จุดเริ่มต้น

1800 คำ
ฟุบ!.. ฉันเดินกระเผลกๆ มาถึงห้องเมื่อกลับมาถึงห้องและถอดชุดนักเรียนออกเหลือแค่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงของตัวเองทันที หลังจากที่ปวดหัวกับเรื่องที่เพจโดนแฮ็กมา 3-4 วันแล้ว วันนี้ฉันเจอเรื่องที่หนักกว่าคือเพจของฉันที่โดนแฮ็คไปปล่อยข่าวออกมาให้เพื่อนในห้องคนหนึ่งของฉันโดนเข้าใจผิด เธอโกรธมากและผลักฉันอย่างแรงจนฉันเซไปกระแทกกับโต๊ะจนล้ม มันเจ็บมากๆ เลยล่ะ เห้ออออ ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดฉันเลยสักนิด ฉันไม่ได้เป็นคนทำ!! แต่แหงล่ะก็นั่นมันเพจของฉันนี่นา จะคิดว่าเป็นฝีมือฉันก็ไม่แปลกหรอก.... “เห้อ...บ้าบอชะมัดเลยเหอะๆ” ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ หรือนี่จะเป็นผลกรรมที่ฉันหากินบนความลำบาก(ใจ) ของคนอื่นกันนะ.... ความจริงในบรรดาหนุ่มฮอตกลุ่มนั้นฉันก็ไม่ได้ชมชอบพวกเขานักหรอก มีแต่ลูกเพจของฉันนั่นแหละที่คอยมาคอมเม้นท์ กดไลก์ ตามติดข่าวสารของพวกนั้นตลอด นั่นแหละแหล่งรายได้ของฉัน ยังดีนะที่ฉันมีเงินเก็บพอสมควรจากการทำเพจที่ผ่านมา ทำให้ถึงจะไม่มีเพจนั่นฉันก็ยังมีกินมีใช้ไม่ลำบาก ในเมื่อทำทุกทางแล้วแต่เอาเพจคืนมาไม่ได้ฉันเลยทำเรื่องแจ้งรายงานเพจนั้นไปยังเฟสบุ๊คเพื่อให้เฟสบุ๊คปิดเพจนั่นซะ ถึงมันจะน่าเสียดายมากๆ ก็ตามเพราะเพจของฉันมีคนติดตามตั้งหลายแสนคน อยากได้เพจคืนมาอ่ะ TT ถ้าเพจไม่โดนแฮ็กฉันรวยแน่ๆ ฮือออออ Y_Y ‘แจ้งกับทุกคนนะคะ ตอนนี้เพจ หนุ่มหล่อไม่บอกต่อไม่ได้แล้วนะ ที่เราเป็นแอดมินเพจอยู่นั้นเมื่อ 3-4 วันก่อนเพจของเราโดนมือดีที่ไหนไม่รู้มาแฮ็กไปแล้ว เราโดนปิดกั้นทุกทางจึงไม่สามารถเข้าถึงเพจได้เลย เราจึงอยากจะขอประกาศว่านับแต่นี้เป็นต้นไปหากเพจดังกล่าวมีการโพสต์ข่าวหรือมีความเคลื่อนไหวใดๆ เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นอะไรด้วยเลยนะคะตอนนี้เราทำได้เพียงแจ้งรายงานเพจไป...เราขอความร่วมมือให้ทุกคนกดREPORT เพจให้เราด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ’ ฉันโพสต์ข้อความลงบนเฟสบุ๊คของตัวเองแล้วก็มีแจ้งลงไปในกรุ๊ปไลน์ชั้นม.6ด้วยเพื่อเป็นการกระจายข่าวเกี่ยวกับเพจและเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาถ้าหากเพจนั้นยังคงโพสต์ข่าวอะไรให้คนอื่นเสียหายต่อไปฉันจะได้ไม่โดนมองว่าเป็นคนทำอีก “โอ๊ย....” ฉันร้องเบาๆ ขณะที่พยายามขยับตัวลุกจากที่นอน ตอนนี้ตัวฉันคงระบมไปทั้งตัวแน่ๆ แขนก็เป็นรอยครูดยาวไปครึ่งแขนดีนะที่แค่ถลอกไม่ใช่แผลลึกอะไร ขาก็เจ็บ พรุ่งนี้ปโรงเรียนไม่ไหวแน่ๆ เลย T^T ♪~~~ “ฮัลโหล...” เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นทำให้ฉันกดรับด้วยน้ำเสียงที่เนือยๆ “ฮัลโหล ริเรียลูกมีเงินให้พ่อยืมมั้ยลูกพ่อต้องเอาไปหมุนก่อน” เสียงปลายสายคือพ่อของฉันที่โทรมาขอเงินฉัน(อีกแล้ว) “ไม่มีแล้วค่ะพ่อครั้งที่แล้วหนูให้พ่อไปหมดแล้ว พ่อเลิกเล่นได้แล้วนะการพนันเนี่ยหนูบอกกี่รอบแล้ว” ฉันตอบกลับอย่างหัวเสีย ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีเงินให้ท่านนะแต่ฉันไม่อยากให้แล้วเพราะทุกครั้งที่ท่านโทรมาคือท่านต้องการเงินไปเล่นพนัน พ่อของฉันติดพนันหนักมากยิ่งตั้งแต่แม่ฉันเสียไปพ่อยิ่งเล่นหนักขึ้นทุกวัน นี่เป็นสาเหตุนึงที่ฉันออกจากบ้านมาเรียนที่ต่างเมืองแบบนี้... “ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ ลูก พ่อสัญญานะ พ่อขอสักสามหมื่น” “ก่อนหน้านี้พ่อก็เคยสัญญานับครั้งไม่ถ้วนแล้วค่ะ ”ฉันตอบกลับพ่อไปทันที “ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายจริงๆ ลูก....” พ่อของฉันพูดเว้าวอนแต่ฉันก็เลือกที่จะใจแข็งที่จะไม่ให้เงินพ่อไปเล่นพนันอีกแล้ว “นี่แก! พ่อแกจะไม่มีข้าวกินอยู่แล้วนะ แกจะโอนมามั้ยห้ะ!!” เสียงผู้หญิงปลายสายแทรกเข้ามาอีกคนนั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเบื่อหน่าย เสียงนั้นเป็นเสียงของแม่เลี้ยงฉันเอง หลังจากที่แม่ของฉันเสียไปได้ไม่นานผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาในชีวิตพ่อฉัน จากเดิมที่พ่อฉันติดพนันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งมาเจอผีพนันด้วยกันยิ่งไปกันใหญ่ ฉันเลยทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่บ้านร่วมกับผีพนันแบบนี้ “น้าเองก็หัดหาเงินให้ได้เยอะกว่าใช้เงินด้วยนะคะ หนูไม่มีโอนให้หรอกหยุดเล่นพนันกันได้แล้วทั้งคู่เลย แค่นี้นะคะ” ฉันตอบกลับไปก่อนที่จะกดตัดสายไปทันที เห้อออออ เหนื่อยใจจริงๆ ตัวเองยังจะเอาไม่รอดยังแต่งงานใหม่มาเป็นภาระอีก พ่อนะพ่อ ถ้าไม่โอนเงินให้เลยแล้วจะมีเงินกินข้าวมั้ยเนี่ย.... ภรรยาใหม่พ่อก็ใช่ว่าจะนิสัยไม่ดีนะ แต่น้าแกเป็นคนที่พูดเสียงดังและไม่อ่อนหวานเฉยๆ งานบ้านงานเรือนแกก็ทำไม่บกพร่องหรอกติดแค่นิสัยติดการพนันของแกนี่แหละที่เข้ามาเสริมทัพให้พ่อฉันเป็นหนักกว่าเดิม โอ๊ยยยย พูดมาแล้วปวดหัว “เห้อ...หรือว่าจะเริ่มทำพาร์ทไทม์อีกรอบดีเผื่อต้องใช้เงิน” ฉันพึมพำกับตัวเอง ตอนนี้ฉันไม่มีแหล่งรายได้หลักอย่างเพจนั้นแล้ว ถ้าจะสร้างเพจอีกรอบก็คงต้องรอให้เพจนั้นลบออกไปก่อนแล้วค่อยสร้างเพจใหม่ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนไหนจะได้สร้างหรือไม่ฉันก็อาจจะไม่ทำเพจอีกเลยก็ได้แต่ใจนึงก็ยังอยากทำเพจต่อ “โอ๊ยยยยย หยุดๆๆๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นริเรีย เอาเรื่องปัจจุบันให้รอดก่อนยัยบ้าเอ๊ยยย” ฉันทึ้งหัวตัวเองไปมาอยู่บนเตียง ก๊อกๆๆๆ ฉันเผลอหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้จนสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากหน้าห้อง ฉันพยายามยันตัวลุกจากเตียงเพราะรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว พอฉันไปเปิดประตูห้องก็พบกับบราวนี่กับฮันนี่ที่ยืนอยู่กันสองคน บราวนี่ฉีกยิ้มให้ฉันตามแบบฉบับของเธอส่วนฮันนี่ก็ก้มหน้าก้มตามองพื้น พื้นหน้าห้องฉันสวยหรอ? แล้วยัยสองคนนี่มาทำไมอีกเนี่ย หรือจะมาหาเรื่องฉันเพิ่ม? “มีไร?” -_-“ ฉันถามออกไปเพราะคนนึงเอาแต่ยิ้มส่วนอีกคนก็เอาแต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร “เอ่อ...พ..พวกเรามาเยี่ยมน่ะเมื่อกลางวันเธอออกมาเลยพวกเราเลย....” “อ่อ....เข้ามาสิ” ฉันเดินนำให้สองคนนั้นเข้ามาในห้อง “เป็นไงบ้างฉันเห็นเธอเดินเหมือนขาเจ็บ...” ฮันนี่ถามฉันเสียงเบา “รู้ด้วยหรอว่าฉันเจ็บ?” ฉันตอบกลับเธอไปทันที่ไม่ได้หันไปมองพวกเธอที่เดินตามหลังฉันมา “.......” //ฮันนี่ หลังจากที่เดินเข้ามาถึงโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ ตรงกลางห้องฮันนี่และบราวนี่ก็นั่งลงและวางถุงของกินลงบนโต๊ะญี่ปุ่นของฉัน สองคนนั้นมองหน้ากันแบบทำตัวไม่ถูกฉันเองก็ด้วยเพราะไม่เคยมีใครเข้ามาในห้องของฉันมาก่อน ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดคุยหรือทำอะไร ฉันเลยเลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไรแล้วเดินไปหยิบขวดน้ำที่ตู้เย็นมาวางให้ทั้งสองคน แล้วยัยสองคนนี้ก็เงียบแข่งกันกับฉัน เห้อ..... “เอ่อ...ริเรียฉันขอโทษแทนฮันนี่ด้วยนะที่ฮันนี่วู่วามไปหน่อยอ่ะ” บราวนี่พูดขึ้นทำลายความเงียบ “...ขอโทษนะ..ริเรีย..” ฮันนี่ที่นั่งเงียบอยู่เอ่ยขอโทษฉันออกมา วันนี้เป็นเรื่องที่ 2 แล้วที่ยัยนี่พูดขอโทษฉัน “อืม...ฉันไม่โทษเธอหรอกเป็นใครใครก็คิดว่าฉันทำทั้งนั้นแหละ ก็เพจนั่นมันของฉันนี่ใครๆ ก็รู้...” ฉันตอบบราวนี่ “ฉันวู่วามไป...ไม่ถามเธอให้ดีก่อน เจ็บมากมั้ย?” ฮันนี่ถามฉันเธอหันมามองหน้าฉันด้วยสีหน้ารู้สึกผิดมากๆ ยัยนั่นมองมาที่แขนของฉันที่เป็นรอยถลอกยาวตั้งแต่ข้อศอกขึ้นไปถึงหัวไหล่ “ช่างมันเอะ ฉันเข้าใจว่าเธอโกรธแล้วก็รู้ด้วยว่าเธอไม่ได้ตั้งใจหรอก” ฉันบอกฮันนี่ไปเพื่อให้เธอคลายความกังวลลง “กินข้าวกันดีกว่านะทั้งสองคน” ^^ บราวนี่พูดขึ้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศพร้อมกับหยิบข้าวกล่องให้พวกเราคนละกล่อง เอิ่มมม โอเคฉันเริ่มมองเห็นความน่ารักของยัยนี่แล้ว -//- เพราะฉันไม่ค่อยสนใจใครเท่าไหร่เลยไม่มีเพื่อนที่สนิทด้วยเลยสักคน ฉันเลยชินกับการอยู่คนเดียวมาตลอด แต่พอมาเจอยัยพวกนี้ที่นั่งอยู่ข้างหน้าฉัน ตั้งแต่บราวนี่ย้ายเข้ามาในห้องกลุ่มยัยพวกนี้ก็ดูมีสีสันขึ้นมากเพราะบราวนี่เป็นคนที่ทำให้คนที่สายบวกแบบฮันนี่กับสาวสวยลุคคุณหนูจอมหยิ่งแบบคริสตัลดูซอฟต์ลงเยอะ เหมือนยัยนี่เป็นน้องเล็กที่ทั้งสองคนจะต้องเอาใจใส่เสมอ ไม่รู้เลยเหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันเริ่มสังเกตุกลุ่มของพวกนี้เป็นพิเศษ ฉันเลยอยากจะเข้าไปเตือนบราวนี่ในตอนที่เธอมีข่าวกับนิวเยียร์ ก็นั่นแหละโพสต์ของบราวนี่กับนิวเยียร์คือโพสต์ สุดท้ายที่ฉันโพสต์ลงในเพจนั้นซึ่งฉันก็เซ็นเซอร์หน้าบราวนี่ไว้อยู่นะไม่ใช่เปิดหน้าโจ่งแจ้งแบบไอ้คนที่มันแฮ็กเพจฉันไปทำกับฮันนี่แถมตอนหลังมันก็ยังมีภาพของบราวนี่เพิ่มเข้ามาอีกด้วยดีหน่อยที่บราวนี่ไม่โดนอะไรอีกตอนที่โดนเปิดหน้ารอบหลัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม