาก”
หลันหยาครางกระเส่า นางทนไม่ไหวจนต้องรับลิ้นของเขาที่เลียแยงเข้ามาแล้ว
สำนึกผิดชอบชั่วดีบัดนี้ขาดสะบั้น
นางเด้งสะโพกเข้าหาลิ้นของเขาอย่างตั้งใจ มือข้างหนึ่งปลดสายรัดเสื้อคลุมให้เปิดออกจากนั้นก็ดึงออกจากร่างกายของตนเองอย่างรวดเร็ว
ลิ้นของเขาปาดเลียไปทั่วพูกลีบ แยงเข้าไปในร่องรักด้านหน้า เลียปาดยาวมาถึงรูจีบด้านหลังจากนั้นก็กลับไปตวัดดูดติ่งเสียวอีกครา
แผ่นหลังของหลันหยายิ่งแอ่นหยัด สองมือของนางเกาะกุมเต้านมของตนเอาไว้ทั้งคลึงอย่างแรง
นางเสียวไปทั้งร่าง ไม่คิดว่าเขาจะเก่งกาจเพียงนี้ ฟันของเขาครูดเนื้อของนางเบา ๆ ทว่ากลับส่งผลอันรุนแรงต่อนาง
“ซี้ด อ้า”
นางกรีดร้องครางรุนแรง ร่างน้อย ๆ กระตุกไปทั้งร่าง ร่องหวานที่ซุนโหวโหยหาในที่สุดเขาก็ได้ครอบครองด้วยปากและลิ้นของเขาแล้ว
เขานอนหงายแล้วร้องขอเสียงแหบสะท้าน
“ขึ้นมาคร่อมบนปากข้า ข้าจะทำให้ท่านหลั่งน้ำหวานออกมา มาควบลิ้นของข้าเหมือนที่ท่านควบอัคคีเพลิง”
นางถูกเขาดึงมือให้ลุกขึ้น หลันหยาบังเกิดความกระหายอยากอย่างรุนแรง
นางขยับตามคำของเขา ใช้สองนิ้วแหวกกลีบเนื้อออกจากกัน แล้วขย่มลงมาที่ลิ้นของซุนโหวที่อ้าปากรับเอาไว้
เมื่อรูสวาทถูกขยาย ลิ้นที่ถูกเกร็งแหลมแยงเข้าไปในรูรัก หลันหยาก็เริ่มต้นควบขี่เขา
“อ้าย เสียวยิ่ง ซี้ด”
นางขย่มลิ้นของเขาเร็วขึ้น ควบทะยานม้าในจินตนาการขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ทั้งบดทั้งส่ายกลีบอวบไปมา
นางขยับบดเบียด ให้ลิ้นของเขาเหย่อเข้ามาในร่องหวานนางขมิบช่องทางรักกระทั่งภายในตอดนิ้วเขาระรัว
“อ้า หวานยิ่ง”
“ซี้ด ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าจะแตกแล้ว”
“ปล่อยออกมาหลันหยา ปล่อยน้ำหวานของเจ้ามาให้ข้าได้กิน”
หลันหยากอบกุมเนื้อของตนเองเอาไว้ ในยามที่นางเย่อกับลิ้นของเขานิ้วมือข้างหนึ่งของเขาก็ยังบดบี้ติ่งเสียวของนางอย่างแรง
“อ้า บดเม็ดเสียวของข้า อ้าแรงขึ้น เสียว ซุนโหว บดเม็ดแรง ๆ ซี้ด”
และเมื่อความเสียวซ่านอย่างรุนแรงบังเกิด หลันหยาร้องครางสุดเสียง นางหลับตาเมื่อกระสันเสียววาบหวามกระทั่งนางเกร็งตัว ปลดปล่อยน้ำหวานให้แตกคาปากของซุนโหว
ใบหน้าของเขาเปื้อนเลอะไปด้วยน้ำของนาง เขาเลียริมฝีปากมิได้เช็ดออก
“อา ช่างหวานเสียจริงหลันหยาของข้า”
หลันหยากดพูเนื้อลงบนลิ้นของเขาอีกครั้ง ซุนโหวจับสะโพกของนางเอาไว้แล้วตวัดเลียน้ำหวานไม่ปล่อยให้หลงเหลือแม้แต่หยดเดียว
“อืม ข้าเสียวอีกแล้ว อ้ะ ซี้ด ซี้ด จะแตกอีกแล้ว”
สะโพกของนางแอ่นลอยขึ้นอีกครั้งเมื่อโดนปากของเขาดูดตอดและเลียวน
“ปล่อยมันออกมาอีกครั้ง ปล่อยออกมาให้ข้ากลืนกิน น้ำหวานของเจ้าอร่อยยิ่งนัก”
เขาปาดเลียแนบชิด กวาดไล่ต้อนดูดซับความฉ่ำเยิ้ม บดเนินเนื้อสาวรับกับลิ้นที่ตวัดเลีย ร่างกายของนางสั่นสะท้านอีกครั้งเมื่อควบขี่บนปากของเขาจนน้ำหวานไหลพุ่งแตกออกมา
“ซี้ด เสียว อ่อย ซุนโหว อ้า”
นางยังคงบดเนินเนื้อลงบนลิ้นของเขา ปล่อยให้เขาใช้ลิ้นแนบเลียคล้ายจะทำความสะอาดพูกลีบสีแดงฉ่ำ
จากนั้นเขาจึงขยับลุกขึ้น เอ่ยกับนางแผ่วเบา
“กินน้ำของเจ้าที่อยู่บนหน้าข้าสิ จะได้รู้ว่าหวานเพียงใด”
นางไล้เลียใบหน้าของเขา ซุนโหวแลบลิ้นออกมารับลิ้นของนาง ต่างฝ่ายต่างแนบลิ้นลูบไล้แลกจูบกันอย่างดูดดื่ม
ซุนโหวถอดเสื้อคลุมของตนเองออก เปิดเผยแท่งหยกขนาดใหญ่ของเขาที่ทำให้คนเสียวสะท้าน
“มันต้องการท่าน แต่ข้าสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินเข้าไปในร่องสวาทของท่าน เช่นนั้นให้ข้าดูดนมของท่านระหว่างรูดคลึงแท่งหยกได้หรือไม่”
คำขอร้องของเขาทำให้นางเสียวสะท้าน นางเลียปากก่อนจะเอ่ยว่า
“อย่างไรข้าก็กลายเป็นนางแพศยาไปแล้ว เจ้าทำให้ข้าผ่อนคลายยิ่ง ถือว่าข้าช่วยตอบแทนเจ้าก็แล้วกัน”
จะมีบุรุษใดที่เป็นสุภาพชนเพียงนี้ แม้ว่านางจะยินยอมอยู่บนเตียงของเขาทว่าเขากลับไม่คิดเอาเปรียบนางเลยแม้แต่น้อย
หลันยาจึงนั่งยืดตัวตรง ออกคำสั่งเสียงหวาน
“ในเมื่อเจ้าชอบฉีกอาภรณ์นัก เช่นนั้นก็ฉีกผ้าผืนนี้ตรงถันของข้าสิ ข้าจะป้อนนมเจ้าเอง”
[1] สำนวนสวมหมวกเขียว คือ มีความหมายว่า ภรรยามีการคบชู้ หรือภรรยานอกใจ