ตอนที่ 1
เด็กดื้อ
"อารบกวนด้วยนะนาวา ถ้าไม่ใช่เรา อาก็ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว"
น้ำเสียงเกรงใจบนใบหน้ากังวลทำให้ผมอดรู้สึกสงสารแกมเห็นใจไม่ได้
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คนกันเองทั้งนั้น"
บอกออกไปแบบนั้นเพื่อให้ทั้งคู่ลดความกังวลลง นี่ผมไม่ได้อวดเก่งอะไรหรอกนะครับ แต่ถ้าเป็นยัยนั่นน่ะผมมั่นใจว่ากำราบได้แน่นอน
ผมคุยเล่นกับคุณอาทั้งสองอีกครู่ใหญ่ เพื่อรอเจอคนที่กำลังจะมาเป็น 'ลูกศิษย์' พิเศษ ทว่าจนแล้วจนรอด ฝ่ายนั้นก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลย ผมจึงจำใจต้องล่าถอยกลับมาตั้งหลักใหม่พร้อมทั้งไปคิดวิธีมารับมือกับเด็กดื้อสุดแสบนั่นด้วย
สถานบันเทิงแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยนักท่องราตรีที่เดินเข้าออกกันให้ควั่กจนแค่มองก็ตาลายได้แล้ว ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เสียด้วยสิ แต่จะทำไงได้ล่ะลูกศิษย์ของผมคนนี้ดูเหมือนจะอยากเล่นซ่อนหานี่ ดูได้จากที่ตั้งใจหลบหน้าจนต้องเสียเวลาไปสามวันโดยเปล่าประโยชน์ นั่นปะไร
เอาเถอะครับในเมื่อเธออยาก 'ซ่อน' งั้นผมก็จะทำหน้าที่ 'หา' เธอเอง
สายตาคมกวาดฝ่าความมืดสลัวรอบตัวเพื่อหาเด็กดื้อคนนั้น และกว่าจะเจอก็เล่นเอาผมหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เพราะคนมันเยอะแถมยังต้องคอยปฏิเสธพวกผู้หญิงที่มาเกาะแกะนี่อีก น่ารำคาญจัง แต่ทำไงได้ไอ้หน้าตาผมมันก็ดันเป็นที่ถูกตาต้องใจสาวน้อยใหญ่เสียด้วย
"แพร์! กลับบ้าน!"
คนถูกเรียกสะดุ้งอยู่หน่อยก่อนจะหันมาทางนี้ ใบหน้าเธอถอดสีอยู่ครู่ก่อนจะกลับมาฉายแววถือดีดื้อดึงเช่นเคย
"คุณเป็นใครคะ ทักคนผิดแล้วค่ะ"
เธอตอบกลับมาเรียบๆ ก่อนจะหันไปพูดคุยเล่นหัวกับเพื่อนชายข้างตัวต่อ ฮึ! คิดเหรอครับว่าแค่นี้จะทำผมยอมแพ้ได้
"เฮ้ย ทำไรน่ะ!/อ๊าย! ตาบ้าปล่อยนะ!"
เสียงของเพื่อนชายและตัวของยัยเด็กดื้อเองร้องโวยวายออกมาพร้อมกัน เมื่อผมอุ้มคุณเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แน่นอนใบหน้าสวยของเธอกำลังบึ้งตึงทั้งยังขึงตาใส่ผมจนมันแทบบูดออกนอกเบ้ามาแล้ว
"สนุกมากพอแล้วนะที่รัก กับบ้านกันดีกว่า พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ"
"ที่รักบ้าอะไร! ปล่อยฉันนะ!"
"จุ๊ๆๆๆ อย่าโวยวายสิครับ แค่ผัวไม่ทำการบ้านรอบสอง ถึงกับงอนจนต้องหนีมาเที่ยวเลยเหรอ เอาน่าเดี๋ยวกลับไปคราวนี้ผัวเบิ้ลสามสี่ให้เลยนะครับ"
ผมไม่รอให้เธอกรีดร้องหรือเอ่ยอะไรออกมาหรอกครับ ขี้เกียจเถียง เลยใช้จังหวะที่เธอกำลังเหวอกับคำพูดของผมในบทผัวมาง้อเมียนั่นเร่งรุดออกมาจากตรงนั้นทันที โดยไม่สนใจพวกก๊วนเพื่อนชายหญิงที่อยู่ในอาการตกตะลึงไม่ต่างจากเธอ
"ไอ้บ้า! ไม่ลามก! ไอ้คนมั่วนิ่ม! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! ใครไปเป็นเมียนายตอนไหนกัน!"
เธอตะโกนทั้งทุบไหล่ผมวุ่นวายไปหมด แต่แรงเท่ามดแดงของเธอไม่มีผมต่อการยัดร่างกายส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบของเธอเข้ารถคู่ใจของผมหรอก
"พี่ว่าเธอควรจะเงียบดีกว่านะ ถ้าไม่อยากเล่นหนังสดกลางลานจอดรถแบบนี้"
"นายไม่กล้า..."
"อย่าท้าอารมณ์ด้านมืดของผู้ชาย ขอเตือนเอาไว้ก่อน เพราะถึงเป็นเธอถ้าหน้ามืดขึ้นมา พี่ก็กล้าเอาได้เหมือนกัน"
เธอกัดปากกระจับของตัวเองแน่นพลางสะบัดหน้าพรืดไปเสียอีกทางอย่างจำนน
รถยนต์เคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในช่วงราตรีอย่างไม่ได้รีบร้อนอะไร ทั่วทั้งห้องโดยสารเงียบกริบจนได้ยินเสียงแอร์ เพราะลูกแพร์ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยสักคำ และผมก็คงไม่สนด้วยถ้าหากว่าตอนนี้คำขอร้องของคุณอาทั้งสองมันค้ำหัวผมอยู่
"เธอยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยนะ ทำไมถึงไปเที่ยวที่แบบนั้น"
"..."
"แล้วดูแต่งเนื้อแต่งตัวเข้าสิ ถ้าจะประหยัดเนื้อผ้าขนาดนี้ก็แก้ผ้ามันไปเถอะ อีกอย่างเธอเป็นผู้หญิง การให้ผู้ชายจับเนื้อตัวง่ายๆ แบบนั้นมันดู...ใจง่ายชะมัด"
"..."
เธอยังคงเงียบไม่ยอมตอบโต้อะไรออกมา แต่ผมก็แอบเห็นนะว่าเธอดึงชายชุดเดรสของตนให้มันต่ำลง ก็แหงสิ! เดรสรัดติ้วสั้นครึ่งต้นขาแบบนั้นนั่งที่คงเย็นดีพิลึก ไม่รู้ว่าคุณเธอใส่มันได้ยังไง
"นี่ตกลงจะไม่พูดอะไรใช่ไหม"
"..."
"สงสัยว่าจะไม่อยากคุยสินะ งั้นไม่เป็นไร"
เธอคงคิดว่าผมคงหมายถึงว่าจะไม่ชวนคุยอีก แต่โทษที่ผมมันไม่ใช่พระเอกขนาดนั้น ในนาทีต่อมาสาวน้อยข้างตัวถึงกับร้องโวยวายอย่างไม่อาจทนได้เหมือนเก่า เมื่อผมบังคับรถให้เลี้ยวเข้าจอดในที่เปลี่ยวข้างทางแห่งหนึ่ง
"จะ...จอดทำไม! คิดจะทำอะไรน่ะ!"
"โวยวายทำไม พี่ไม่เอาเธอหรอกน่า ไม่ได้เตรียมถุงยางมา แค่อยากคุยด้วยเอง หรือถ้าเธอไม่คุยก็ได้นะ เอาสดพี่ก็ไม่ขัด"
ลูกแพร์เม้มปากแน่นก่อนสะบัดหน้าหนีอีกครั้ง แต่ผมรู้ดีว่าเธอยอมพูดด้วยแน่จากการประเมินสถานการณ์ตรงหน้า
"คุณอาคงบอกแล้วสินะ ว่าจะให้เธอมาติวพิเศษกับพี่ ทั้งวิชาเรียนและก็เรื่องว่ายน้ำ"
"เออ"
"งั้นพี่ก็หวังว่าเธอจะเป็นเด็กดี ที่ตั้งใจเรียนนะ พี่ขี้เกียจเหนื่อยกับเด็กดื้อแบบเธอ "
"เออ รู้แล้ว แค่เรียนใช่ไหม ทีนี้ก็พาฉันกลับบ้านสักที ง่วง!"
ริมฝีปากหนาเผลอยกยิ้มออกมากับท่าทีจำยอมนั้นก่อนจะเลี้ยวรถกลับถนนเส้นหลักดังเดิม โดยไม่วายชวนอีกฝ่ายคุยไปด้วยแก้อาการง่วงนอน
"ไม่เจอกันปีเดียวไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนไปเยอะนะ จากเด็กแก่นๆ มาเป็นสาวเปรี้ยวไม่แคร์โลกแบบนี้"
"แล้วมายุ่งอะไรด้วยล่ะ"
"พี่ก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยหรอกนะถ้าคุณอาไม่ขอร้อง ในวัยเธอพี่ก็เข้าใจนะว่าการคบเพื่อนมันก็ชอบตามเพื่อนแต่นี่มันก็เกินไป เธอติดจนการเรียนเสียแบบนี้ ไม่คิดหรือไงว่าคุณอาจะเสียใจ"
"อย่ามายุ่งได้ไหม! มีหน้าที่สอนเรื่องเรียนอย่ามาจุ้นเรื่องส่วนตัว พี่น้องแท้ๆ ก็ไม่ใช่ เป็นแค่ลูกเพื่อนพ่อก็มาทำวางอำนาจ ชอบสั่งสอนคนอื่นคิดว่าตัวเองเหนือกว่า!"
ผมเลือกที่จะไม่ใส่ใจไอ้อารมณ์ฉุนเฉียวนั่นของเธอแล้วชวนคุยต่อไป ชวนคุยเพราะไม่อยากหลับใน
"ทำไมเธอถึงลงชมรมว่ายน้ำล่ะ ทั้งที่ตัวเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นแท้ๆ"
"ไม่เป็นแล้วไง ถ้าแค่ชอบก็เข้าไม่ได้เหรอ"
เธอตีรวนกลับมาอีกแต่ผมเลือกจะไม่สนใจ
"มันก็ได้ถ้ามันจะไม่ทำให้เธอลำบากมานั่งสอบแก้ใหม่ เพราะตัวเองไม่ผ่านการว่ายน้ำขั้นพื้นฐานแบบนี้หรอกนะ"
"ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าชมรมนั่นเขาจะสอบวัดผลกันด้วย"
"มันก็เรื่องปกตินะนั่น แค่นี้ก็คิดไม่ได้ หรืออาจจะคิดได้แต่แค่อยากไปส่องผู้ชายเท่านั้น"
"รู้ได้ไง ใครบอก!"
เธอเอ่ยถามเสียงแหลมแปร๊ดอย่างลืมตัว เล่นเอาจนผมหูแทบแตกทั้งใบหน้ายังแดงก่ำอีก เหอะ! ก็คงชอบเขามากสินะอายขนาดนี้น่าหมั่นไส้ชะมัด
หมั่นไส้จนผมนึกหงุดหงิดขึ้นมา
"ยัยอ้อม! ต้องยัยอ้อมแน่ๆ ใช่ไหม แล้วที่นายรู้ว่าฉันอยู่นี้ก็เพราะเธอแน่ ชิ! คราวนี้จะไม่พูดด้วยจริงๆ แล้ว"
เธอหมายถึงเพื่อนสนิทผู้แสนดีเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ของเธอ คนที่พ่วงตำแหน่งน้องสาวคนสวยของผมนั่นเอง
"ก็ตามใจเธอ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้หลังหมดคาบเรียนฉันจะไปรับ แล้วเดี๋ยวจะติวเรื่องเรียนให้ วันไหนไม่มีเรียนค่อยเอาเรื่องว่ายน้ำ ถ้าตั้งใจไม่นานก็เป็น"
น่าแปลกที่ครั้งนี้เธอตอบรับด้วยคำสุภาพอย่าง 'ค่ะ' ออกมา แต่นั่นไม่ได้ทำให้ผมเฉลียวใจเลยแม้แต่น้อยว่าเธอจะบิดพลิ้วไม่ยอมเข้าเรียน!
มันทำเอาผมเสียความมั่นใจไปอยู่ไม่น้อยเลยจากอีตอนแรกที่คิดว่ากำราบเธอได้แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้มารยาเธออยู่ดี และถ้ามันครั้งเดียวก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่เธอเล่นโดดมันทุกคาบเลยจนผมรู้สึกได้เลยว่า คุณอาทั้งสองเริ่มหมดหวังในตัวผมแล้ว
ซึ่งนั่นมันเป็นอะไรที่ผมยอมไม่ได้ คนอย่างผม 'นายนาวา' ไม่ยอมล้มเหลวแน่ และใครจะคิดว่าผมจะค้นพบวิธีกำราบเธอได้โดยบังเอิญ...จากการเห็นเธอหฤหรรษ์กับการใช้ช่วยตัวเองในค่ำวันหนึ่ง!
*****