ตอนที่5 ให้ฉันไปส่ง

1352 คำ
เทียนษา “บางทีฉันก็เบื่อเธอมากเลย!” คุณปกป้องพูดขึ้นอย่างไม่ปี่มีขลุ่ยทำให้ฉันต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ “ฉันไปทำอะไรให้คุณอีกล่ะ” ฉันถามกลับคนที่เริ่มเมาออกไปอย่างไม่เข้าใจ “เหอะ!” อะไรคือการแค่นเสียงออกมาแบบนี้ แล้วฉันจะเข้าใจไหมล่ะ “เมาแล้วกลับไปนอนไหม” ฉันถามเขาขึ้น เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว ขืนปล่อยให้นั่งกินต่อจนผับปิดฉันว่าต้องเมากว่านี้แน่ “ยังไม่อยากกลับ!” แล้วทำไมต้องทำเสียงเข้มขนาดนั้นด้วยล่ะ ฉันไปทำอะไรให้ไม่พอใจอีก “โอเคค่ะ ไม่กลับก็ไม่กลับ” ฉันตอบกลับก่อนจะหันมานั่งจิบแก้วตัวเองต่อ แต่ก็ได้แค่จิบเท่านั้นแหละ เพราะคนที่ไปรับฉันดันเมาแล้วนี่ เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ในที่สุดสิ่งที่ฉันคิดก็เป็นจริง เพราะตอนนี้คุณปกป้องได้เมาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปกติเวลามาไม่เคยกินให้เมาเลยสักครั้ง แล้ววันนี้เป็นอะไรไปล่ะ ทำไมถึงได้หมดสภาพแบบนี้ไปได้ นี่ถ้ามีพนักงานบริษัทมาเห็นเข้า หมดความน่าเชื่อถือกันพอดี “เธอน่ะ แม่ง!” เขาพูดขึ้นหลังจากฉันให้เด็กในร้านช่วยแบกเขามาขึ้นรถ “ฉันอะไรคะ” ไม่อยากพูดกับคนเมาเท่าไหร่หรอก พูดไปก็ไม่รู้เรื่อง แต่ดูเหมือนกับเขาไม่พอใจอะไรฉันอยู่ไง เพราะเขาบ่นอะไรใส่ฉันมาสักพักแล้ว แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที “เบื่อเธอว่ะเทียนษา” เห็นไหม แล้วจะให้ฉันคิดอะไรได้ “เห้อ!” ฉันได้แต่ส่ายหัวให้กับเขาก่อนจะเลือกขับรถกลับคอนโดของเจ้านายเพื่อไปส่ง “เดินไหวไหมคะ” ฉันถามเขาขึ้นหลังจากมาถึงคอนโดแล้ว “อืม!” เขาตอบออกมาห้วน ๆ หลังจากฉันถาม ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป ฉันเลยรีบลงตามไปติด ๆ กลัวจะล้มหัวฟาดพื้นไปก่อนนะสิ “เดินดี ๆ สิคะ” ฉันเข้าไปประคองคนที่บอกว่าเดินได้ แต่เดินเซไปเซมาไม่หยุดอยู่นี่แหละ แถมตัวก็หนักอีก นี่ถ้าล้มมาฉันว่าต้องปล่อยให้เขานอนตรงนี้แหละ “ฉันช่วยไหม” แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้ฉันหันไปมองทันทีก่อนจะเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเจอในผับ “อ๋อ ขอบคุณค่ะ” ฉันรับคำอย่างไม่เรื่องมาก อย่างน้อยแรงผู้ชายก็มากกว่าแรงผู้หญิงอย่างฉันอยู่ดี “คุณพักที่นี่” เขาถามขึ้น “เปล่าค่ะ ที่นี่คอนโดเจ้านายฉัน” ฉันตอบกลับคุณนาวินอะไรนั่นกลับไป ยังไงธุรกิจบ้านเขาก็เป็นลูกค้าบริษัทที่ฉันทำงานอยู่นี่เนอะ อีกอย่างเขาก็มีน้ำใจไม่ได้ทำตัวแย่อะไร ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่ออกห่างจากเขา “ดูแลเจ้านายดีขนาดนี้แฟนเธอไม่ว่าอะไรหรอ” แล้วเขาก็พูดขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองเขาอีกครั้งทันที “.....” ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นอกจากยิ้มให้เป็นมารยาทก่อนจะหุบยิ้มทันทีเพื่อเป็นการบ่งบอกให้เขารู้ ว่าฉันไม่ต้องการพูดเรื่องส่วนตัวกับคนไม่สนิท “เป็นเลขาฉัน เธอต้องห้ามมีแฟน” แล้วเสียงของคุณปกป้องก็ดังขึ้นพร้อมกับมองฉันอย่างไม่พอใจ “อะไรของคุณเนี่ย” ฉันได้แต่ว่าให้เขาอย่างเหนื่อยใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ “เข้าใจที่ฉันพูดไหม!” แล้วเขาก็ถามขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงเข้มกว่าเดิม “เมาแล้วก็เงียบไปเถอะค่ะ” ฉันว่าให้เขาอย่างหนักใจอีกครั้ง ถ้ารู้ว่าเมาแล้วเลอะเถอะแบบนี้ไม่ปล่อยให้เมาแล้ว ติ๊ง แล้วเสียงลิฟท์ก็ดังขึ้นหลังจากถึงชั้นของคุณปกป้อง “เดี๋ยวฉันไปส่งที่ห้องเป็นเพื่อนดีกว่า” แล้วคุณนาวินก็พูดขึ้น “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ” ฉันพูดขึ้นหลังจากเห็นสีหน้าของผู้หญิงข้างกายเขาที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเท่าไหร่ “ผู้ชายเมาไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง เธอไม่รู้หรอ” แล้วเขาก็พูดขึ้น ซึ่งอันนี้ฉันก็พอเข้าใจได้นะ อีกอย่างตั้งแต่ทำงานกับคุณปกป้องมาเขาก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมาเลย นี่ก็พึ่งเคยเห็นเขาเป็นแบบนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน แล้วอยู่ ๆ คุณนาวินก็ออกแรงประคองคุณปกป้องเดินนำฉันไปก่อนทันที ทำให้ฉันต้องรีบเดินตามไปอย่างพูดอะไรไม่ได้ พอมาถึงหน้าห้องฉันก็สแกนลายนิ้วมือตัวเองเข้าไปทันที เพราะคุณปกป้องให้ฉันสแกนไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน “หึ” แต่อยู่ ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากคุณนาวินทำให้ฉันอดจะหันไปมองเขาไม่ได้ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร นอกจากเลิกคิ้วเป็นคำถามใส่ฉัน ฉันไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แล้วพาคุณปกป้องเข้าไปส่งที่ห้องนอนทันที “ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วย” ฉันพูดขึ้นหลังจากวางคุณปกป้องลงเตียงแล้ว “แล้วเธอจะกลับตอนไหน” แล้วคุณนาวินก็ถามฉันออกมา “เดี๋ยวก็กลับค่ะ” ฉันพูดขึ้น เพราะเดี๋ยวจะเปลี่ยนเสื้อให้คุณปกป้องแล้วก็เช็ดตัวให้เขานิดหน่อยก็กลับเลย “ฉันเห็นเธอขับรถเจ้านายเธอมา แล้วจะกลับยังไง” เขาถามต่อ “ก็คงเอารถคุณป้องไปก่อน” มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว เพราะรถเขาน่ะ ฉันขับพอ ๆ กับเจ้าของเลยแหละ “ฉันไปส่งดีกว่า เป็นผู้หญิงขับรถคนเดียวอันตราย” แล้วคุณนาวินก็พูดขึ้น “ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” เพราะแค่เขามาช่วยฉันแค่นี้ผู้หญิงของเขายังทำหน้าไม่พอใจขนาดนั้น ขืนให้เขาไปส่งฉันอีก ผู้หญิงคนนั้นได้จำหน้าฉันแล้วมาฉีกอกฉันทีหลังแน่ “เอาแบบนี้แล้วกัน” “นี่คุณ!” ฉันร้องเรียกเขาขึ้นหลังจากอยู่ ๆ เขาก็พูดเองเออเองก่อนจะดึงกระเป๋าสะพายของฉันไปแล้วเดินออกจากห้องนอนไปทันที ฉันหันกลับมามองคุณปกป้องที่หลับไปแล้วตั้งแต่หัวถึงหมอน ก่อนจะเดินเข้าเอาผ้าขนหนูชุบน้ำแล้วออกมาเพื่อเช็ดตัวให้เขา ฉันถอดเสื้อให้เขาจะได้ไม่อึดอัด พร้อมกับถอดเข็มขัดออกเพราะว่ามันคงเจ็บแน่เวลานอนทับ “นี่หน้าที่ของเลขาด้วยหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ฉันต้องหันไปมองด้วยความตกใจ ก็เมื่อกี้เขาเดินออกไปข้างนอกแล้วนี่ ใครจะไปคิดว่าเขาจะกลับเข้ามาคืน “.....” ฉันไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะหันกลับมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้เขานิดหน่อยจนเสร็จ แล้วก็เอาผ้าไปตาก ก่อนจะออกจากห้องเขา “คุณไปส่งฉันได้จริง ๆ หรอ” ฉันถามเขาออกไปอีกครั้ง “ได้สิ” เขาตอบกลับออกมาอย่างไม่ใช่ปัญหาอะไร ส่วนผู้หญิงของเขาตอนนี้ไม่เห็นแล้วล่ะ “ค่ะ” ฉันตอบกลับก่อนจะยอมลงไปข้างล่างพร้อมกับเขาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท แล้วถ้าถามว่าทำไมฉันถึงได้กล้านั่งรถมากับเขาทั้งที่พึ่งรู้จักกัน ก็คงเพราะว่าฉันก็พอรู้จักครอบครัวเขามั้ง(รู้จักในวงการธุรกิจ) อย่างพี่ชายเขาที่เคยเห็นก็เป็นคนน่าเชื่อถือมาก แล้วก็ยังเป็นสุภาพบุรุษพอตัวด้วย ส่วนพ่อของเขาที่ฉันได้เห็นเวลาออกงานท่านก็ดูภูมิฐานและมีความน่าเคารพเกรงขามพอตัว พ่อกับพี่ชายเป็นแบบนี้ แล้วน้องชายจะต่างกันได้ยังไงล่ะ ใช่ไหม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม