Chapter 18

1975 คำ
ร้อยตรีวินเซนต์นำทีมทหารจู่โจมมุ่งหน้าสู่สำนักงานตำรวจ อันเป็นฐานที่มั่นของแก๊งขวานซิ่งที่นำโดยอาเลสซันโดรและเจอโรม สักพักพันตำรวจมาซอกโดก็วิทยุติดต่อมา ดูเหมือนทีมของฝั่งนั้นจะเคลียร์พื้นที่ของตัวเองได้แล้ว ดังนั้นจุดมุ่งหมายเดียวคือสำนักงานตำรวจของเมืองเมตน์ ทั้งหมดใช้เวลาในการเดินเท้าสามสิบนาที จนในที่สุดทีมทหารจู่โจมก็มาถึงจุดหมาย สำนักงานตำรวจประจำเมืองเมตน์ ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ มียามเฝ้าอย่างเข้มแข็งแถมอาวุธครบมือ เรียกได้ว่าพวกมันเตรียมรับมือหากมีการบุกโจมตี ฮาจองอูหันไปเห็นบรรดาเหล่าตำรวจและยุวชนตำรวจมากมาย ต่างนอนจมกองเลือดอยู่เบื้องหน้าสำนักงานบนท้องถนน ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวมีหลายคนต่างสะเทือนใจกับภาพตรงหน้ามาก ร้อยตรีวินเซนต์พูดแค่ว่า "เสร็จเรื่องนี้ เราจะกลับมารับพวกเขา" ทุกคนต่างพยักหน้ารับทราบ และโฟกัสต่อภารกิจในตอนนี้ ร้อยตรีวินเซนต์ใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อดูจำนวนศัตรู พร้อมกับวางแผนที่จะเข้าจู่โจม ทว่าเมื่อดูผ่านกล้องส่องทางไกลแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าฝั่งศัตรูมีกำลังพลมากกว่าที่คิดไว้ ทว่าเรื่องนี้ไม่อาจดับไฟแห่งความเดือดดาลของเหล่าทหาร ที่ได้เห็นร่างไร้วิญญาณของประชาชนและบรรดาเหล่าตำรวจที่นอนจมกองเลือดตรงหน้า สักพักร้อยตรีวินเซนต์หันมาสั่งการด้วยภาษามือ ให้ทุกคนเตรียมระเบิดหลายลูก จากนั้นก็หันไปทางทหารคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ให้ใช้ธนูเวทยิงขึ้นฟ้า ทหารคนนั้นทำตามด้วยการยิงขึ้นฟ้าตามคำสั่ง ลูกธนูพ่วยพุ่งขึ้นท้องฟ้าดึงดูดความสนใจของศัตรูที่พากันเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน พริบตาเดียวลูกธนูแตกออกกลายเป็นพลุแสงสว่างวาบแสบตา "ตอนนี้แหละ ! โยนระเบิดไปกลางวงเลย" ร้อยตรีวินเซนต์หันมาสั่งทันควัน ทุกคนต่างรีบโยนระเบิดไปกลางดงศัตรูทันทีไม่กี่นาทีต่อมา เสียงระเบิดกัมปนาทดังระงมไปทั่วบริเวณจนปาร์คซูโฮไม่แน่ใจว่า แก้วหูของเขาจะกลับมาทำงานปกติได้อีกไหม หลังจากที่โยนระเบิดไปแล้วร้อยตรีวินเซนต์ก็ตะโกนสุดเสียงไปว่า "ลุยถล่มพวกมัน ล้างแค้นให้กับพี่น้องของพวกเรา และประชาชนของพวกเรา" ฮาจองอูและปาร์คซูโฮพากันกระโจนออกจากที่ซ่อน และวิ่งเข้าไปตะลุมบอนสู้กับแก๊งขวานซิ่งอย่างไม่เกรงกลัว แปดนาทีต่อมาพวกเขาก็ได้ยินเสียงรถหลายคันกำลังตรงมาทางนี้ ซึ่งมันคือพันตำรวจเอกมาซอกโดและตำรวจคอมมานโดจากหน่วยสวาท ทันทีที่เดินลงจากรถพันตำรวจเอกมาซอกโด ก็วิ่งนำทัพตรงเข้ามาสู่การตะลุมบอน การมาของตำรวจร่างหมียักษ์ สร้างความสะพรึ่งกลัวให้กับศัตรูไม่น้อย บวกเสียงหัวเราะอันบ้าบิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ด้วย ก็เหมือนกับฝ่ายพวกเขาได้เปรียบอยู่เล็กน้อย "ลุงนายเนี่ย เสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนไปเลยนะ" ฮาจองอูหันมาพูดกับปาร์คซูโฮ "เออ เรื่องบ้าพลังเนี่ย ยกให้ลุงได้เลย" ปาร์คซูโฮพูดและจัดการศัตรูไปแล้วสี่คน ทันใดนั้นเองที่สองยุวชนทหารสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันรุนแรง ซึ่งแผ่ออกมาจากอาคารสำนักงานตำรวจ ทั้งสองรับรู้ได้ในทันทีว่าปัญหาใหญ่ปรากฏตัวออกมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ไม่ช้าตรงริมหน้าต่างชั้นบนสูง ก็แตกออกพร้อมกับร่างคนสองคนพุ่งออกมาจากอาคาร แล้วกระโดดลงที่ใจกลางสมรภูมิตะลุมบอน คลื่นพลังจากทั้งสองซัดร่างทั้งลูกสมุน ทหารและตำรวจปลิวกระเด็นไปคนละทิศละทาง คนที่ยังพอต้านได้มีไม่กี่คนสองในนั้นคือ ปาร์คซูโฮกับฮาจองอู "แม่งเอ้ย !" ฮาจองอูสบถอุทานออกมา "ปลาตัวใหญ่มาแล้วล่ะ" ปาร์คซูโฮพูด สายตาแอบมองกำไลหยกที่มือขวา "ฉันว่ามันไม่ใช่แค่ปลาใหญ่นะเพื่อน แต่นี่นะมันฉลามขาวสองตัวชัด ๆ" +++++++ อาเลสซันโดร เจ้าของฉายา เฮอร์คิวลิส ขุนศึกอันดับต้น ๆ ของแก๊งขวานซิ่ง ลูกน้องใต้สังกัดเฉิงเย่วถิง อดีตเด็กเร่ร่อนที่ถูกทอดทิ้งในอดตายในท่อระบายน้ำ แต่เพื่อมีชีวิตรอดต่อไปเด็กชายจึงยอมทำทุกอย่างตั้งแต่ลักเล็กขโมยน้อย ไต่ระดับไปถึงการก่ออาชญากรรมอย่างเช่นการปล้น ภายหลังพออายุได้สิบสามปีก็ไปเข้าแก๊งอันธพาลเล็ก ๆ และได้เจอกับ เจอโรม เจ้าของฉายา โอดิสเซียส ในตอนนั้นเจอโรมคือลูกนอกสมรสของเศรษฐีคนหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม สุดท้ายทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนรักกันแบบตายแทนกันได้ กาลเวลาต่อมาอาเลสซันโดรกับเจอโรมก็ได้พบกับเฉิงเย่วถิง และได้กลายเป็นผู้ติดตามแล้วได้รับการปลุกพลังมานาจากอีกฝ่าย ซึ่งการปลุกพลังครั้งนั้นได้ทำให้ร่างกายของอาเลสซันโดร ที่เคยผอมแห้งมีม้วนมัดกล้าม และมีร่างกายที่สูงใหญ่จนน่าเกรงขามพร้อมพละกำลังมหาศาล จึงเป็นที่มาของฉายาว่าเฮอร์คิวลิส ส่วนเจอโรมเดิมทีเขาเป็นลูกนอกสมรสของเศรษฐีคนหนึ่งแม้จะเติบโตมาบนกองเงินกองทอง แต่การมีตัวตนของเจอโรม ไม่ต่างอะไรจากเสี้ยมหนามตำใจภรรยาหลวงที่พบว่าสามีนอกกายนอกใจ ชีวิตช่วงวัยเด็กของเจอโรมถูกพี่ ๆ ต่างมารดารุมแกล้งสารพัด แต่เด็กชายวัยเพียงเก้าปีทำได้แค่อดทนเท่านั้นเพื่อให้ตนเอง ยังมีที่ซุกหัวนอนและไม่อดตายก็พอ จนกระทั่งพออายุได้สิบสองขึ้นสิบสาม บิดาได้เสียชีวิตจากการถูกปล้น เมื่อไม่มีคนคุ้มกะลาหัวแล้วภรรยาหลวงของบิดา ก็ทำการเนรเทศเจอโรมให้ไปนอนห้องคนรับใช้ และใช้งานเขาเยี่ยงทาสซึ่งเจอโรมอดทนมาได้แค่สามเดือน ความอดทนก็ขาดสะบั้นเมื่อเขาเห็นหนึ่งในพี่ต่างมารดา ทารุณกรรมแมวที่เจอโรมเลี้ยงไว้ตาย ความโกรธและแรงเก็บกดต่าง ๆ ที่สะสมมานาน เจอโรมเลือดขึ้นหน้าพร้อมกับทำร้ายพี่ต่างมารดาคนนั้น จนถึงขั้นนอนโคม่าในโรงพยาบาล เจอโรมจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน กลายมาเป็นเด็กเร่ร่อนและได้เจอกับอาเลสซันโดร จุดเด่นของเจอโรมคือทักษะการใช้ดาบ เฉิงเย่วถิงจึงมอบสมญานามให้ว่าโอดิสเซียส และด้วยความสนิทกับอาเลสซันโดร ทั้งสองจึงมักได้รับมอบหมายงานสำคัญด้วยกันทั้งคู่เสมอ ดังนั้นในภารกิจปฏิบัติการเมืองสะอาด คู่หูมหาประลัยคู่นี้ถือว่าเป็นศัตรูที่ไม่ควรประมาทเป็นอย่างยิ่ง เพราะนั้นอาจเป็นลมหายใจสุดท้ายก็ได้เพราะนั้นอาจเป็นลมหายใจสุดท้ายของคนผู้นั้นก็เป็นได้ +++++++ "ลาสบอสที่นี่โผล่มาแล้ว" ฮาจองอูบอก "ฉันเห็นแล้ว" ปาร์คซูโฮตอบ การปรากฏตัวของสองตัวปัญหาสร้างความหวาดเกรงแก่ฝ่ายตำรวจพอสมควร ยกเว้นทีมของร้อยตรีวินเซนต์ อย่างไรก็ตามปาร์คซูโฮสัมผัสได้ว่า อาเลสซันโดรมันเล็งพันตำรวจเอกมาซอกโด เนื่องจากวัดความสูงและม้วนมัดกล้ามแล้ว ก็ถือว่าทั้งสองทัดเทียมกันพอสมควร ทว่ายุวชนทหารหนุ่มก็ยังอดเป็นห่วงลุงไม่ได้อยู่ดี ฝั่งพันตำรวจเอกมาซอกโดก็เหมือนจะรู้ว่า ตนโดนหมายหัวแล้วจึงเดินออกมาเผชิญหน้าตรง ๆ สร้างความชอบอกชอบใจให้กับอาเลสซันโดรมากขึ้นไปอีก "มาหาเองเลยเรอะ !" อาเลสซันโดรพูดเสียงกร้าว "ดี ! กูก็จะได้ไม่เปลืองแรง" ว่าแล้วมันก็เปล่งพลังมานาของมันออกมา คลื่นพลังมานากลายเป็นกระแสลมแรง เล่นเอาคนที่อยู่รอบบริเวณแทบจะยืนไม่ติดพื้น สองคู่หูอย่างปาร์คซูโฮและฮาจองอูเช่นกัน พันตำรวจเอกมาซอกโดยืนนิ่งไม่สะทกสะท้านใด ๆ ต่อพลังของอาเลสซันโดรเลยแม้แต่น้อย มันที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจ ราวกับเด็กน้อยที่ได้ของเล่นใหม่ในช่วงงานเทศกาล "หัวเราะอยู่ได้ กูเหม็นขี้ฟันมึงว่ะ !" ว่าแล้วนายตำรวจยศนายพันร่างหมี ก็เปล่งพลังไฟธาตุอรุณออกมาบ้าง คลื่นกระแสพลังก็รุนแรงไม่แพ้กับของอาเลสซันโดรเลย "ปากดีนะ มึง !" อาเลสซันโดรพูดและพุ่งเข้าโจมตีใส่พันตำรวจเอกมาซอกโดทันที พันตำรวจเอกมาซอกโดใช้สองมือดันแรงงัดข้อกับศัตรู "เออ ! กูอ่ะปากดี แต่มึงอ่ะปากเหม็น" สองคนตัวใหญ่ใช้แรงที่มีงัดข้อดันแรงกันและกัน เหมือนวัวกระทิงที่คึกคะนองสองตัวเอาเขาวิ่งชนกัน ปาร์คซูโฮซึ่งอยู่ใกล้สุดก็สังเกตว่าเจอโรมหายตัวไปแล้ว แต่ไม่นานยุวชนทหารหนุ่มสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและพลังมานา ซึ่งอยู่เหนือศีรษะของเขาไป "มองไปทางไหนเหรอ ไอ้น้อง" เจอโรมร้องตะโกนและยกดาบในมือหมายจะฟันร่างปาร์คซูโฮ ทว่าถูกขัดจังหวะโดยฮาจองอูที่วิ่งมากระโดดถีบข้างลำตัวเจอโรมก่อน ฮาจองอูตั้งหลักได้ก็พูดกับเพื่อนสนิทโดยที่ตา ยังจับจ้องที่เจอโรมที่ไถลไปกับพื้นเพราะแรงถีบ "อย่าเอาแต่เหม่อสิ เดี๋ยวก็ได้ไปนอนรากมะม่วงหรอก" ด้านเจอโรมที่ลุกขึ้นมาได้ก็พุ่งเข้าจู่โจมใส่ฮาจองอูอย่างรวดเร็ว คมดาบถูกตวัดตรงเข้าที่ข้างลำตัวฝั่งซ้าย เดชะบุญที่ฮาจองอูป้องกันคมดาบไว้ได้ทันแต่พลังมานาบนคมดาบ ก็ทรงพลังและรุนแรงมากจนฮาจองอูกระเด็นเซถอยรูดไปหลายเมตร "จองอู !" ปาร์คซูโฮร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ในเสี้ยววินาทีเดียวกับที่ร่างขอเจอโรมหายวับไป และปรากฏตัวต่อหน้าปาร์คซูโฮทันทีโดยที่เขายังไม่ทันหายใจเสียด้วยซ้ำ "มองไปไหนนะ ศัตรูของแกคือฉัน !" เจอโรมฟาดดาบเป็นแนวตั้งลงมาอย่างรวดเร็ว ทว่าปาร์คซูโฮม้วนกลิ้งหลบได้ และพลิกตัวลุกขึ้นพร้อมกับหมุนตัวเหวี่ยงลูกเตะซ้าย อัดเข้าข้างลำตัวของเจอโรม แรงเตะที่อัดไฟธาตุอรุณเล่นเอาศัตรูตรงหน้าถึงกับทรุดฮวบ เมื่อเห็นศัตรูล้มลงกับพื้นปาร์คซูโฮก็ตั้งใจจะเผด็จศึกเจอโรม ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะขยับตัวเขาก็รับรู้ถึงจิตสังหาร ที่พุ่งมาทางขวามือทำให้ปาร์คซูโฮยกแขนทั้งสองขึ้นมากันไว้ทันที แรงอัดกระแทกรุนแรงอย่างมาก ความรู้สึกแรกของเขาคือเหมือนโดนรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่พุ่งชนอย่างแรง ตัวปาร์คซูโฮปลิวกระเด็นไปชนกับเสาต้นหนึ่ง แต่โชคดีที่เขาชะลอการกระแทกไว้ได้ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก และคนที่ลอบจู่โจมใส่ปาร์คซูโฮก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอาเลสซันโดรที่เข้ามาช่วยเจอโรม สีหน้าของปาร์คซูโฮตื่นตระหนกทันที เพราะหากเฮอร์คิวลิสเข้ามาขวางเขาไว้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ยังเห็นสู้กับพันตำรวจเอกมาซอกโดอยู่เลย แต่แล้วสายตาของปาร์คซูโฮก็หันไปทางซ้ายมือ พบร่างนายตำรวจคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ "ลุงครับ !" ++++++++

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม