3
“ไผ่หลิวควรถามพี่รีมากกว่า เป็นอะไรไปคะนี่ ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย หัวใจนี่ลอยไปหาหนุ่มคนไหนแล้ว เขาคนนั้นชื่อเสียงเรียงนามอะไรกันน้า...หน้าตาหล่อเหลาแค่ไหนกัน ถึงได้ทำให้พี่สาวของไผ่หลิวใจลอยละล่องบินไปหาทุกเวลาทุกนาที เมื่อไหร่พี่รีจะพามาให้ป้ากับไผ่หลิวรู้จักล่ะค่ะ”
ท่าทางการพูดจาเหมือนกระเซ้าหยอก แต่ชมบุหลันกลับรอฟังอย่างหูผึ่ง ด้วยอยากรู้เต็มพิกัด ผู้ชายคนนั้นหน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตรมาจุติหรือยังไงกัน ถึงได้ทำให้ปาวรินทร์หลงเพ้อพกได้ถึงเพียงนี้
ปาวรินทร์ยิ้มเอียงอาย เมินหน้าร้อนผ่าวหลบสายตารู้เท่าทันของยายตัวเล็ก ที่ยื่นหน้ากระจ่างตาแป๋วมาใกล้อย่างอยากรู้อยากเห็น
“บ้า! พูดอะไรก็ไม่รู้ไผ่หลิวนี่ เป็นผู้หญิงพูดอย่างนี้ได้ยังไงกัน” ตวัดค้อนใส่ พลางตีแขนชมบุหลันกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง ก่อนใบหน้าผุดผ่องจะหมองเศร้าลง เธอไปรอเจอเขามาเป็นเดือนๆ แล้ว แต่กลับไม่เคยได้เข้าใกล้สักครั้ง ไม่รู้เมื่อไหร่โอกาสดีๆ จะมาถึง
“อ้าว!” ชมบุหลันทำหน้าเหลอ “ไผ่หลิวพูดอะไรผิดไปหรือคะ”
“ไม่ผิดหรอก ถ้าพี่ได้...” ปาวรินทร์หยุดพูดไปเสียดื้อๆ ผ่อนลมหายใจออกจากปอดด้วยความหนักอก
“มีอะไรหรือคะพี่รี” คิ้วหนาเลิกขึ้นมองปาวรินทร์ด้วยสายตาเป็นคำถาม เมื่อเห็นปาวรินทร์ยิ้มใบหน้าเศร้าๆ เป็นไปได้หรือที่ผู้ชายสูงส่งอย่างเขาคนนั้นจะชายตามองก้อนกรวดไร้ค่าอย่างเธอ ในเมื่อรอบกายเขาล้วนแล้วแต่มีสาวงามสะคราญโฉมทั้งนั้น
ปาวรินทร์ยิ้มเศร้า สะบัดศีรษะทุยแรงๆ กับความคิดหลงละเมอเพ้อพกของตัวเอง ที่ควรรู้ตัวดี อย่างเธอคงเป็นได้เพียงแค่ลูกเป็ดขี้เหร่ ไม่ควรอาจหาญบินขึ้นไปปะปนกับฝูงผีเสื้อแสนสวย ที่ชาตินี้คงได้แต่แอบฝันเฟื่องเสียมากกว่า
“เอ...หรือว่าคนที่พี่รีชอบ หน้ามู่ทู่เหมือนหมาจู...หุ่นเตี้ยม่อต้ออย่างมะขามข้อเดียวเสีย ถึงไม่กล้าบอกให้น้องสาวคนนี้ได้รู้ ไม่กล้าพากลับมาเที่ยวบ้านด้วย”
“ใครว่าล่ะไผ่หลิว รูปร่างใหญ่ล่ำกำยำ...” ปาวรินทร์คิดไม่ออกจะอธิบายภาพมัวๆ ในความเป็นจริง แต่แจ่มชัดในความรู้สึกยามหลับฝัน เขาคนนั้นได้มาหาถึงห้องนอน สองกายไร้อาภรณ์ปกปิดแนบชิดด้วยสัมผัสอุ่นระอุที่โลมเล้าปลุกเร้าเพลิงสวาทในกายสาวให้ลุกโชติช่วง ถ้าไม่ถึงที่สุดแห่งความปรารถนาก็จะไม่สิ้นสุด
“นี่ละ...” เผอิญสายตาตวัดไปเห็นภาพบุรุษหนุ่มบนหน้าปกหนังสือของชมบุหลัน “อย่างนี้เลยไผ่หลิว” ชี้นิ้วไปที่ภาพชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ไร้เสื้อปิดท่อนบนของร่างกายให้เห็นลอนกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ น่าลูบไล้ซบซุก
ชมบุหลันพยักหน้ารับ...หุ่นเหมือนพระเอกในนิยายที่เธออ่านน่ะหรือ ไม่จริงหรอกมั้ง เบะปากพร้อมส่ายศีรษะอย่างไม่ค่อยเชื่อ จะมีชายหนุ่มหุ่นดีอย่างนี้จริงๆ ถึงมีจริงก็คงไม่เหลือมาถึงมือคนแถวนี้หรอก โน่น...โดนพวกไม้ป่าเดียวกันเอาไปยำกินเสียหมดละไม่ว่า
“ถึงหุ่นดี แต่หน้าตาคง...”
“เอาเป็นว่าพระเอกในนิยายที่ไผ่หลิวอ่าน คงเทียบเท่ากับคุณเขาไม่ได้หรอก” แค่เห็นไกลๆ คนละมุมห้อง รัศมีแห่งอำนาจและความมีเสน่ห์เย้ายวนชวนถวิลหาก็แผ่กระจายมา จนทุกสายตาสาวทุกคนต้องโฟกัสไปที่จุดเดียว! เสียงของหัวใจตึกตักรัวเร็วอย่างน่ากลัว พร้อมพลังดึงดูดให้ก้าวเท้าไปหาราวกับถูกสะกดจิต
แต่ทุกอย่างก็สิ้นสุดด้วยชายร่างใหญ่ยักษ์สองนายที่ยืนกันไม่ให้ใครเข้าไปหาชายหนุ่มได้ ยกเว้นเพียงแค่ผู้หญิงที่ได้รับเลือก ที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะเป็นเธอ!
เอ่อ...แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง ผู้ชายลึกลับที่ปาวรินทร์เพ้อละเมอหาอยู่ตรงไหน เซ็งจริง...พับผ่าซิ!
ชมบุหลันเบะปาก ยกมือเกาศีรษะสลับยกปิดปาก ด้วยแสงสีละลานตาทำให้เธอเริ่มวิงเวียน บวกกับเสียงที่ดังกระหึ่มทำให้ระบบในเรือนกายเริ่มทำงานผิดปกติ
ไม่ไหวแล้ว…รู้สึกเหมือนร้อนผ่าวไปทั้งเรือนกาย เหงื่อแตกซิกผุดไหลจากขมับและร่องรูขุมขน ห้องน้ำ...ห้องน้ำอยู่ไหนนี่! เพราะเร่งรีบเกินไป กลายเป็นความประมาทพลาดพลั้งจนเกิดเป็นภัยแก่ตัวเอง!
“โอ๊ย!” ชมบุหลันหลุดเสียงร้อง เมื่อสองขาเกี่ยวไขว้กัน ทำให้ร่างอ้วนป้อมถลาพุ่งลิ่วไปชนเข้ากับบางสิ่ง ที่เชื่อได้ว่าเป็นมนุษย์และเป็นผู้หญิงด้วย เพราะเสียงหวีดร้องแหลมเล็กอย่างกับนกหวีดดังใกล้ๆ ชวนขี้ในหูเต้นเร่า จนต้องรีบยันตัวลุกจากสิ่งรองรับกายอย่างเร็ว เพราะกลัวถูกกัดจนจมเขี้ยว
“โอ๊ย! อะไรกันนี่” หรี่หนังตาพลางยกมือขยี้เข้าไปในช่องหู
“จะร้องแรกแหกกระเชอไปถึงไหนกันหา! ...กลัวไม่มีใครได้ยินหรือไง” มืดๆ อย่างนี้ ซุ่มซ่ามกระแทกกับใครบ้างก็ต้องให้อภัยกันซิ แม้ผิดแต่ชมบุหลันยังคิดเข้าข้างตัวเอง
พิมพ์มาดาตวัดใบหน้าหงิกงอง้ำด้วยเพลิงโทสะอย่างไม่กลัวคอเคล็ดไปหายายตัวมารที่มาทำลายการปลุกเร้าเพลิงอารมณ์ของคีธให้ลุกโชติช่วง จนตกหลุมอากาศขาดจังหวะที่เธอไม่มั่นใจ ไม่รู้จะต่อติดหรือเปล่า
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับโอกาสได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่ม ที่หาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ด้วยคีธเป็นคนเข้าถึงตัวยาก อีกทั้งยังเก็บตัว ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป รู้เพียงแค่เขาร่ำรวยมหาศาล ใครก็ตามที่ถูกเลือกให้เข้าไปอยู่ด้วย จะได้รับผลตอบแทนกลับมามากมายมหาศาลพอๆ กับคนที่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ จะเป็นดั่งมดที่ถูกขยี้บี้แบนติดพื้นในพริบตาเดียว
แสงสว่างมากพอให้พิมพ์มาดาเห็นตัวมารอย่างชัดเจน นัยน์ตาเข้มจัดเจิดจ้าด้วยประกายเพลิงที่ลุกโชน กลีบปากอิ่มแดงระเรื่อคลี่แบะหยามหยันในหุ่นทรงแอปเปิล รูปร่างเตี้ยม่อต้อ อกแบนอย่างกับไข่ดาว เอวย้วยพุงยุ้ย สะโพกขนาดบิ๊กไซส์...ส่วนขามืดจนมองไม่เห็น แต่คิดว่าคงเป็นเหมือนท่อนซุงดีๆ
“เธอ...หลงเข้ามามุมนี้ได้ยังไงยายอ้วนตุ้ยนุ้ย” กระแทกเสียงถาม
“อ้าว...ถามแปลก มีขาก็เดินมานะซิ จะให้ฉันเหาะเหินเดินอากาศมาหรือไง” ลอยหน้าลอยตาถามอย่างไม่สนใจยายผู้หญิงหน้ายักษ์ขมูขีจะกระโดดเข้าใส่บีบขย้ำกัดคอให้เป็นแผลเหวอะหวะ
“ทำไม...มุมนี้มีอะไรลับลมคมในซุกซ่อนเอาไว้หรือไง ฉันถึงเข้ามาไม่ได้น่ะ” ชมบุหลันยกไหล่พร้อมเลิกคิ้วยั่วโทสะยายขี้โมโหให้พุ่งลิ่วราวกับถูกไฟลน
“อ๋อ...เข้าใจละ” ชมบุหลันลากเสียงยาวพลางพยักหน้าราวกับกิ่งก่าก่อนจะได้ทองอย่างเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่
“ฉันเผอิญแปลงตัวเป็นนางมาร เดินทะเล่อทะล่ามาเหยียบตาปลายายผู้หญิงหน้าด้านแปลงตัวเองเป็นนางจิ้งจอกยั่วยวนกินผู้ชาย! โอ๊ย...หน้าด้านแท้หนอ ปล้ำผู้ชายกลางธารกำนัลก็ได้ด้วย”
เพราะความเบื่อหน่าย เขาไม่อยากสนใจเรื่องหยุมหยิมพานให้อารมณ์เสีย แต่เสียงใสๆ ที่ดังแล่นลิ่วมากระทบโสตประสาทหูอย่างจัง หนังตาที่ปิดอยู่ลืมขึ้นทันควัน
ท่ามกลางแสงสีไม่ได้ทำให้ความสามารถในการมองลดลงแม้แต่น้อย แม้กระทั่งที่มืดมิดไร้แสงไฟเขาก็มองเห็นทุกสรรพสิ่งได้ชัดแจ้ง ไม่แพ้หูที่ต่อให้เสียงอึกทึกครึกโครมเพียงใดก็ยังจำแนกแยกแยะได้ยินทุกสำเนียงเสียงอย่างชัดเจน
สาวน้อยร่างเล็กค่อนไปทางเจ้าเนื้อยืนเด่นเป็นสง่า ใบหน้าเรียวรูปไข่ที่เขามองเห็นถึงหยดน้ำเม็ดเล็กๆ ที่ติดอยู่บนปลายจมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ สองแก้มใสจนเห็นเส้นเลือดฝาด ที่สะดุดให้หัวใจเหมือนจะเริ่มเต้น ก็นัยน์ตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนคู่นั้นเบิกกว้างนิดๆ จ้องเขาอย่างตะลึงงันเล็กน้อย
คีธหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดในทรวง จนต้องรีบยกมือขึ้นทาบอกด้านที่มีหัวใจ ซึ่งหยุดเต้นมานานแล้วเหมือนมีความรู้สึกขึ้นมา พร้อมสัญชาตญาณในกายบ่งบอกถึง...ภัยคุกคาม!
ผู้หญิงตัวเล็กเบื้องหน้ามาเพื่อ...ทำร้ายเขา!
แต่ถึงเป็นอย่างนั้น สัญชาตญาณนักล่าในกายก็ยังถูกจุดขึ้นมาโดยระงับเอาไว้ไม่ได้ ทั้งที่ความจริงแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของเธอไม่ได้สวยเลิศเลอ จนถึงขั้นสะดุดตาเลยสักนิด แต่กลับไปกระตุ้นต่อความรู้สึกภายในร่าง จนเดือดระอุราวกับมีเปลวเพลิงไฟไหลพล่านไปทั่ว อยากยื่นมือไปคว้าแขนกลมกลึงดึงร่างแน่งน้อยมาคลุกคลีแนบชิด
เกิดอะไรขึ้นกับเขา