“กี่ชิ้น!”
ชนัญธิดาถามย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังเงียบ สงสัยอาจจะไม่กี่ชิ้นเดียวแน่นอน อาการอ่ำอึ้งแบบนี้ เห็นทีพรุ่งนี้ เธอคงต้องไปเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานเสียหน่อย ไม่งั้นเพื่อนเธอคงได้ตายคาโต๊ะทำงานแน่ๆ
มาริษาสบตามองชนัญธิดาด้วยความกังวล กลัวเหลือเกินว่าเพื่อนเธอจะทำอะไรห่ามๆ อีก ชนัญธิดาชอบทำอะไรให้เธอประหลาดใจอยู่เสมอ
“ก็ประมาณสิบชิ้นแล้ว”
“สิบชิ้น!” ชนัญธิดาถึงกับอ้าปากค้าง กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ไม่รู้จะโกรธเพื่อนเธอดีหรือโกรธยัยอันชิกานั่นดี
“ทำไมแกไม่ยอมบอกฉัน แกทำงานเป็นสิบให้กับคนอื่นแล้วไงษา แกเหนื่อยเกือบตาย ไม่มีเวลาพักผ่อน ฉันคิดว่างานที่แกทำเป็นงานแกทั้งหมดเสียอีก เห็นทีพรุ่งนี้ฉันจะไปคุยกับยัยอันชิกานั่นเสียหน่อยแล้ว ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“ฉันว่าอย่าเลยนะษร ปล่อยเขาไปเถอะ ฉันสัญญานะ ว่าคราวหลังฉันจะไม่ทำงานให้อันชิกาอีกแล้ว” มาริษาทำเสียงออดอ้อนเพื่อน เกิดให้ชนัญธิดาไปที่บริษัทฯ มีหวังเธอได้โดนอันชิกาแกล้งไม่เลิกแน่ แค่นี้เธอก็จะแย่อยู่แล้ว
“ไม่ต้องเลย เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันจะไป แกไม่ต้องมาห้าม”
“ษร” มาริษาเรียกชื่อเพื่อนได้แค่นั้นก็ต้องถอนหายใจออกมา ถ้าคนอย่างชนัญธิดาจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้ เธอไม่น่าบอกไปเลยจริงๆ แบบนี้มีหวังเธอคงต้องหางานใหม่อีกแน่ๆ ก็จะอะไรเสียอีก อันชิกาเป็นญาติกับเจ้านายเธอนั่นเอง เพราะแบบนี้ไงเธอถึงไม่กล้าพูด ถึงพูดอะไรออกไป ก็มีแต่เสียกับเสีย เธอเองนั่นแหละที่ต้องหางานใหม่ ไม่ใช่อันชิกาหรอก
“ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว ฉันว่าเราไปกันเถอะ วันนี้วันหยุดแกกับฉัน เราไปเดินซื้อของกันดีกว่า”
“พรุ่งนี้แกไม่ต้องไปที่ทำงานฉันได้ไหม ฉันไม่อยากมีเรื่องนะ ฉันสัญญานะษร ว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก” มาริษายังคงต่อรองกับชนัญธิดาไม่หยุด เธอไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ มันบานปลายไปกว่านี้ต่างหาก แค่นี้เธอก็โดนอันชิกาแกล้งจะแย่อยู่แล้ว
ชนัญธิดาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของมาริษา เธอเห็นแววตาคู่สวยนั้นมีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด แบบนี้มันน่าสงสัย เพื่อนเธอเป็นอะไรไป หรือโดนแกล้งอีกแล้ว เห็นทีเธอจะอยู่เฉยไม่ได้เสียแล้ว
“โอเค ฉันไม่ไปก็ได้ เพื่อความสบายใจของแก เราไปกันเถอะ วันนี้ฉันจะซื้อของไปทำอะไรกินที่ห้องดีกว่า แกว่าดีไหม เราสองคนไม่ได้ทำอะไรกินกันนานแล้วนะ” เธอบอกตัดปัญหานี้ไปก่อน คิดเบี่ยงเบนเพื่อนรักเรื่องทำอาหารดีกว่า ชนัญธิดาคิดอย่างมีแผน
“ขอบใจนะที่เข้าใจฉัน งั้นเราไปกันเถอะ วันนี้เราจะทำอะไรกินกันดี อีกอย่างนี่ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว”
“งั้นเราหาอะไรกินก่อนสิ แล้วค่อยไปซื้อของทำอาหารมื้อเย็น ดีไหมษา”
“งั้นเราไปกันเถอะ” ชนัญธิดาพูดตัดบท ก่อนเรียกพนักงานในร้านมาสั่งอาหารทานมื้อเที่ยงกับมาริษา
/////////
“ทำไมแกต้องชวนฉันมานี่ด้วยวะไอ้โต” เสียงเข้มถามขึ้น ขณะเดินออกมาจากลิฟต์ อารมณ์ดูจะไม่ดีเอาเสียเลย วันอาทิตย์แทนเขาจะได้นอนพักผ่อนอยู่บ้าน ดันต้องมาเดินเที่ยวเตร่แบบนี้อยู่ในห้างฯ
“ฉันก็อยากจะมาเที่ยวพักผ่อนบ้างสิไอ้ต้น ทำงานมาทั้งอาทิตย์ หาเวลาพักผ่อนเสียหน่อย”
“แล้วทำไมแกต้องมาห้างฯ ไปที่อื่นไม่มีหรือไง” น้ำเสียงเข้มยังคงโวยวายไม่เลิก นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกับมัน เขาไม่มีทางมาเดินห้าง...แบบนี้หรอกห้าง...มันน่าเดินตรงไหน คนก็เยอะ เดินเบียดกันไปเบียดกันมา เห็นแล้วน่ารำคาญ น่าเบื่อเป็นที่สุด
“มันจะอะไรนักหนาวะไอ้ต้น แค่ฉันพาแกมาเดินเที่ยวบนห้างฯ แค่นี่ แกถึงกับชักสีหน้า เสียงเข้มใส่ฉันเลยหรือไง”
“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบเดินห้าง... ”
“ทำไมวะ กลัวเจอบรรดาแม่คู่ควงของแกหรือไง” รัชวินถามกวนๆ ออกไป สบตาแววโรจน์แล้วก็ต้องหัวเราะ มันผิดจากที่เขาคิดที่ไหน เพื่อนคนนี้ของเขากำลังรำคาญ บรรดาคู่ควงนั่นเอง ช่วงนี้เพื่อนเขามีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งบ่อยๆ ข่าวส่วนใหญ่จะมีแต่เรื่องผู้หญิงแทบทั้งนั้น
“แกก็รู้ แล้วจะพาฉันมาเดินที่นี่ทำไมวะ” ชายหนุ่มไม่เข้าใจจริงๆ ว่ารัชวินคิดยังไง ถึงได้ชวนเขามา รู้ๆ อยู่ว่าช่วงนี้เขาพยายามเก็บตัว ไม่ต้องการให้นักข่าวหรือคู่ควงคนไหน เข้ามาสนิทกับเขาได้อีก ช่วงหลายเดือนที่ผ่าน เขาเจอแต่ปัญหาเรื่องผู้หญิง เห็นทีเขาน่าจะหยุดชีวิตเสเพลนี่ได้ชะที ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้เขาคงไม่มีความสุขอย่างแน่นอน
“ไอ้ต้น ฉันว่าเราไปร้านเดิมดีกว่า ฉันก็ไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน วันนี้เซ็งๆ ยังไงไม่รู้ เมื่อวานขอนัดสาว แต่สาวดันปฏิเสธเสียนี่”
“อะไรนะ..แกโดนสาวที่ไหนปฏิเสธมาวะไอ้โต”
“ก็จะใครเสียอีก...แม่พนักงานหน้าหวานของฉันนั่นแหละ ฉันนะพยายามขอนัดษาเขาหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ปฏิเสธฉันมานิ่มเลยว่ะ เขาบอกฉันว่าทุกวันอาทิตย์เขาจะนัดกับเพื่อนเอาไว้คงไปกับฉันไม่ได้”
“โห้ อะไรจะขนาดนั้น อย่างแกเนี่ยนะโดนสาวปฏิเสธ”
“ฉันไม่ใช่แกนิไอ้ต้น...สาวๆ วิ่งตามเป็นพรวน”
“ไอ้บ้า...คนโว้ย...ไม่ใช่หมา ถึงได้วิ่งตามเป็นพรวนนะ แล้วตกลงวันนี้แกตามแม่พนักงานหน้าหวานของแกมาทำไม”
“วันนี้ฉันก็เลยตามมาดูว่า ษาเค้านัดกับเพื่อนเขาจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นผู้หญิงก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นผู้ชาย ฉันจะได้ตัดใจเสียที แอบชอบเขาแบบนี้ ฉันก็ทรมานว่ะ อีกอย่างช่วงนี้ยายอันก็ตามติดฉันตลอดเลย”
รัชวินอดคิดไปถึงญาติสาวไม่ได้ เขาไม่ได้ชอบหรือคิดอะไรกับอันชิกาเกินความเป็นพี่น้องกัน แต่เขารู้ว่าอันชิกาคิดยังไงกับเขา ทางที่ดีตัดปัญหาให้เร็วที่สุด เขาจะต้องมีแฟนเสียที ปล่อยไว้แบบนี้มีหวังเขาคงประสาทกินวันละหลายๆรอบ
“ฉันล่ะเชื่อแกจริงๆ เลยไอ้โต แกนี่มันบ้าวะ วันหยุดแทนที่จะได้พักผ่อนที่บ้าน แกดันมาเดินตามแค่พนักงานเล็กๆ ในบริษัท” ตระการได้แต่ส่ายหน้าด้วยความไม่พอใจ
‘แกเดินตามพนักงานเล็กๆ ในบริษัทเพราะเรื่องแค่นี้ เป็นฉันไม่ได้ ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนปฏิเสธ ฉันได้หรอก’ คิดในใจด้วยความเซ็งๆ เขาต้องมาเดินเป็นเพื่อน เพียงเพราะเหตุผลมันแค่นี้เอง
“ไปเถอะ อย่าบ่น ยังไงแกก็ออกมากับฉันแล้ว” รัชวินตัดบท เดินตรงเข้าไปยังร้านเจ้าประจำของห้างฯ เขาจะมานั่งที่นี่บ่อยๆ เวลาพักจากการทำงาน หรือแม้แต่วันหยุดก็ตาม
ร่างสูงเดินตรงเข้าไปภายในร้าน สายตาเขาปะทะเข้ามาร่างบางของคนที่เขาแอบตามมาวันนี้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นตรงริมฝีปาก หยุดเดินหันมามองเพื่อนรักที่เดินตามมา
“โน่นไง...แม่สาวหน้าหวานของฉัน” แล้วชายหนุ่มยกมือชี้นิ้วไปยังโต๊ะในสุดของร้านสายตาของเขามองสองสาวที่นั่งคุยไปกันอย่างสนุกสนาน
//////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...