บทที่ 1 เลี้ยงรุ่น
วันนี้เป็นวันเลี้ยงรุ่น ปีเกิดฉันก็คือ 2538 ก็เลยเรียกว่า รุ่นปี38 วันนี้พี่สาวและลูกชายของอา ก็มากันครบทุกคน เพราะทุกคนเรียนที่นี่หมด
“ เป็นไงบ้างพี่มอส สบายดีไหม ” ฉันเอ่ยทักลูกชายของอาแมน ก็คือพี่มอสนั่นแหละ พี่เขาน่าจะกลับมาบ้านเมื่อคืนมั้ง เพราะยังไม่เจอเขาเลยเมื่อวานตอนเย็น ตอนที่ไปบ้านปู่กับย่า ปกติเวลาหลานๆ กลับมาจะแวะไปหา ท่านทั้งสองก่อน
พวกเราเรียกตามอายุ ไม่เน้น ศักดิ์พี่น้อง แบบใครลูกผู้พี่ ต้องถูกเรียกว่าพี่ ทั้งที่มีอายุน้อยกว่า อะไรงี้ แต่จะเรียกตามอายุ
“ สบายดี มิลินล่ะ เป็นไงบ้าง ไปสมัครงานที่ไหนแล้วบ้าง ”
“ ยังเลยค่ะ ว่าจะหยุดพักสักปี เรียนโคตรเหนื่อย ” ฉันเป็นคนเกียจคร้านในเรื่องเรียนมากๆ ในบรรดาพี่น้องสามคน
“ หืม ~ ขี้เกียจยังไงก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะเราอะ ” พี่มอสเอามือวางบนหัวฉันเบาๆ
“ 555+ ”
“ ขี้เกียจแบบนี้ถึงไม่มีแฟนไง 555 + ” ชะเอมโผล่มาจากไหนไม่รู้ นางเป็นน้องสาวของพี่มอส
“ ฉันไม่ใช่แกสักหน่อย ยัยชะเอมที่ริมีแฟนตั้งแต่อายุ 19 ปี อะ ” พวกเราพูดจากันปกติแหละจะชอบแขวะชอบกัดกันประจำแต่ก็รักกันดี
ชะเอมกับฉันและมิลานจะเจอบ่อยมาก สนิทกันสุดๆ ไปมาหาสู่กันบ่อย มีฉันที่ไหนที่่่่่นั้นก็จะมีสองคนนี้ตามประจำ
“ พี่มิลิน ชู่ว์ๆ ” ชะเอมทำท่าเอานิ้วชี้มาที่ปาก ประมาณว่าให้หยุดพูด
“ จริงเหรอ? ” พี่มอสหันไปถามน้องสาวตัวเอง
ฉันอะรู้เรื่องญาติพี่น้องทุกคนดีเลยแหละ อย่าเรียกว่าเสือก ให้เรียกว่าใส่ใจก็พอ 555+
“ พี่มิลินก็พูดไปเรื่อยแหละ ชะเอมขอตัวก่อนนะคะ ไปๆ ” ชะเอมพูดจบมาดันหลังฉันให้เดินไปข้างหน้า
“ พี่อะ พูดอะไรแบบนั้นออกไป เดี๋ยวพี่มอสก็ฟ้องพ่อหรอก ” ชะเอมทำหน้างอ
“ ขอโทษๆ ฉันไม่รู้ว่าแกยังไม่บอกใครว่ามีแฟนแล้ว คิดว่าบอกไปแล้วก็แกคบกับแฟนมาสี่ปีแล้วหนิ ” พูดตามความเป็นจริง
“ พี่ทำเหมือนไม่รู้อะไร ย่ากับปู่ แล้วก็พ่อพวกเราเป็นคนยังไง พวกท่านไม่อยากให้พวกเรามีแฟนในวัยเรียนไง แล้วกลัวพวกเราจะชิงสุกก่อนห่ามอะ พี่ลืมหรือไง ” ที่ชะเอมพูดคือความจริง จะว่าเป็นหัวโบราณก็ได้ครอบครัวพวกเรา
ย่ามักจะย้ำกับลูกหลานเสมอ ยิ่งเป็นลูกหลานผู้หญิงจะถูกอบรมมากกว่าผู้ชายเสียอีก แล้วพ่อฉันกับอาแมนคือหวงลูกสาวมากด้วย
“ ฉันไม่มีแฟน เรื่องนี้เลยไม่ได้ใส่ใจไง ” พูดแล้วยัััััักไหล่
“ ก็พี่อะ กินแห๋วมาตั้งนานแล้วไง คนๆนั้นเขามีแฟนไปแล้ว พี่เลยไม่มีใคร เพราะยังเจ็บฝังใจอยู่ ” ชะเอมพูด คนที่รู้เรื่องของฉันมากมีแค่ชะเอมกับมิลานที่รู้ลึกรู้จริง
“ แกก็พูดเวอร์ไป ฉันก็แค่ชอบเขา ไม่ได้เจ็บฝังใจอะไร ฉันไม่ได้ถูกทิ้งสักหน่อย เขาแค่ไม่เลือกฉันก็แค่นั้นเอง ”
“ อ๋อเหรออ!! แต่วันนี้พี่เขามาด้วยนะ ลุงเชาว์บอกมา ” ลุงเชาว์ก็คือผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 มีศักดิ์เป็นลุงของชะเอม แม่ชะเอมเป็นน้องสาวลุงเชาว์
“ ไม่ได้อยากรู้ ” พูดแล้วมองไปรอบๆ ทุกคนเริ่มมากันเยอะแล้ว แต่ละคนก็สวยๆ หล่อๆ ทั้งนั้น พอโตขึ้นก็รู้จักแต่งตัวไง หน้าเลยเปลี่ยนไป เหมือนจะจำไม่ค่อยได้ บางคนแทบจะไม่รู้จักเลย
เหมือนพี่สาวฉันที่มีผิวสีแทนเหมือนพ่อมาตั้งแต่กำเนิด ผมหยักศอกเหมือนเส้นมาม่า จนต้องยืดถาวรให้มันตรง และต้องไปศัลยกรรมอีก เมื่อปีก่อนไปทำจมูกกับฉีดกลูต้าให้ผิวขาว พอต้นปีนี้ก็ไปทำหน้าอกให้ใหญ่อีก แล้วก็ดัดฟันด้วย
ส่วนฉันมีหน้าตาเดิมๆ จมูกก็โด่งมาแต่กำเนิด ผิวก็ขาวไปทางฝั่งเเม่หน้าอกก็อวบ ร่างกายสมส่วนไม่อ้วนไม่ผอม สูงกว่าใครในสามพี่น้อง ผมดำยาวสลวยเมื่อก่อนนะ แต่ตอนนี้ตัดผมสั้นปะบ่าและย้อมสีน้ำตาลไปแล้ว >ชานนท์ คนที่ฉันแอบชอบ
“ หวัดดีมิลิน มานานยัง ” น้ำเสียงทุ่มนุ่มของเขายังเหมือนเดิม
“ เราพะ…เพิ่งมานะ แล้วชานนท์มานานแล้วเหรอ? ” รู้ทั้งรู้ว่าเขามาหลังเพื่อน ฉันก็ยังจะถามออกไป
ตอนนี้คือตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะได้นั่งใกล้กันขนาดนี้ เคยนั่งใกล้กันมีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนเรียน ป.2 แค่นั้น ตอนนี้ใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะเลยอะ
“ เพิ่งจะมาเหมือนกัน แล้วเป็นไงบ้าง สบายดีไหม ” เขาถามต่อพร้อมจ้องหน้าฉัน แล้วใครจะกล้าสบตาเขาล่ะ ฉันงุดก้มหน้าลง
“ สะ…สบายดี ชานนท์อะ สบายดีไหม เป็นไงบ้าง หน้าที่การงานราบรื่นดีไหม? ” ถามออกไปทั้งที่ยังก้มหน้า น้ำเสียงฟังดูสั่นๆ เพราะความตื่นเต้นที่มีมาก
“ เป็นอะไรเนี่ย ก้มหน้าทำไม คุยกับเราก็มองหน้าเราก่อนสิ มิลิน ” เขาเหมือนจะกลั้นขำ ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มแห้งๆ ไปหาเขา
“ …. ” ฉันมองเขาเพียงเสี้ยววินาที แล้วหันหน้าไปทางอื่น มองเขานานๆ ไม่ได้ หัวใจเต้นแรงมากก >นามปากกาธัญญวรินทร์