(‘ ‘) // สิงโต
“เห้อ เอาเป็นว่าไม่ต้องมาเข้าใกล้ฉันจนเกินไป ฉันไม่อยากมีศัตรูเพิ่มเข้าใจใช่มั้ย?” ฉันฉันบอกกับสิงโตก่อนที่จะรีบเดินห่างจากเขา
“ไม่...”
“เหวออ” จู่ๆ สิงโตก็พูด’ ไม่’ ดึงกระเป๋าฉันจากทางด้านหลังฉันที่ไม่ทันตั้งตัวเลยหงายหลังไปทางเขาทำให้เราทั้งคู่ล้มลงไปกองกับพื้นทันที
“โอ๊ยยยย นี่นายเล่นบ้าอะไรของนายเนี่ยห้ะ?!!” ฉันรีบลุกขึ้นมาจากตัวเขาแล้วเริ่มเสียงดังเพราะโมโห นั่นทำให้เราทั้งคู่เป็นจุดสนใจของคนที่กำลังผ่านไปผ่านมาทันที
“เจ็บมั้ย...” เขาหยัดตัวลุกขึ้นแล้วจ้องมาทางฉันพรางใช้สายตาสำรวจตัวฉัน
“ไม่เจ็บมั้ง ล้มลงไปขนาดนั้นอ่ะ” -*-
“ขอโทษ...” (. .) ”
“แค่นายไม่มาใกล้ฉันแค่นั้นก็ขอบใจมากแล้ว ฉันจะไปเรียนแล้วไม่ต้องตามมานะ” -*- ฉันบอกกับเขาก่อนที่จะหันหลังรีบเดินออกจากตรงนั้น เห้อออออออถึงแม้ฉันตามคลุกคลีหากินกับพวกลูกเพจที่คลั่งคนหล่อแต่พอตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์ที่โดนจับจ้องแบบนี้ฉันก็อึดอัดเหมือนกันนะ มิน่าล่ะตอนนั้นฮันนี่ถึงได้สติแตกขนาดนั้น....
“ริเรีย เธอมาแล้ว!” ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในห้องก็เจอกับฮันนี่ที่รีบวิ่งมาหาฉันทันที
“ฉันหายดีแล้วน่ะ ว่าแต่บราวนี่ล่ะวันนี้มาสายหรอ ฉันโทรไปหาไม่รับไลน์ไปก็ไม่อ่าน” ฉันถามฮันนี่แล้วกวาดสายตามองหาบราวนี่ทั่วห้อง
“นั่นแหละสิ่งที่ฉันกำลังจะบอกเธอ บราวนี่หายตัวไปไหนไม่รู้ติดต่อไม่ได้เลยฉันโทรหาเป็นร้อยๆ สายก็ไม่รับ”
“ว่าไงนะ!! แล้วทำไมไม่มีใครบอกฉัน?”
ฉันตกใจกับสิ่งที่ได้ยินฮันนี่เล่าเรื่องตั้งแต่ก่อนที่บราวนี่จะหายตัวไปว่าวันนั้นบราวนี่จะต้องซื้อข้าวไปให้ฉันตอนเย็นคนเดียวเพราะคริสตัลกับฮันนี่ติดธุระ แล้วหลังจากเลิกเรียนก็ติดต่อบราวนี่ไม่ได้อีกเลย
“ก็ฉันเห็นว่าเธอเจ็บอยู่เลยไม่อยากให้เธอเป็นกังวลอ่ะ” ฮันนี่ตอบฉันสีหน้าฮันนี่กับคริสตัลดูเป็นกังวลมาก
“ก็สิงโตเอาข้าวไปให้ฉันแล้วบอกว่าบราวนี่ฝากมาให้นี่ จริงสิเลโอล่ะ นายนั่นต้องรู้แน่ๆ ว่าบราวนี่อยู่ไหนเพราะคนสุดท้ายที่อยู่กับบราวนี่น่าจะเป็นนายนั่น” ฉันบอกทั้งคู่ในสิ่งที่รู้ออกไป
“เลโอก็คงไม่รู้วันนั้นตอนเย็นเหมือนเลโอจะทะเลาะกับบราวนี่แล้ววันต่อมาเลโอก็ยังมาถามหาบราวนี่กับพวกฉันอยู่เลยเพราะเขาก็ติดต่อบราวนี่ไม่ได้เหมือนกัน” คริสตัลบอกกับฉันด้วยสีหน้าวิตกกังวล ทำไงดีๆ เพื่อนหายตัวไปทั้งคน จริงๆ อีตาสิงโตต้องรู้เรื่องบราวนี่อยู่แล้วแต่ไม่ยอมบอกฉันแน่ๆ ฉันจะต้องไปลากคอหมอนั่นมาเค้นหาความจริงให้ได้!
….พักเที่ยง.....
“นายสิงโต!!! บอกมานะนายรู้ใช่มั้ยว่าเพื่อนฉันหายไปไหนน่ะ ห๊าาาาาาา” ฉันเดินตรงเข้าไปหาสิงโตที่นั่งกินแซนวิชอยู่ที่โต๊ะแล้วบีบคอเขาแหวี่ยงไปมาอย่างแรง
“อ๊อกกก แค่กๆๆๆๆๆ” สิงโตหน้าเขียวสำลักอาหารทันที
“เย๊ยยย เพื่อนสิงห์ อย่าเพิ่งตายเพื่อน น้ำๆๆๆ” นายน้ำนิ่งที่นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ รีบหยิบขวดน้ำให้สิงโตทันที
อึกๆๆๆๆ สิงโตรีบคว้าขวดน้ำจากมือน้ำนิ่งแล้วเปิดดื่มทันที พอดื่มเสร็จก็หันมามองฉันนิ่งๆ โดยที่ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
“ตอบดิ นายเป็นใบ้หรือว่าหูหนวกหรอ?” ฉันยืนกอดอกจ้องหน้าเขากลับ
“นี่ มันเรื่องอะไรกันครับเนี่ย มีสาวมาตามเต๊าะเพื่อนผมแบบถึงเนื้อถึงตัวเลยทีเดียวเชียว” น้ำนิ่งที่นั่งข้างๆ พูดขึ้นพร้อมทำท่าทางตื่นเต้น
“เต๊าะบ้านแปะนายสิ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง” ฉันหันไปวีนใส่น้ำนิ่งทันที
“ไม่รู้...” สิงโตตอบเสียงเบา
“นายจะไม่รู้ได้ไงก็วันนั้นนายพูดเองว่าเพื่อนฉันฝากข้าวมาให้อ่ะ”
“เลโอบอกให้พูด...”
“เพื่อนนายบอกให้พูดแบบนั้นนายก็พูดโดยที่ไม่ถามที่มาที่ไปเนี่ยนะ?!!”
(‘ ‘) (. .) (‘ ‘) (. .) (‘ ‘) (. .) //พยักหน้า
“ซื่อบื้อหรอ? เพื่อนบอกอะไรก็ทำตามหมดอ่ะ แถมไม่สงสัยอะไรอีก”
“......” //เงียบ
สิงโตนิ่งเงียบไม่ตอบแล้วก้มหน้าลงหลบตาฉันราวกับเด็กน้อยที่กำลังโดนดุ ฉันไม่สงสารหรอกนะยะ!! เพื่อนนายไม่ได้หายไปเหมือนเพื่อนฉันหนิ แล้วถามอะไรก็พูดเบาๆ หรือไม่ก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไร ฉันล่ะอยากจะจับกบจับเขียดมาตีปากนายนี่สักทีสองทีเผื่อจะพูดเป็นขึ้นมาบ้าง -*- ฉันกอดอกมองท่าทางของอีตานี่พักนึง เขาก็ยังนั่งนิ่งหลบตาฉันเหมือนเดิมในขณะที่เพื่อนฝาแฝดของเขาเองก็จ้องมองเขาและฉันสลับกันไปมาแต่ไม่พูดอะไร สรุปแล้วอีตานี่คงไม่รู้จริงๆ สินะ... เสียเวลาชะมัด -*-
“เห้อ ถามนายไปคงไม่ได้ความสินะ งั้นก็ขอบใจย่ะ!!” ฉันทิ้งท้ายไว้กิอนจะหันตัวเตรียมเดินออกไป
“เดี๋ยว...” //ดึงเสื้อ
“อะไรอีก!!” ฉันหันมาแว๊ดใส่เขาทันทีโดยไม่ได้สนใจเพื่อนเขาอีกสองคนที่นั่งอยู่ข้างเขาเลยว่าจะมองมาที่เรายังไง
“กินด้วยมั้ย” สิงโตพูดขึ้นพร้อมกับยื่นแซนวิชให้ฉันชิ้นนึง
“ไม่ล่ะนายกินไปเหอะ ฉันจะกลับห้องฉันแล้ว” พูดจบฉันก็รีบเดินกลับห้องไปหาพวกฮันนี่ทันที
“.....” //โบกมือลาตามหลัง
ฉันเดินออกมาจากห้องเรียนของพวกสิงโตอย่างหัวเสียเพราะอีตานั่นน่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องแท้ๆ แต่ดันไม่รู้อะไรเลยแถมท่าทางซื่อๆ บื้อๆ นั่นอีก ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิด ระหว่างทางเดินก็มีสายตาของใครหลายคนจ้องมองฉันตลอดทางแต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเพราะเพื่อนฉันทั้งคนหายไป ใครจะมองยังไงก็แล้วแต่เหอะแต่ถ้าจะมาหาเรื่องฉันบอกไว้เลยว่าฉันสู้คนนะ!!
“สิงโตว่ายังไงบ้างอ่ะ” ทันทีที่เดินมาถึงหน้าห้องฮันนี่กับคริสตัลก็วิ่งมาหาฉัน
“ตานั่นไม่รู้อะไรเลย” ฉันตอบแบบเซ็งๆ เพราะตอนนี้ไม่รู้จะตามหาเพื่อนยังไง
“แล้วเลโอล่ะ เธอบอกว่าหลังจากที่ทะเลาะกับบราวนี่วันต่อมาเขามาถามพวกเธอนี่” ฉันหันไปถามฮันนี่
“ตั้งแต่เช้าวันนั้นเลโอก็ไม่ได้มาโรงเรียนเหมือนกันไม่รู้ยังไง ติดต่อเขาก็ไม่ได้ด้วย” คริสตัลตอบ
“ฉันเองก็ติดต่อไอ้เลโอไม่ได้เหมือนกันแล้วก็ไอ้นิวเยียร์ด้วย” อยู่ๆ มารืตินที่น่าจะฟังพวกเราคุยกันอยู่ก็พูดขึ้น
“แล้วนายมายุ่งอะไรด้วยมิทราบ!” ฮันนี่หันไปแยกเขี้ยวใส่มาร์ตินทันที
“เกี่ยวสิเลโอมันก็เพื่อนฉันนะ” มาร์ตินแย้ง
“แล้วนิวเยียร์เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยหรอ?” คริสตัลหันไปถามมาร์ติน
“ก็วันที่ไอ้เลโอถามหาเพื่อนพวกเธอ ไอ้นิวเยียร์ก็ดูตกใจแปลกๆ แถมวันนั้นหน้ามันมีรอยช้ำเหมือนไปฟัดกับอะไรมาด้วย แล้วหลังจากนั้นฉันก็ติดต่อพวกมันไม่ได้เลยเธอไม่คิดว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกันหรือไงล่ะ” มาร์ตินพูดขึ้น อีตานี่ปกติเป็นคนเล่นๆ แต่พอเข้าโหมดจริงจังแล้วดูเป็นผู้เป็นคนต่างจากบุคลิกปกติลิบลับเลยแฮะ
“มันก็จริงของนาย...แล้วนายจะทำยังไงต่อ?” คริสตัลพูดขึ้น
“งั้นเอางี้พวกเธอก็พยายามหาทางติดต่อเพื่อนเธอให้ได้ก่อนส่วนเลโอกับนิวเยียร์เดี๋ยวพวกฉันจะหาทางติดต่อพวกมันเองถ้าได้ความว่ายังไงเดี๋ยวฉันจะบอกพวกเธอนะ” มาร์ตินสรุปเสร็จสรรพ
“พวกฉันพยายามทุกทางแล้วทั้งไลน์ ทั้งโทรแล้วก็ไปหาที่บ้าน แต่เหมือนที่บ้านจะไม่มีคนอยู่เหมือนกัน” ฮันนี่แย้งมาร์ติน
“งั้นก็แสดงว่าเพื่อนเธอไปที่ไหนสักที่กับที่บ้านไง ถ้าไปหาที่บ้านแล้วไม่มีคนอยู่อ่ะ เธอก็ควรสบายใจอย่าใจร้อนคิดไปเองสิเธอเนี่ยนิสัยนี้แก้ไม่หายมาตั้งแต่เด็กแล้วนะ หืม” มาร์ตินก้มหน้าลงมาจ้องหน้าฮันนี่ใกล้ๆ ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาลูบหัวฮันนี่แล้วรีบเดินหนีไปจากกลุ่มพวกเราตามเสียงเสียงวีนของฮันนี่ไล่ตามหลังแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจเสียงนั้นกลับเดินผิวปากไปอย่างอารมณ์ดีซะงั้น