กงล้อชะตาเริ่มเคลื่อนไหว...(3)

1077 คำ
 ผมถอนหายใจยาวมองแหวนในมือที่ไปอยู่นิ้วชี้ข้างขวาผมเรียบร้อย สรุปคือผมไม่มีเวลาให้ตกใจ จะตีโพยตีพายว่าไม่ใช่คนที่พวกเขาพูดถึงก็เหมือนจะฆ่าตัวตายอีกรอบ ทางที่ดีทำนิ่งๆ เฉยๆ และเรียนรู้ไปพร้อมสังเกตไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่            ทว่าขณะนั้นเหมือนความทรงจำของหลิ่งเหวินในร่างนี้ก็พุ่งเข้ามาในสมองพอดี นี่คงเป็นของแถมจากเทพอัคคีใช่ไหม ผมถอนหายใจอีกครั้งรู้สึกจะเหนื่อยๆ ชอบกล            “พวกท่านลุกขึ้นเถอะ ข้าอยากพักผ่อน”            ผมบอกเสียงเล็กเบาคล้ายคนหมดแรง แต่นี่มันร่างเด็กห้าขวบจะให้ดังขนาดไหนเชียว ผมไม่สนใจว่าจะมีคนลุกหรือไม่แต่กลับล้มตัวนอนอย่างอ่อนล้า             ไม่ต้องแปลกใจที่ผมพูดได้ ไม่สิต่อไปนี้ต้องใช้แทนตัวเองว่าข้าแล้วสินะ ในเมื่ออยู่ต่างบ้านต่างเมือง ร่างใหม่ ชีวิตใหม่ ก็ต้องเอาความรู้ที่มีมาใช้ให้หมด ไม่งั้นคงจะมีชีวิตรอดยาก แค่ความจำที่ได้มาจากเจ้าของร่างเก่าก็โดนยาพิษตั้งหลายครั้งแล้ว            เวรกรรมจริงๆ ให้ร่างใหม่ทั้งทีให้มันสมบูรณ์หน่อยก็ไม่ได้ ข้าคิดอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย โดยไม่สนใจเหล่าบรรดาคนรับใช้ที่เงยหน้ามองมาตาเศร้าๆ            ช่วงเช้าข้าออกมานั่งเล่นอยู่หน้าตำหนักโดยมีข้ารับใช้และองครักษ์ตามติดไม่ห่าง น่ารำคาญจริงๆ จากคนที่เคยทำอะไรด้วยตัวเองและไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด แต่ตอนนี้กลับมีคนตามติดเหมือนเงาตามตัวสามวันแล้ว            ตั้งแต่ข้ามาอยู่ที่นี่ในร่างนี้ ตอนนี้ข้ามีชื่อเรียกว่าหลิ่งเหวิน องค์ชายห้าของแคว้นโจว ที่ปกครองโดยจักรพรรดิโจวอู๋หวัง และเป็นบิดาข้าในตอนนี้            ข้ามีพี่น้องอยู่สิบเอ็ดคนมีพี่สาวสองคนแล้วพี่ชายเจ็ดคนและน้องชายอีกสองคน น่าสนุกไหมล่ะพี่น้องเยอะขนาดนี้มันเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก อุ่นจนร้อนเชียวล่ะ หึหึ            ตอนนี้ข้าเพิ่งหายป่วยจึงออกไปไหนไม่ได้ ได้แต่มานั่งอยู่หน้าตำหนักมองท้องฟ้านิ่งๆ โดยมีเหล่าข้ารับใช้นั่งหมอบอยู่ไม่ห่าง ข้าพยายามไม่สนใจส่วนเกินที่จะทำลายบรรยากาศ สายตาข้ามองท้องฟ้าแต่ความจริงข้ากำลังหาวิธีทำให้ตัวเองหายดีแข็งแรงเหมือนเดิม            หลังจากร่างนี้โดนยาพิษมาไม่ต่ำกว่าสิบครั้งไม่รู้มีชีวิตรอดมาถึงห้าขวบได้อย่างไร มือซ้ายเผลอยกลูบแหวนมังกรเบาๆ เมื่อหวนคิดว่าใครโดนผนึกอยู่ในนี้            มาถึงตอนนี้ยังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะเป็นเทพหลิ่งเหวินคนนั้น และร่างนี้ก็ยังมีชื่อเรียกว่าหลิ่งเหวินอีกด้วย ข้าหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อสวรรค์กำลังขีดเส้นทางให้ข้าและวางหมากทุกอย่างไว้อย่างลงตัวเหลือเกิน            เสียงหัวเราะของข้าทำให้แม่นมและคนอื่นๆ มองมาด้วยสีหน้าแปลกๆ ข้าไม่ได้สนใจแต่กลับมองท้องฟ้านิ่งๆ เหมือนสามวันที่ผ่านมา            “องค์ชายเพคะแดดเริ่มร้อนแล้ว ทรงเข้าตำหนักเถอะเพคะ” เสียงแม่นมเอ่ยเตือนพร้อมมองมาอย่างเป็นห่วง แต่ข้ากลับนั่งนิ่งเฉย ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง            “ข้าไม่เป็นไรแม่นม พวกท่านพานางกำนัลกลับไปเถอะ อยู่แค่องครักษ์สามคนก็พอแล้ว ข้าจะไปที่ห้องอักษรของเสด็จพ่อ”            ข้าบอกเมื่อนึกไปถึงความทรงจำเมื่อเก่าก่อนของร่างนี้ รู้ว่ามีป้ายหยกที่สามารถเข้าออกห้องอักษรได้ตลอดเวลา แม้ความรู้ที่ได้มาจากร่างนี้แต่มันยังไม่เพียงพอ            “แต่องค์ชายยังไม่หายดีนะเพคะ อย่าเพิ่งหักโหมร่างกายเลยเพคะ” ข้าหันกลับมามองแม่นมอีกครั้ง ก็รู้หรอกนะว่าเป็นห่วงแต่มันน่าเบื่อที่ได้แค่นั่งกับนอน            “ ถ้าอย่างนั้นข้าจะกลับเข้าห้องบรรทม พวกเจ้าก็ไม่ต้องตามมา”          ข้าบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะเดินเร็วๆ ออกไปทันที เมื่อมาถึงห้องบรรทมข้าก็ลั่นกลอนปิดประตูไม่ให้ใครเข้ามา ข้าลากสังขารที่เหนื่อยหอบมานั่งบนเตียงนอนที่แข็งโป๊ก แล้วถอนหายใจอย่างเซ็งๆ            คิดถึงเตียงนุ่มๆ จังเลย คงไม่ผิดใช่ไหมที่จะคิดถึงอดีตของตัวเอง มันเร็วเกินไปทำให้ข้าปรับตัวยังไม่ค่อยได้ เพราะข้าไม่ใช้กิ้งก่าจะได้เปลี่ยนสีเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่ายดาย            เมื่อหัวใจกลับมาเต้นเป็นจังหวะแล้ว ข้าไม่รอช้าที่จะนั่งขัดสมาธิเดินลมปราณที่เคยมีในอดีต แม้จะจำชาติของเทพหลิ่งเหวินไม่ได้ทั้งหมด แต่ความจำของเอกบดินทร์ยังครบถ้วน            เพราะฉะนั้นข้าต้องหายจากโรคร่างกายอ่อนแรงนี้ให้ได้ เสียงข้างนอกยังอ้อนวอนให้ข้าเปิดประตูให้แต่ข้าไม่สนใจหลับตาทำสมาธิตัดขาดทุกสิ่งที่อยู่ภายนอก            ชีพจรไท้อิมฮุ่ยเก็งกับชีพจรหยิม เป็นรากฐานของลมปราณภูตอุดร ในจำนวนนี้ถือว่าจุดเสียวเซียงที่นิ้วหัวแม่มือ กับจุดทั้งตงที่ราวนมมีความสำคัญที่สุด จุดแรกใช้ดึงดูด จุดหลังใช้เก็บกัก คนประกอบด้วยสี่ทะเล หมายถึงกระเพาะซึ่งเป็นทะเลแห่งธัญญะและน้ำ ชีพจรเมะเป็นทะเลแห่งสิบสองชีพจร ทั้งตงเป็นทะเลลมปราณ            สมองเป็นทะเลแห่งไขกระดูก ดื่มน้ำรับประทานธัญญะ เก็บกักในกระเพาะ แม้ทารกแรกเกิดก็กระทำได้ แต่การดึงดูดกำลังภายในผู้คนจากจุดเสียวเซียง เก็บกักที่ทะเลลมปราณ มีแต่ลมปราณภูตอุดรของสำนักสราญรมย์ที่จะกระทำได้            ผู้คนดื่มน้ำรับประทานธัญญะ ไม่ถึงหนึ่งวันล้วนขับออกจากร่าง ดึงดูดกำลังภายในผู้คนดูดหนึ่งส่วนเก็บกักหนึ่งส่วน ไม่มีวันรั่วไหล ยิ่งสะสมยิ่งลึกล้ำ ดั่งราวกับกระแสธารแห่งสระสวรรค์สุดขอบฟ้าอุดร            คำในหนังสือยังติดอยู่ในความทรงจำและยังฝึกผ่านสำเร็จมาแล้วหนึ่งรอบ ครั้งนี้ข้าก็ต้องผ่านไปได้เช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม