Chapter 8

1399 คำ
เสี้ยววินาทีก่อนที่คมขวานจะเข้ามาโดนต้นคอ ฮาจองอูได้กระทำสิ่งที่อัศวินแดงไม่เคยเห็น เขาใช้มือขวาจับตัวขวานหยุดมันไว้ ส่งผลให้คมขวานห่างจากคอเขานิดเดียว ฝั่งอัศวินแดงก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่า จะเจอศัตรูที่สามารถหยุดอาวุธของตนได้ ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือเรี่ยวแรงของฮาจองอูตอนนี้ ทำให้อัศวินแดงไม่สามารถชักอาวุธกลับได้ ราวกับมือของเด็กหนุ่มทากาวที่มีความเหนียวมาก ๆ มันจึงฟาดขวานอีกข้างแทน ทว่าฮาจองอูไม่ปล่อยให้มันทำเช่นนั้นได้ จึงปล่อยหมัดซ้ายอัดพลังไฟธาตุอรุณใส่อีกฝ่าย แรงอัดพุ่งกระแทกหน้าท้องอัศวินแดง มันจึงเซถอยหลังโดยอัตโนมัติ ด้านบรรดาเหล่าสมุนผู้ติดตามที่เห็นเจ้านายกำลังแย่ ต่างก็วิ่งกรูเข้ามาจัดการฮาจองอูในทันที แต่พวกมันกลับถูกเขาเล่นงานเสียเอง คมขวานของพวกมันแทบไม่โดนตัวเลย มีแต่จะโดนทั้งหมัด เข่า และศอกจากฮาจองอูเสียมากกว่า เขาเหวี่ยงลูกเตะขาไปที่ขาของศัตรู เมื่อเห็นมันเสียหลักแล้วฮาจองอูทำการปิดเกม ด้วยการเอาปลายศอกทิ่มเข้าที่ใบหน้าของมัน แรงทิ่มศอกส่งมันลงไปกระแทกกับพื้นแน่นิ่งไป ศัตรูทีเหลืออีกสี่ถึงห้าคนก็กรูเข้ามาพร้อมกัน ทว่าฮาจองอูแก้เกมด้วยการเตะฝุ่นทรายใส่หน้าพวกมันแทน ฝุ่นตลบฟุ้งกระจายกลางอากาศ เล่นเอาพวกศัตรูทำอะไรไม่ถูก ฮาจองอูอาศัยจังหวะนี้พุ่งเข้าจู่โจมระยะประชิด โดยศัตรูคนแรกอยู่ใกล้เขามากที่สุด ถูกเขาอัดหมัดซ้ายกระแทกปลายคาง แรงหมัดของเด็กหนุ่มทำให้ศัตรูหลับกลางอากาศ และล้มลงไปนอนกับพื้นในลักษณะแบบยืนตัวตรง ศัตรูอีกสี่คนไม่ยอมอยู่เฉย ๆ ให้โดนจัดการ แต่ละคนไล่ฟาดขวานในมือใส่ฮาจองอู ซึ่งรอบนี้เขาเลือกที่จะไม่หลบและโต้กลับด้วยสองหมัดไฟธาตุอรุณ พวกมันโดนไปคนละหมัดและล้มลงไปนอนกับพื้นกันหมด ร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอกับคนอื่นพากันตะลึงอ้าปากค้างในฝีมือของฮาจองอู กระทั่งตำรวจหนุ่มสังเกตเห็นตราโลโก้ทีมจู่โจมกับหน่วยรบบนแขนเสื้ออีกฝ่าย นาทีนั้นเองที่ร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอเข้าใจว่า ทำไมฮาจองอูถึงสามารถรับมือกับอัศวินแดงได้ ครู่ต่อมาไม่นานกำลังเสริมของตำรวจก็วิ่งตามมาสมทบ ซึ่งคนนำก็คือ ร้อยตำรวจเอกฟอลคอน พร้อมนำกำลังตำรวจคอมมานโดหนึ่งหมวดมา "พลเรือนหลบอยู่ด้านในใช่ไหม" ด้านร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอก็พยักตอบ และชี้ไปตรงด้านในของหมู่บ้าน มีพลเรือนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสามสิบคน มีตำรวจกับยุวชนตำรวจจำนวนสิบสองคน ทำหน้าที่คุ้มกันบริเวณทางเข้า ร้อยตำรวจเอกฟอลคอนพยักหน้าและสั่งให้คนของตนเข้าไปด้านใน ทางด้านฝั่งอัศวินแดงที่พึ่งหายจากอาการจุก เห็นว่าพรรพวกที่ติดตามถูกจัดการหมดแล้ว มันก็กัดฟันขบกรามแน่นด้วยความไฟโทสะ ตั้งแต่มันเข้าร่วมแก๊งขวานซิ่งมา ไม่เคยมีศัตรูหน้าไหนริอาจกล้ามาลูบคมตนได้ขนาดนี้ ถ้าหากอัศวินเหลืองรู้เรื่องนี้ละก็ มันขอปลิดชีพตนด้วยขวานของมันยังดีเสียกว่า ฝั่งฮาจองอูที่พอจัดการสมุนของอัศวินแดงแล้ว เขาพุ่งเข้าจู่โจมอีกฝ่ายในทันทีแต่แล้วอัศวินแดงกลับระเบิดพลังออกมา คลื่นพลังที่แผ่มาจากตัวมันทำให้ฮาจองอูถึงกับปลิวถอยกระเด็นไปหลายก้าว "มึง !" อัศวินแดงส่งเสียงอันแข็งกร้าวพลางเอาขวานชี้หน้าฮาจองอู "วันนี้มึงต้องตาย !" "เข้ามาเลย !" เขาท้าทายและเปร่งพลังไฟธาตุอรุณให้เข้มข้นขึ้นเช่นกัน ไม่กี่อึดใจทั้งสองก็วิ่งเข้าต่อสู้ในทันทีและเมื่อหมัดขวาของฮาจองอู พุ่งเข้าปะทะกับขวานของอัศวินแดง ฉับพลันบังเกิดแรงระเบิดของคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากทั้งสอง ส่งผลให้ทั้งฝุ่น ซากรถต่าง ๆ ปลิวกระจัดกระจายตามแรงระเบิด บรรดาคนที่อยู่ใกล้ต่างต้องพากัน ก้มหมอบหลบสิ่งกีดขวางที่ปลิวลอยข้ามหัวไป หลังวัดพลังกันกลายเป็นว่าทั้งฮาจองอูกับอัศวินแดง ต่างปลิวเซถอยรูดไปข้างหลังแต่แค่นี้ มันก็ไม่อาจหยุดการดวลตัวต่อตัวได้ อัศวินแดงวิ่งเข้าจู่โจมและฟาดฟันใส่ฮาจองอูอย่างบ้าคลั่ง หวังไม่ให้อีกฝ่ายหาจังหวะโต้กลับ ทว่ามันก็เป็นอีกครั้งที่เขาทำบางสิ่งที่บ้าบิ่นเอามาก ๆ ฮาจองอูอาศัยจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีเดียว วิ่งหลบขวานทั้งสองเล่มที่ฟันลงมา และพอเข้าประชิดตัวได้ฮาจองอูก็เหวี่ยงลูกเตะ อัดเข้าที่ข้อพับของขาซ้ายส่งผลให้อัศวินแดงทรุดฮวบลง แต่มันก็ไม่ยอมล้มโดยง่ายจึงถูกฮาจองอูจัดของแถม ด้วยท่าแทงเข่าอัดกับลำตัวฝั่งขวา ยังไม่พอฮาจองอูก็ซัดหมัดซ้าย พุ่งตรงไปที่หมวกกันน็อคสีแดงที่ปกปิดใบหน้าแท้จริงเอาไว้ ไม่กี่อึดใจหมวกกันน็อคก็ปริแตกออกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พร้อมกับร่างของอัศวินแดงปลิวกระเด็นไปไกลพอสมควร "ไม่น่าเชื่อ" ยุวชนตำรวจอเล็กชานเดอร์พูดขึ้น "อัศวินแดงถูกจัดการลงแล้ว" "ใช่ ฉันก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน" ร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอพูด และหวนนึกถึงความชั่วร้ายที่อัศวินแดงกระทำไว้ "แต่มันเกิดขึ้นแล้วล่ะ" "เมื่อกี้ผมเห็นหมวกกันน็อคมันแตกด้วย หมวด" ตำรวจคนหนึ่งบอก "แน่ใจหรือ" "เอาแหวนแต่งงานผมเป็นพยานได้ ผมเห็นเต็ม ๆ ว่ายุวชนทหารคนนั่นพังหมวดกันน็อคของมันไป" ร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอสั่งให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม และกำลังเดินเข้าไปใกล้ ๆ ตัวอัศวินแดงที่นอนราบอยู่ แต่มันก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นเพราะไม่กี่อึดใจ อัศวินแดงลุกพรวดขึ้นเหมือนผีดิบในภาพยนตร์สยองขวัญบางเรื่อง เล่นเอาหลายคนหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มกันหมด แต่แล้วสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุดคือ ใบหน้าที่แท้จริงของอัศวินแดงและพอไม่มีหมวกกันน็อคแล้ว ทุกคนต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอเคยคิดเล่น ๆ ว่า หกอัศวินน่าจะมีอายุราวสามสิบขึ้นไป ทว่าแท้จริงมันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เพราะอัศวินแดงที่แสนสุดจะโหดเหี้ยมเกินมนุษย์ เป็นศัตรูที่ดับลมหายใจตำรวจมือปราบรวมทั้งยุวชนตำรวจไปเป็นจำนวน แท้จริงคือชายหนุ่มที่อายุน่าจะเข้ายี่สิบต้น ๆ ผมสั้นสีดำและผิวสีแทนน้ำผึ้งเข้ม หากมองในมุมบุคคลทั่วไปอีกฝ่ายก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าอัศวินแดงจะยังอายุน้อยอยู่ ทว่ามีอยู่คนหนึ่งในทีมลูกน้องของร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอ ดูจะตกใจมากกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งมันก็เป็นเพราะชายหนุ่มตรงหน้าคือคนคุ้นเคย ที่หายสาบสูญไปนับแรมปี "เป็นไปไม่ได้..... อัศวินแดงคนนั่นคือ นายเองงั้นหรือ นอร์เบิร์ต" ร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอหันมาทางซ้ายมือพบว่า เจ้าของเสียงคือ สิบตำรวจตรีดัสติน ที่มีสีหน้าตกใจมากกว่าคนอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าบุคคลตรงหน้าเป็นคนรู้จัก "นายรู้จักเขาหรือ ดัสติน" ร้อยตำรวจตรีหม่าติงเหอถาม สิบตำรวจตรีดัสตินพยักหน้าตอบ "ยิ่งกว่ารู้จักเขาเป็นเพื่อนสนิทของผมในตอนเด็ก" "แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ครับ ทำไมเขากลายเป็น...." "พี่พอจะรู้อยู่ว่าสาเหตุมันจากอะไร" ++++++
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม