EP6 - เรื่องบานปลาย

2009 คำ
6 - เรื่องบานปลาย ก่อนวันแข่งขันรอบที่สอง : ไอ้แดงนะมันมั่นใจตัวเองเกินไป สงสัยอยากไปหาผู้ชายผ่านจอมากกว่าไปแข่งขันในรายการดังอีก เชื่อไหมถ้ามันดัง ผู้ชายก็ชอบมันเยอะ แดงนั่งอ่านข้อความเหล่านี้แล้ว บอกเลยว่ามันทำให้บั่นทอนหัวใจผมมากกว่าเดิม ผมห้ามความคิดใครไม่ได้แต่ถ้าให้ปากมีสีแดงได้ ผมทำให้ได้ทันที โดยเฉพาะคนอย่างเมธัส ผมไม่เข้าใจว่ามันต้องการดับฝันผมไปเพื่ออะไร หรือมันมีปมด้อยอยากทำอะไรสักอย่าง แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างทำให้มันทำตามฝันไม่ได้ ผมไม่สนใจมัน มันจะพ่นคำหยาบคำมีพิษให้คนในกลุ่มห้องฟังก็แล้วแต่ ทุกคนรำคาญก็ปิดหนีไปเอง แต่มันก็มีพวกของมันต่อให้พูดอะไรมันก็รวมหัวกันถล่มผมอยู่แล้ว : มันน่ะอาจจะขายก็ได้ วัยนี้สมัยนี้ผู้ชายอยากรวยทางลัดก็มี ผมชักทนไม่ไหวอยากรัวข้อความตอบกลับใส่มัน แต่ถ้าผมส่งไปตอบด้วยความหัวร้อนแล้วเกิดมันแคปข้อความไปปล่อยให้คนในโลกออนไลน์เห็น ผมจะเสียชื่อเสียงแค่ไหน เพราะตอนนี้ผมเหมือนเป็นคนสาธารณะไปแล้วมีชื่อเสียงและคนนพูดถึงจากรายการ VOCAL ถ้าผมเผลอทำอะไรไม่ดีต่อให้เป็นฝ่ายถูก กระแสสังคมมันแรง ต่อให้อธิบายแต่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจ : ไอ้แดงมันขายน้ำเต้าหู้ แล้วยังขายน้ำนมข้นในร่างกายมันด้วย “กูไม่ไหวแล้วนะ” ผมกำลังจะรัวข้อความใส่เมธัส ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมมองดูเบอร์โทรศัพท์ที่บันทึกไว้พบว่าคุณเชอร์รี่ติดต่อมา เธอต้องใจดีขนาดไหนโทรหาผมเวลานี้ ผมรับสายแล้วยังเกรงใจไม่กล้าพูดอะไรผ่านปลายสายเลย เพราะคนในสายไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว รู้จักแค่เธอเป็นกรรมการของรายการนี้เท่านั้น “ผม...” “ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเก้อเขินนะคะน้องแดง ตอนออกโทรทัศน์ออกกล้องไม่ตื่นเต้นขนาดคุยกับพี่นะคะ น้องได้อ่านเมลทางรายการแล้วนะคะ” “ครับพี่” “น้องผ่านเข้ารอบพร้อมกับน้องแมกซ์แล้วนะคะ ความสามารถของน้องทั้งสองคนผ่านตาพี่มากเลยนะคะ พี่ไม่ได้ตัดสินแบบเป็นลูกรักหรือเส้นสายนะคะ พี่เห็นความสามารถน้องจริง ๆ” ผมเข้าใจคุณเชอร์รี่เพราะเธอแสดงความจริงใจ ผมตัดสินคนตามความเป็นเด็ก ถ้านิสัยดีผมก็อยากอยู่ใกล้ แต่ถ้าเป็นพิษผมพร้อมเดินหนี เธอสละเวลาคุยกับผมจนผมพอใจและยังให้กำลังใจในการแข่งขันรอบต่อไปด้วย ผมเริ่มมีกำลังใจขึ้นมาแล้ว พรุ่งนี้ผมขออนุญาตลาโรงเรียนสักสองวัน มาอีกทีวันจันทร์แล้วกัน ผมจะได้ไปตามหาความฝันโดยไม่ทิ้งการเรียน “ขอบคุณครับคุณเชอร์รี่ที่ให้กำลังใจและซัพพอร์ตผม” : นอนยัง ผมเห็นแมกซ์ส่งข้อความมาหาผม ผมเห็นแล้วใจฟูมากเลย มีผู้ชายมาให้กำลังใจก่อนแข่งขันพร้อมกัน สงสัยพรุ่งนี้ผมต้องเอาน้ำเต้าหู้ไปฝากให้แมกซ์แล้วล่ะ อยากได้กี่ถุงก็แจกตามความน่ารักของผู้ชายคนนี้แล้วกัน : ยังคร้าบ : งั้นเดี๋ยวไปหาที่บ้านนะ จะให้แม่เราขับรถหรู ๆ มาหาเลย ผมไม่คิดเหมือนกันว่าแมกซ์มันก็เพ้อเจ้อเหมือนกันจะขับรถหรูมารับผมถึงบ้านได้ มันต้องขนาดไหนล่ะเนี่ย แต่เอาเถอะถ้าอยากมารับผม ผมก็พร้อมเปิดบ้านเพราะแมกซ์ก็ไม่ใช่คนนอกอยู่แล้ว ผมจะต้อนรับก็ได้ บางทีอนาคตเขาอาจจะเป็นของผมก็ได้ เช้าวันต่อมา “ขนน้ำเต้าหู้ขนาดนี้จะให้ผู้ชายที่ลูกชอบเหรอ” ผมเข้าไปทำอาหารเช้าเตรียมใส่กล่องไปกินที่สตูดิโอเพราะเห็นว่าถ่ายรายการตั้งแต่เช้า ผมกลัวไม่ทันก็เลยทำอาหารที่ผมชอบไปเผื่อด้วย แม่ผมแซวใหญ่เลยว่าผมจะมีผู้ชายมาชอบตั้งแต่อายุสิบสองเลยเหรอ ไฟแรงกว่าเด็กสมัยก่อนมาก ผมยังไม่ได้คิดจริงจังกับแมกซ์สักหน่อย จะให้ผมตบแต่งเข้าบ้านเขาวันนี้เลยก็เป็นไปไม่ได้ “หมายถึงใครครับ” “ไม่ต้องมาแกล้งไม่รู้นะ แมกซ์ที่ไปแข่งกับลูกอะ ถ้าไม่ใช่คนนั้นแล้วจะเป็นใครล่ะ” “เอ่อ ผมกับเขายังไม่ได้อะไรมากกว่านั้นสักหน่อย” ผมตอบไม่ถูกเหมือนกันถ้ามใครมาถามผมว่าผมกับผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกัน ผมกับแมกซ์ยังอยู่ในคนรู้จักไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย ผมทำอาหารไปเขินไปจนมือสั่นจะทำน้ำมันพืชหกใส่ขาเป็นเชื้อเพลิงเวลาผมรนราน “เขินแล้วตั้งสติด้วย แดงลูกแม่จะขายออกแล้วเหรอ” “ผมเขินนะแม่” “แล้วคนบ้าอะไรเอาน้ำผลไม้ไปทอดไข่อะ” ผมรนจนสติหายไปเอาน้ำผลไม้ไปทอดไข่ดาวได้ยังไง แสดงว่าผมคิดถึงแมกซ์มากไปจนทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ผมกำลังคลั่งรักและพร่ำเพ้อหาเขาอยู่งั้นเหรอ ผมต้องตั้งสติก่อนแข่งรอบต่อไปแล้วล่ะ จะให้เรื่องอ่อนหวานทางหัวใจมาเป็นอุปสรรคตอนแข่งขันไม่ได้หรอก ผมรีบเททิ้งแล้วทอดไข่ใหม่ จะเอาไข่ดาวลาวาไปให้แมกซ์เอง หวังว่าเขาจะชอบล่ะ ที่สตูดิโอ “ตื่นเต้นไหมแดง” “หมายถึงตื่นเต้นการแข่งขันหรือเวลาอยู่ใกล้นายล่ะ” ตั้งแต่ผมรู้จักกับแมกซ์มา ทำไมผมรู้สึกดีกับเขามากเลย มันเหมือนว่าเขาเป็นสมาชิกอีกคนในครอบครัวผมไปแล้ว ทำทุกอย่างเอาใจใส่เหมือนเขาสนใจผม ตั้งแต่เขามาเป็นลูกค้าน้ำเต้าหู้ ช่วยสอนการบ้านและเป็นเพื่อนเล่นกีฬาที่โรงเรียน นี่มันเกินความคาดหวังในสิ่งที่ผมหวังไว้แค่เพื่อนแล้วนะ หรือเขาจะชอบผมจริง ๆ แล้วล่ะ ผมไม่เคยมีรักแรกจะบอกอะไรได้เต็มปาก “อาจจะเป็นอย่างหลังก็ได้นะ” “เอ่อ... นายพูดแบบนี้เราเขินนะ” ผมบอกไปตามตรงเลยว่าในชีวิตนี้ผมไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาบอกชอบหรือแกล้งบอกทางอ้อมว่ามีใจให้ ใครจะมาสนใจผู้ชายด้วยกันแบบผม เพศแบบผมอาจจะหาควมรักยากถ้าชอบผู้ชายเหมือนกัน สมัยนี้ชายรักชายถือว่าเปิดกว้าง แต่ผู้ชายคนไหนจะเปิดใจให้ผมล่ะหายากแบบนี้ผมจะใช้ความรักกับใคร “วันนั้นเราก็แสดงให้เห็นแล้วนะ” “นายคิดจริงเหรอ” ตอนอยู่โรงเรียนวันก่อน เขาเข้ามาแสดงความเป็นเจ้าของและจับมือผม เพราะผมกำลังโดนล้อว่าผมกับแมกซ์เป็นแฟนกัน ผมไปออดิชั่นแต่บังเอิญรู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น ไม่คิดว่าเขาจะคิดกับผมตั้งแต่วันนั้น ผมรู้สึหวั่นไหวขนาดนี้มาเล่นแบบนี้ มันไม่สนุกเอาเสียเลย ถ้าผมจะรักใครแล้วเขาเข้ามารักตอบก็ควรจริงจังไม่ควรให้ความหวัง “จริงสิ เราชอบตั้งแต่วันที่เจอกันแล้ว” “เราไม่เคยรักใครมาก่อนนะ” “เอาเถอะ นายอาจจะยังไม่เคยได้รักใครแล้วรู้สึกดีจนบอกมันได้ งั้นให้เราเป็นรักแรกของแดงได้ไหม” ผมว่าผมรู้สึกดีกับแดงมากเลยล่ะ ตั้งแต่รู้จักกันมา นอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว เขาขยันและช่วยแม่ขายของเก่งมาก ต่อให้เขาจะไม่เก่งคณิตศาสตร์ ผมต้องสอนให้เสมอ แต่ความเก่งต้องควบคู่กับความอยู่รอด ผมจะช่วยสอนเขาอีกแรง เพราะเราสองคนเดินทางมาถึงขนาดนี้แล้วจะให้ถอยไปได้ยังไง “ว่าแต่เอามาให้เราเหรอ น่ารักที่สุดเลย” ผมยื่นน้ำเต้าหู้ให้แมกซ์ด้วยความเขินอาย ตอนนี้ใบหน้าผมแดงเป็นมะเขือเทศชัดจนใครก็มองออกว่าผมกำลังเขินจนทำอะไรไม่ถูก ผมไม่เคยหลงรักผู้ชายคนไหนเท่าคนตรงหน้า ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อยแต่ทำไมหัวใจผมมันแสดงสถานการณ์ตัวอย่างในความคิดออกมาแล้วล่ะ “เราชอบชาเขียวมากเลย และเราก็ชอบแดง...” “เห้ยย” ผมว่าเขาตั้งใจแกล้งผมแล้วล่ะ ผมงอนแล้วเพราะจะไปทำสมาธิแข่งขันในรอบต่อไป ผมได้กำลังใจแต่ว่าได้มากเกินไปทำให้ผมไขว้เขวได้เหมือนกันนะ ผมเป็นคนบ้ายอเวลาโดนผู้ชายด้วยกันบอกรักซะด้วย ผมขอเวลาไปเตรียมตัวก่อนแล้วกันจะได้ลดความประหม่าและเขินกับผู้ชายอย่างแมกซ์ เขาทำแบบนี้มีใจให้ผมแล้วใช่ไหม หลังจากนั้น “แดง พร้อมไหม” แมกซ์เข้าไปหาแดงเพื่อบอกกับเขาเป็นกำลังใจให้เมื่อรอบแข่งขันต่อไปจะเริ่มกดดันมากขึ้น เพราะผ่านเข้ารอบมาแล้วต้องเตรียมตัวอย่างดีมาให้มากที่สุดจะได้ไม่มีปัญหาและข้อผิดพลาดน้อยที่สุด แดงหันมายิ้มให้ผมแต่มันแปลกเพราะเขาไม่เขินเหมือนก่อนหน้านั้น “พร้อมสิแมกซ์ เราจะทำให้เต็มที่ที่สุด” ผมรับปากกับแมกซ์ไว้แล้วว่าจะทำให้เต็มที่ ปลดปล่อยความสามารถให้ทุกคนเห็นมากกว่ารอบแรก เตรียมลูกเล่นมาให้มากกว่าเดิม ผมเชื่อมั่นและไม่กดดันตัวเองอยู่แล้ว ผมเดินเข้าไปในสตูดิโอแล้วทำเหมือนทุกครั้งที่เข้ามาวันนั้น “น้องไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ ดูถ้าจะยังไม่ชินนะคะ” คุณเชอร์รี่ได้ติดต่อไปหาน้องแดงตั้งแต่วันก่อนแล้ว อยากให้น้องลดความตื่นเต้นเพราะเป็นอุปสรรคในการแสดง ฉันกับคุณแสตมป์ช่วยให้กำลังใจเป็นการปลุกตัวตนออกมา ก่อนจะเริ่มการแสดงในรอบยี่สิบคนสุดท้าย ฉันแอบถามน้องเขามาว่าจะมีลูกเล่นอะไรต่างจากวันนั้น น้องเขาบอกว่าจะไต่สลิงแยกร่างร้องเพลงบนอากาศ ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ฉีกจากรอบก่อน “ค่ะน้องแดง รอบนี้ยี่สิบคนสุดท้าย และรอบนี้ตัดสินกันอย่างเอาจริงเอาจังก่อนไปรอบสิบคนสุดท้ายเป็นด่านสุดท้ายนะคะ รายการคัดแล้วคัดอีกต้องเข้าใจด้วยนะคะ” “ผมเข้าใจครับ...” “งั้นเริ่มได้ค่ะ” เสียงกรรมการให้สัญญาณก่อนจะมีเสียงปรบมือดังขึ้นไปทั่วห้องส่ง ผมหายใจเข้าออกเป็นการทำสมาธิและผมจะทำให้ทุกคนเห็นไปเลยว่าความสามารถพิเศษนี้เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงและคงเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะสามารถเลียนแบบผม ผมเริ่มแสดงให้ทุกคนเห็นทันทีเป็นขวัญตาที่คนนั้นรอคอยรอบต่อไปและจะหนักขึ้นในรอบสุดท้าย ทางด้านแมกซ์ แมกซ์กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ รอเวลาแดงขึ้นแสดงเสร็จ ผมจะได้ไปเตรียมจักรยานคู่ใจพร้อมทดสอบสลิงก่อนเข้าแสดงหนึ่งชั่วโมง ผมอยากให้ทุกอย่างเข้าที่ ผมเปิดประตูเข้าไปได้ยินเสียงเคาะจากประตูที่มีแผงกั้นห้องน้ำเป็นห้อง ๆ ไป ผมไม่รู้ว่ามีใครเล่นพิเรนทร์เอากล่องใบใหญ่มาทับไม่ให้ออก จะปีนก็ไปไม่ได้ ผมรีบเข้าไปยกของออกแล้วพาคนในนั้นออกมา เมื่อเปิดประตูออกมา ผมถึงกับตกใจสุดขีดเพราะคนตรงหน้าคือแดง แล้วไอ้คนที่เดินเข้าไปก่อนหน้านั้นมันคือแดงไหน “แมกซ์ ไอ้นั่นมันตัวปลอมเรา มันตั้งใจจะหักหน้าเรา” “ว่าไงนะแดง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม