บอดี้การ์ดหนุ่มหยุดยืนหน้าตึกสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทม์เดลี่ชื่อดัง เมื่อสืบทราบถึงต้นตอสาเหตุแห่งข่าวเสื่อมเสีย ชายชื่ออันเตส ดาโกนี่ เป็นเจ้าหน้าที่เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับอาหารอยู่ที่นี่ ร่างสูงกำยำก้าวยาวถึงด้านในแล้วหยุดตรงเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“ติอต่อเรื่องอะไรคะ?”พนักงานเอ่ยถาม
“ผมมาขอพบคุณอันเตส ดาโกนี่”
“ขอทราบชื่อด้วยค่ะ”
“ผมชื่อมิทานิ ซากิครับ”
พนักงานสาวสวยสองคนหันมองหน้ากัน ก่อนก้มลงกดเบอร์ถึงเจ้าของชื่อนี้ทันที
“สวัสดีครับ”
“คุณอันเตสคะ มีคนมาขอพบค่ะ”
“ใคร!”อันเตสย้อนถาม
“ชื่อคุณมิทานิ ซากิค่ะ”
อันเตสนิ่งเงียบนึกชื่อชายที่มาพบไม่ออก เคยไปรู้จักคนสัญชาติญี่ปุ่นตอนไหนกัน
“ผมไม่รู้จัก!”
พนักงานเหลือบมองมาที่ชายหนุ่ม แล้วยิ้มบางๆ ให้ น่าเสียดายถ้าไม่ทำความรู้จักกับเขาในวันนี้ หนุ่มรูปงามใบหน้าหล่อเหลา
“เอ่อ คุณอันเตสบอกว่าไม่รู้จักคุณค่ะ”เสียงหวานแผ่วบอก
“บอกตามนี้แล้วกันครับ ผมเป็นตัวแทนของคุณชายเซย์บุตรชายคนสุดท้องแห่งตระกูลอัลเล็นโซ่ เพื่อมาสอบถามถึงเรื่องที่คุณอันเตสเขียนในคอลัมน์หนังสือพิมพ์”
สองสาวหน้าเจือนเมื่อได้ยิน ยกหูโทรศัพท์หมายพูดคุยอีกครั้ง
“ไม่ต้องแล้ว ผมได้ยินหมดแล้วบอกเขารอสักครู่ผมกำลังจะลงไป”อันเตสตัดบทแล้ววางสาย
ซากิสาวเท้านั่งลงบนโซฟาในส่วนรับรองผู้มาติดต่อกับบริษัท ราวสิบนาทีคนที่ต้องการพบก็ลงมาจากชั้นบน อันเตสเดินมาหาผู้มาเยือนแล้วหยุดเท้าตรงหน้า ซากิลุกยืนก้มศีรษะเล็กน้อยสองร่างนั่งลงตรงข้ามกัน
“ผมไม่อยากรบกวนคุณมากขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ”ซากิเริ่มเข้าประเด็น
“ได้ครับ”
“เรื่องการขายบริการทางเพศในร้านอาหารพาราไดซ์ ตามที่คุณเขียนในหนังสือพิมพ์ผมอยากทราบข้อเท็จจริง”สีหน้าเคร่งเครียด
อันเตสนิ่งพลางนึกถึงเรื่องในวันนั้น
“ผมไปทานอาหารคนเดียวเพราะต้องการนำมาเขียนคอลัมภ์อาหาร สักพักผมจำได้ว่ามีสาวเสริฟ์หน้าตาค่อนข้างสวยแต่คิดว่าคงเป็นสาวเอเชียนำอาหารมาเสริฟ์จากนั้นเธอแนะนำตัวกับผมบอกว่าหากต้องการคืนนี้เธอสามารถไปเป็นเพื่อนเที่ยว กิน ดื่ม และนอนได้”
คิ้วซากิเริ่มขมวด ไม่คิดว่ามันจะโจ่งแจ้งขนาดนี้
“แล้วยังไงต่อครับ”ซากิถามต่อ
“ผมเริ่มแปลกใจเลยแกล้งถามว่า แค่คุณคนเดียวเหรอ? เธอตอบผมว่าไม่ใช่สาวเสริฟ์ในร้านทั้งหมดคุณสามารถเลือกทุกคนได้ ผมงงมากเลยครับไม่คิดว่าที่ร้านจะมีบริการแบบนี้ด้วย”
ซากิถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ชื่อเสียงของพาราไดซ์ได้เสื่อมลงก็คราวนี้
“ทางเราไม่ได้มีการขายบริการทางเพศนะครับ หากทำผมคงไม่มาสืบ”ซากิบอกเสียงเข้ม เว้นช่วงพักหนึ่ง “แล้ว... คุณรู้จักชื่อเธอคนนั้นไหม”
“รู้ครับ ตอนนั้นผมบอกว่ายังไม่ต้องการเพราะผมกำลังทำงาน เธอเลยบอกว่าเธอชื่อไอหากต้องการซื้อบริการที่นี่ให้เรียกหาตุ๊กตาไหมพรม แล้วทุกคนที่นี่จะเข้าใจเองครับ”อันเตสตอบ
พอจะเข้าใจลางๆ แบบนี้เจ้านายต้องฉุดจัดเป็น ดันถูกล้วงคอถึงที่
“ขอบคุณมากนะครับ”ซากิบอกแล้วลุกยืนก้มศีรษะทำความเคารพเล็กน้อยแล้วก้าวออกจากสถานที่นั้นทันที เพราะเขามีเรื่องต้องรายงานต่อผู้เป็นนาย
บอดี้การ์ดหนุ่มก้าวเท้าหยุดยืนหน้าห้องทำงาน ยกมือขึ้นเคาะเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณแล้วเปิดประตูออก เซย์เงยหน้าจากกองเอกสารมองลูกน้องตนเองแล้ววางปากกาลง ซากิหยุดยืนหน้าเจ้านายเพื่อรายงานความคืบหน้า
“ได้ความว่ายังไงบ้าง?”เซย์ถามสีหน้าเคร่งเครียด
“นักข่าวคนนั้นไปทานอาหารที่ร้าน เขายืนยันอย่างแน่ใจว่ามีการขายบริการจริงครับ ผู้หญิงคนนั้นชื่อไอโคดเน้มสำหรับการซื้อขายคือตุ๊กตาไหมพรม”
ปัง!
มือทุบลงบนโต๊ะแววตาเกรี้ยวกราด กล้าดียังไงมาทำลายชื่อเสียงที่สั่งสมมานานของตระกูลอัลเล็นโซ่
“บัดซบ! ฉันอุตส่าห์ให้เงินเดือนเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี แต่มันกลับทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!”
ซากิเหลือบมองผู้เป็นนายรู้สึกสงสารจับใจ พอรู้มาลางๆ ว่าโดนตำหนิมาเมื่อก่อนเจ้านายอาจจะอารมณ์ร้ายใครเข้าหน้าไม่ติด แต่ตอนนี้นิสัยเหล่านั้นปรับปรุงขึ้นมาก
“คุณชายจะเอายังไงต่อดีครับ”ซากิถามจ้องมองใบหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์นั้น
“ฉันจะเข้าไปสืบเอง อยากรู้นักว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!”
“แต่พนักงานคงจะจำคุณชายได้นะครับ”
“ฉันจะปลอมตัวเข้าไป”แววตามุ่งมั่น คราวนี้จะจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกที่บังอาจทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับร้านอาหาร
เซย์จ้องมองตัวเองหน้ากระจกอีกครั้งเพื่อสำรวจใบหน้า แผนการปลอมตัวเข้าสืบเรื่องการขายบริการในร้านคงเป็นไปได้ด้วยดี ช่างแต่งหน้าฝีมือดีไม่น้อยทำให้ไม่เหลือเค้าเดิมที่ร้านคงไม่มีใครจำเขาได้
ก๊อก! ก๊อก!
ประตูห้องเปิดออกซากิจ้องมองใบหน้าเจ้านาย ดวงตาสีเขียวมรกตมองผ่านมาสิ่งเดียวที่ทำให้จำได้ว่านี่คือนายตน
“เป็นยังไง คิดว่าพนักงานที่พาราไดซ์ยังจะจำฉันได้หรือเปล่า”เซย์ถามลูกน้อง
“คงไม่ได้หรอกครับ”
“ถ้าอย่างนั้นไปกันเถอะ อย่างจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ”
ร่างสูงก้าวออกมาจากห้องติดตามด้วยลูกน้องคนสนิท รถเบนซ์สีเงินจอดเทียบหน้าคฤหาสน์เซย์เปิดประตูแทรกกายนั่งลงบนเบาะโดยไม่สนใจลูกน้องที่ทำหน้าที่เพื่อบริการเจ้านาย ซากิกระตุกยิ้มนิสัยส่วนตัวเจ้านายเป็นเช่นนี้เสมอไม่ค่อยถือตัวและไม่ชอบให้ใครมาบริการตนมากนัก
รถจอดเทียบหน้าภัตตาคารหรูพาราไดซ์เซย์ลงจากรถแหงนมองความรุ่งเรืองของร้านที่ตนรับผิดชอบ ซากิยืนขนาบข้างเจ้านาย ครู่หนึ่งชายหนุ่มสาวเท้าเดินต่อมาหน้าประตูพนักงานรีบเปิดต้อนรับและเดินนำลูกค้าไปที่โต๊ะอาหาร เซย์นั่งลงตรงข้ามกับลูกน้อง
พนักงานสาวสวยนำเมนูมายื่นให้ลูกค้าพร้อมยืนรอเพื่อจดรายการอาหารที่ต้องการ เซย์เปิดเมนูเพื่อเลือกสั่งอาหาร
“หอยเซลล์ราดซอสไวน์แดง สเต็กเนื้อแกะ แซลม่อนย่างเกลือ”เขาสั่งอาหารสามอย่าง
“ต้องการเครื่องดื่มอะไรคะ”พนักงานสอบถามต่อ
“ขอไวน์แดงปีแปดเก้าก็แล้วกัน”ปิดเมนูลง
พนักงานก้มศีรษะเล็กน้อยแล้วหันหลัง จังหวะนั้นเซย์ฉุกคิดอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวก่อน!”
เธอหันกลับมายืนนอบน้อมเพื่อรอฟังลูกค้าต่อ
“ที่นี่มีคนชื่อไอหรือเปล่า?”สีหน้าพนักงานเปลี่ยนไป
“เอ่อ... คุณต้องการพบไอเหรอคะ?”ถามเหมือนไม่แน่ใจ
“ใช่ผมต้องการพบ”
“รอสักครู่นะคะเดี๋ยวดิฉันจะไปตามให้”พนักงานรีบสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว เซย์เห็นอาการก็พอคาดเดาได้พนักงานคงนี้คงรู้อะไรไม่น้อยหรือไม่อาจมีส่วนร่วมกับการขายบริการก็เป็นได้