อิสลินอ้าริมฝีปากออกเพื่อรับเรียวลิ้นอุ่นร้อนซึ่งเป็นบทเรียนแรกที่นักเรียนสาวได้รับจากอาจารย์หนุ่ม เซอร์เรนัล์ฟคล้ายอดใจไว้ไม่ไหวต้องลูบโลมฝ่ามือหนาลงไปตามส่วนคอดเว้า เขาเคยจูบเธอมาหลายคราทว่าก็ไม่มีครั้งใดปลุกปั่นความปรารถนาจากก้นบึ้งได้มากเท่านี้ ปลายลิ้นหนาซอกซอนไปหมดทุกที่ พลิกพลิ้วไปตามกระพุ้งแก้มและกระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างมีชั้นเชิง
“ไคลน์”
ร่างเล็กที่ซ่อนความอวบอัดกอดรัดแผ่นหลังกว้างและเริ่มครวญครางเบา ๆ เมื่อเขาแกล้งยั่วเย้าเธอด้วยการหยุดทุกอย่างลงชั่วครู่
“อีฟ...คุณมีอะไรอยากบอกผมอย่างนั้นหรือ?”
แม้กายหนาจะหยุดการบดเบียดทว่านัยน์ตาคู่นั้นยังจับจ้องดวงตาคู่งามด้วยความฉ่ำหวาน อิสลินไล้ปลายนิ้วไปบนแผงอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหนั่นแน่นสมชายชาตรีก่อบอกด้วยเสียงสั่นพร่า
“ไคลน์คะ...แล้วบทเรียนต่อไปล่ะคะ”
หญิงสาวหน้าแดงเพราะเขินอายแต่ร่างกายกลับไม่รีรอที่จะตอบสนองเขาในทุกสัมผัส คงน่ากระดากเกินไปที่จะร้องขอว่าอย่าได้หยุดทุกอย่างลงแค่นี้
“คุณคงไม่รู้หรอกที่รัก ว่าผมตื่นเต้นมากแค่ไหนที่จะสอนบทเรียนต่อไปให้คุณ”
เซอร์เรนัล์ฟคงรู้สึกอย่างที่พูดจริง ๆ เมื่อมือใหญ่เลื่อนมากอบกุมเนินเนื้ออวบนุ่มทั้งสองข้างไว้ด้วยอาการสั่นเล็ก ๆ หญิงสาวอยากบอกว่ามันเป็นบทเรียนอันน่าอัศจรรย์เมื่อเขาเริ่มเชยชมความงามนั้นด้วยการเสียดถูคางระคายไปมาก่อนครอบครองปลายสุดของโนมเนื้อเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนอมชมพูด้วยเรียวปากและปลายลิ้นสลับกันทั้งขบเม้มและดูดดุนจนร่างอรชรอ่อนเปลี้ยไปหมด
“ไคลน์...พอเถอะค่ะ...พอเถอะ”
ปากเล็กนั้นเว้าวอนอยากให้เขาหยุดแต่มือทั้งสองกลับขยุ้มเรือนผมสีน้ำตาลและแอ่นกายเข้าหา อิสลินรับรู้ถึงความรู้สึกแปลกใหม่ทั้งกำซาบซ่านและกำลังจะทำให้เธอระเบิดออกเป็นเสี่ยง หญิงสาวคล้ายคนหลงละเมออยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ที่ปรนเปรอความสุขทะลักทลายผ่านเรือนกายที่กำลังบดเบียดเสียดสี
“อืม...อา”
เสียงครางที่ลอดผ่านเรียวปากจิ้มลิ้มดังขึ้นเรื่อย ๆ ราวจะแข่งกับเกลียวคลื่นที่ซัดสาดอยู่เบื้องนอก อิสลินเผลอหยิบกลีบกุหลาบที่กระจัดกระจายอยู่ใต้แผ่นหลังไล้บนเรียวปากฉ่ำและลิ้มเลียรสอันหอมหวานล้ำจากกุหลาบแห่งโมนาโก เซอร์เรนัล์ฟยังไม่ยอมละใบหน้าหล่อเหลาจากเต้ากลมอวบอิ่ม เขายังคงเฟ้นฟอนและไล้เลียดไปมาขณะกอบกุมมันไว้ในมือราวกลัวจะสูญหาย จนคิดว่าถึงเวลาของบทเรียนต่อไปเจ้าของใบหน้าคมคายจึงผงกศีรษะขึ้นมองร่างอรชรซึ่งบัดนี้ผิวเนียนละมุนกรุ่นไปด้วยกลิ่นจากกลีบดอกไม้
“อีฟ...คุณทั้งสวยทั้งหวานไปหมดทั้งตัว คุณสวยยิ่งกว่าปรินเซส เดอ โมนาโกที่ผมคิดว่ามันสวยที่สุดแล้ว”
“มันเป็นดอกไม้ที่ฉันชอบมากค่ะ บอบบบางแต่ช่างเป็นความงามที่ทรงพลัง”
“และมีเสน่ห์น่าหลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ” เหมือนเขาที่ถูกสะกดให้ใหลหลงความงามเบื้องหน้าในตอนนี้ เซอร์เรนัล์ฟก้มลงจูบซับใต้ถันกลมกลึงก่อนระเรื่อยลงไปถึงสะดือบุ๋มบนหน้าท้องแบนราบ ใช่แต่เขาที่ชีพจรเต้นเร็วแต่การปลุกเร้าอันยวนเย้ายังทำให้เอเวอร์ลีนถึงกับสะดุ้งเล็ก ๆ เมื่อเรียวปากนั้นเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ
“ไคลน์...คุณกำลังจะ...”
เสียงแหบพร่านั้นขาดเป็นห้วง ๆ เมื่อป่าผืนน้อยชุ่มฉ่ำถูกรุกล้ำอย่างเชื่องช้าทว่าน่าหวั่นหวาม ชายหนุ่มเหมือนภมรที่แทรกผ่านปราการบาง ๆ เข้าไปควานหาจนเจอดอกไม้กลีบบางและไม่รอช้าที่จะเลาะเล็มความฉ่ำหวานของความงามที่เบ่งบานเต็มที่
“ไม่นะคะ...ไคลน์ ได้โปรด”
อิสลินครวญด้วยเสียงอันเบาจนกลายเป็นกระซิบขณะส่ายศีรษะไปมาจนเรือนผมสยายยุ่งบนผ้าคลุมเตียงที่ยับยู่ยี่ กลิ่นกุหลาบอวลไอไปทั่วทั้งกายสาวที่สั่นระริกเมื่อรับรสแห่งกำหนัดจากแก่นกลางซึ่งถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก ร่างแน่งน้อยไม่รู้จะฉุดรั้งความซ่านสยิวที่แผ่ออกไปทุกทิศทางได้เช่นไรเมื่อสะโพกผายถูกกดไว้ให้แนบสนิทกับใบหน้าคร้ามเข้มที่ยังลิ้มรสความหวานหอมตรงใจกลางกลีบดอกไม้แสนสวยสะพรั่งอย่างไม่รู้อิ่ม
อิสลินชันเข่าเพื่อสะกดกลั้นความเสียวซ่านที่กำลังถาโถมเข้ามาเป็นระลอกและเมื่อเซอร์เรนัล์ฟเห็นว่าเธอกำลังสำลักความสุขเกือบถึงขีดสุดจึงหยุดตัวเองลงอีกครั้ง แววตาคู่งามสะท้อนความเสียดายแต่ก็ต้องพบกับความตื่นเต้นครั้งใหม่เมื่อคนตัวโตค่อย ๆ เลื่อนใบหน้ากลับขึ้นมาที่แอ่งหน้าท้องและตวัดเรียวลิ้นรอบสะดือบุ๋มก่อนชิมความหอมหวานบนเนื้ออุ่นกระทั่งหยุดลงใต้ฐานทรวงอกอิ่มกลมกลึงที่กระเพื่อมขึ้นลงเพราะแรงหอบหายใจ
“อีฟ...คุณคงอยากรู้ใช่ไหมว่าบทเรียนต่อไป...ผมจะสอนอะไรคุณ”
เซอร์เรนัล์ฟหยอดคำถามขณะไล้ปลายนิ้วลงบนกลีบปากสีกุหลาบฉ่ำราวจะยั่วเย้าหญิงสาวที่เริ่มกระหายและบิดเร่าอย่างสุดแสนรัญจวน
“คงยังไม่ถึงบทเรียนสุดท้ายใช่ไหมคะ...ไคลน์”
“ยังหรอกที่รัก”
ชายหนุ่มส่ายหน้าพร้อมดูดกลืนยอดปทุมงามด้วยริมฝีปากจนร่างเล็กแอ่นกายเพราะไฟเสน่หาที่เขาค่อย ๆ จุดมันจนลุกโพลง “คุณยังต้องเรียนรู้ต่อไป...และต่อไปเรื่อย ๆ “
“ถ้าอย่างนั้นบอกฉันสิคะ ไคลน์ แล้วต่อไปคุณจะสอนอะไรฉัน”