ตอนที่ 1
“กรี๊ด...พี่พลทำไมทำแบบนี้กับเปรมล่ะคะ เปรมทำผิดอะไร ทำไมพี่ถึงทิ้งเปรมไปหานังคนใช้นั่น” ร่างโปร่งบางเดินเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ สองมือเรียวจับแขนใหญ่เขย่าและทุบตีอย่างแรงตามอารมณ์ที่ปะทุขึ้น
“พี่ก็รู้ว่ามันไม่คู่ควร มันเป็นเพียงแค่คนใช้ภายในบ้าน”
“ถึงลูกจันทร์เป็นเพียงแค่คนใช้ แต่ก็เป็นคนดีและน่ารัก ดีกว่าคนบางคนที่หน้าไหว้หลังหลอก คบกันหวังแต่เอารัดเอาเปรียบและผลประโยชน์ส่วนตัว” ชายหนุ่มร่างใหญ่ตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้า ดวงตาดุไล่มองร่างโปร่งบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างดูถูกดูแคลน
“กรี๊ด...พี่พล เปรมจะฟ้องคุณลุงคุณป้าว่าพี่พลด่าเปรม” ร่างโปร่งกระทืบเท้าแรงๆ พร้อมเสียงร้องแปดหลอดจนแสบแก้วหู ใบหน้าขาวสวยแดงระเรื่อ ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้าและลุกโชน เต็มไปด้วยความรักและเคียดแค้นที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของชายหนุ่ม
“หยุดได้แล้วเปรมยุดา เธอจะมาแสดงตัวเป็นหญิงปากตลาดที่บ้านฉันไม่ได้ ถ้าเธอยังแสดงกิริยาท่าทางแบบนี้ก็กลับไปซะ บ้านนี้ไม่ต้อนรับ”
“กรี๊ด...”
“คัท”
เสียงกรีดร้องบาดแก้วหูของสาวน้อยร่างอรชรอ้อนแอ้นดังขึ้น พร้อมกับเสียงนุ่มทุ้มของสารัชผู้กำกับหนุ่มไฟแรงแห่งกองละครเรื่องที่แม้กระทั่งตัวนักแสดงเองก็ยังไม่รู้เลย เพราะชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบทประพันธ์และสปอนเซอร์ในการจัดสร้างละครเรื่องนี้ขอไว้ ให้ทุกคนแสดงตามบทที่เขาส่งไปให้เท่านั้น
แต่ก็นั่นแหละ ใครๆ ก็ย่อมจะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ขอเพียงผลตอบแทนที่ได้รับดีพอและได้ร่วมงานกับนักเขียนหนุ่มมากฝีมือ แถมยังเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ที่ทุ่มงบไม่อั้นในการจัดทำละครเรื่องนี้
แค่นั้นยังไม่พอ ชายหนุ่มยังเสนอให้ทางทีมงานเข้ามาใช้พื้นที่ในรีสอร์ทเพื่อถ่ายทำละครเรื่องนี้อีกด้วย ที่เพียงได้เห็น ไม่ว่าใครต่างก็ต้องอึ้ง ทึ่งและตกตะลึงในความโอ่อ่าหรูหราของสถานที่ และที่สำคัญคือคนบุคคลผู้เป็นเจ้าของอย่างโมกข์ สาระสน ที่ไม่แค่ร่ำรวยหากแต่รูปร่างและหน้าตาจัดเข้าขั้นพระเอกหนังไทยได้อย่างสบายๆ เลยล่ะ
“คุณโมกข์ขา ลิสาทำได้ดีหรือยังคะ” ชาลิสานางร้ายดาวรุ่งดวงใหม่มาแรงถามเสียงหวานเชื่อม พร้อมกับร่างโปร่งบางวิ่งกลับมาที่จอมอนิเตอร์อย่างรวดเร็ว เพื่อหาคนที่เธอถามไปเมื่อครู่ ทั้งที่ความจริงแล้วโมกข์เป็นเพียงแค่นักประพันธ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการแสดงเลยสักนิด
ร่างอวบอั๋นในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยทำเอาผู้คนที่อยู่รายรอบต่างก็กลัวว่า ไอ้ของที่แม่ให้มาที่ใหญ่โตราวกับส้มโอสองผลนั้นจะหลุดออกมาอวดสายตาให้กับคนในกองถ่ายได้เห็น แต่ดูเหมือนชาลิสาจะไม่สนใจแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่ส่งสายตาหวานเยิ้มและเชิญชวนให้กับโมกข์
ร่างอวบอิ่มเอนตัวไปด้านหน้า หวังให้ชายหนุ่มที่เธอถูกใจ ได้สัมผัสกับความอวบอิ่มเต่งตึงและกลิ่นหอมของเครื่องประทินผิวที่เธออาบลงไป ก่อนที่จะเข้าฉากอาละวาดใส่พระเอกของเรื่อง ซึ่งกำลังจะทิ้งเธอไปหายายตัวประกอบหน้าใสที่นั่งซับเหงื่ออยู่ไม่ไกล
โมกข์ละสายตาจากการพูดคุยกับสารัชและจอมอนิเตอร์หันมองคนถาม แต่สายตากลับผ่านไปเห็นหญิงสาวอีกนางที่นั่งทำปากพะงาบๆ เลียนแบบคำพูดชาลิสา แล้วก็เกิดอาการหมั่นไส้คนที่กำลังทำอยู่เป็นอย่างมาก ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่คนหนึ่งจะทำหน้าหงิกงอใส่แล้วยังเมินหน้าหนี แค่นั้นยังไม่พอหญิงสาวยังลุกขึ้นและเดินหนีไปอีกทาง
สิ่งที่ได้เห็นทำให้โมกข์หงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เคยมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่ ใครๆ ก็อยากจะอยู่ในอ้อมกอดเขา แต่แม่สาวคนนั้น...ที่ดูเหมือนว่าเป็นเพียงนักแสดงตัวประกอบที่เขายังไม่รู้จักชื่อ ดันทำเหมือนกับว่าเขาเป็นไส้เดือนกิ้งกือที่เธอเกลียดและต้องรีบหนีให้ห่าง เห็นแล้วมันหงุดหงิดและคันยิบๆ ในใจ แล้วคนอย่างเขาก็ยอมไม่ได้ที่จะให้ผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าทำแบบนี้ใส่ด้วย
แล้วสมองอันฉลาดและแหลมคมก็เริ่มหมุนวนเป็นลูกข่าง เขาต้องหาทางเข้าใกล้แม่สาวตัวประกอบจอมหยิ่งนั่น และหาทางสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ใบหน้าคมยิ้มกริ่ม ดวงตาคมดุแวววาวจ้องมองตามเหยื่อสาวแสนสวยอย่างที่คนถูกมองต้องหนาวสั่นในหัวใจถ้าได้เห็น เพราะมันมีทั้งความดูถูกดูแคลน รังเกียจหยามเหยียด แต่ก็ซุกซ่อนไว้ด้วยไฟปรารถนาอันร้อนแรง
“คุณโมกข์มองดูอะไรอยู่หรือคะ” ชาลิสาถามและมองตามสายตาคมไปแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดผิดปรกติ หรือว่ามีใครอยู่ตรงที่สายตาของโมกข์หยุดอยู่สักนิด สองมือเรียวจับใบหน้าคมให้หันมาสนใจตัวเอง
“ว่าไงคะคุณโมกข์ขา ลิสาเล่นดีหรือยังคะ” หญิงสาวถามย้ำอีกครั้งอย่างต้องการคำชมจากปากเขาให้ชื่นอกชื่นใจ
กายอวบอิ่มเอนตัวลงไปเสียดสีกับกายใหญ่ ทำให้ชายหนุ่มร้อนรุ่มและต้องการได้เธอไปเป็นคนคลายร้อนรุ่มในกายให้
“ไม่ทราบครับ คุณลิสาคงจะต้องถามจากคุณสารัชมากกว่า” โมกข์ตอบกลับอย่างรำคาญใจและเบื่อหน่าย ถ้าเป็นก่อนที่จะได้เห็นหน้าแม่ตัวประกอบนั่น เขาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้ชาลิสาปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาในกาย แต่พอได้เห็นใบหน้าสวยหวานนั่น...เขาถึงกับลืมหญิงสาวและผู้หญิงอีกหลายคนที่เคยสนิทชิดเชื้อด้วยไปเสียสนิท
สองมือใหญ่ดันกายอวบอิ่มออกห่าง สายตายังมองตามร่างบอบบางของแม่สาวตัวประกอบที่หายไปยังซอกหนึ่งของตึกเรียบร้อยแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธตัวเอง ทั้งที่ระยะทางก็ไม่ได้ใกล้เลยสักนิด แต่ในสมองและสายตากลับเห็นและจดจำใบหน้าของแม่สาวคนนั้นชัดเจนเหลือเกิน
ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับ ล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอน จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อ ราวกับกำลังเชิญชวนให้เข้าหา และมอบจุมพิตแสนหวานให้สักครั้งสองครั้งเป็นการเริ่มต้นทำความรู้จักกันและกัน เพียงแค่คิดเท่านั้นกายใหญ่ก็ปวดร้าวด้วยความต้องการ
ชาลิสาหงุดหงิดที่วันนี้โมกข์ไม่ได้เอาใจใส่เธอเหมือนวันก่อนๆ หรือเพราะตอนนี้มีอะไรกันแล้ว และเขากำลังจะผละจากเธอไปหาผู้หญิงคนใหม่ แล้วดูเหมือนว่าแม่นางเอกหน้าหวานปานระวีที่เข้าฉากวันนี้ก็ให้ท่าชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน
ใจดวงน้อยร้อนรุ่มราวกับมีไฟกองใหญ่สุม ใบหน้าแดงขึ้น หายใจเข้าปอดด้วยความรุนแรง แพ้ใครเธอไม่ว่าแต่ถ้าต้องแพ้ปานระวีผู้หญิงตีสองหน้าเก่ง ต่อหน้าโมกข์ก็ทำตัวเป็นสาวเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ลับหลังแล้วแม่ค้าในตลาดที่ปากว่าด่าเก่งยังต้องยอมแพ้เลย
ไม่...ต้องไม่ยอมให้ใครมาแย่งโมกข์ไปได้ ชายหนุ่มที่ทั้งรูปหล่อ ร่ำรวยและทำงานเก่งแบบนี้ใครๆ ก็อยากได้เป็นเจ้าของ ถ้าเขายอมหยุดที่เธอ นั่นก็หมายความว่า...สบายไปทั้งชาติเลยทีเดียว
ชิ...นังปานระวี คิดหรือว่าฉันจะปล่อยบ่อเงินบ่อทองให้แกง่ายๆ ไม่มีทางหรอกย่ะ
ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากัน สายตาจ้องมองไปที่ร่างโปร่งบางของปานระวี ที่กำลังเดินเยื้องย่างมาหาด้วยรอยยิ้มหวานเชื่อม ราวกับมีใครทำน้ำตาลตกลงไป เห็นแล้วชาลิสาก็กำหมัดแน่น วิญญาณนางร้ายในตัวก็เข้าสิงทันที
“หวัดดีค่ะคุณปานระวี เข้าฉากเสร็จแล้วไม่ใช่หรือคะ ทำไมถึงยังไม่กลับบ้านล่ะคะ หรือจะอ่อยใครแถวนี้เหรอคะ ยังไงก็ดูให้ดีหน่อยนะ เกิดเจอคนมีเจ้าของ แล้วเจ้าของเขาทั้งหวงและห่วงจะยุ่งเอานะคะ” ชาลิสาถามแบบจิกกัดไปเต็มที่ ขณะตวัดสายตามองร่างโปร่งบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วก็เบะหน้าให้