บทที่ 4 ยิง
หลังจากกินขนมและไอติมกันเสร็จ พวกเราต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเรียน จนถึงคาบสุดท้าย ไม่นานก็เลิกเรียน
“ พวกแก ฉันกลับก่อนนะ ลุงสอนมารับแล้ว ” มีนพูดขึ้นพร้อมยกมือขึ้นส่ายไปมาและเดินจากไป
“ งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกันวันจันทร์ ” ฉันหันไปบอกอิ่มกับนี พลางส่งยิ้มให้เพื่อนๆ แต่ก็ยังไม่เดินไปไหนเพราะยังไม่เห็นรถของที่บ้านมาเลย
“ ยัยคุณหนูจะไม่เปลี่ยนใจแน่นะ ไปเที่ยวกับพวกฉันสนุกออก ดีกว่าอยู่บ้านหลายเท่าเลยนะ ” นีพูดขึ้น
“ ใช่ๆ ไปเที่ยวกับพวกเรานะ ” อิ่มพูดเสริม
“ ไม่เปลี่ยนใจหรอกและอีกอย่างก็ยังไม่ขอแม่ด้วย ไม่กล้าตอบตกลงหรอก ”
“ อืมๆ งั้นเจอกันวันจันทร์ล่ะกัน ” แล้วนีก็เดินไปขึ้นแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน
“ ไอซ์แล้วแกจะกลับไง ” อิ่มถามขึ้น
“ วันนี้คุณพ่อมารับนะ แล้วอิ่มอะกลับกับใครเหรอ? ”
“ กลับกับแฟนนะ อิอิ โน่นๆพี่ซีมาแล้ว ” นิ้วของอิ่มชี้ไปยังรถกะบะสี่ประตูสีขาวที่ชะลอจอดที่หน้าฟุตบาธ
“ อ๋อ กลับดีๆนะ ” ฉันยิ้มแล้วยกมือขึ้นส่ายไปมาให้เพื่อน
“ ไปด้วยกันไหม ฉันไม่อยากทิ้งแกให้ยืนคนเดียวเลย ” อิ่มพูด
“ ไม่เป็นไรหรอก อิ่มไปเถอะ อีกสักพักคุณพ่อคงมารับแล้ว ”
รถกะบะคันนั้นจอดแน่นิ่ง คนในรถก็ไม่ลงมา น่าจะนั่งรอบนรถเลย
“ งั้นเดียวฉันไปบอกพี่ซี ให้รอเป็นเพื่อนแกดีกว่า จนกว่าพ่อแกจะมา แล้วพวกเราค่อยไป ” อิ่มพูดอย่างห่วงใย
ฉันไม่ทันได้เอ่ยห้าม อิ่มเดินตรงไปยังรถกะบะสี่ประตู แต่อิ่มเดินไปที่ประตูข้างหลัง ก็งงนะ ทำไมพี่ซีไม่ได้นั่งข้างหน้า หรือว่าในรถจะมีคนอื่นด้วย ไม่ทันจะได้สงสัยนาน กระจกข้างหน้าก็ค่อยๆลดลงมา จนทำให้เห็นคนที่นั่งอยู่ที่พวงมาลัยคนขับ...
พี่กายนี่เอง ฉันมองพี่เขาเพียงเศษเสี้ยววินาที แล้วรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
“ รอแฟนเหรอวะ ” เสียงนี้ตะโกนดังมาทางฉันทันที
“ เปล่าค่ะ รอพ่อ ” หันไปตอบเขาทันที สักพักอิ่มก็เดินตรงมาหาฉัน
“ พี่ซีว่าโอเค ” อิ่มพูด
“ พี่กายไม่ว่าเหรอ? ” ฉันกระซิบอิ่มเบาๆ ดดูก็รู้ว่าเป็นรถของใคร
“ ไม่ว่า พี่เขานั่นแหละอนุญาต ”
“ แน่ใจนะ พ่อฉันไม่รู้ว่าอีกนานไหมกว่าจะถึง ดีไม่ดีพี่กายอาจจะโมโหแล้วมาปาดคอฉัน ทำไงอะ ”
“ เวอร์แล้วแกอะ ” อิ่มต่อว่าฉันเล็กน้อย
ก็มีคนบอกพวกนี้โหด เป็นนักเลงคุมถิ่นด้วยตอนแรกไม่ค่อยจะกลัวตอนไปซื้อไอติมนะ แต่ตอนเข้าห้องบังเอิญได้ยินเพื่อนๆในห้องพูดกันว่าพวกพี่กายไปกระทืบพี่ปีสี่ด้วยเรื่องมองหน้ากัน ฉันก็เลยนึกกลัวขึ้นมาทันที แค่นั้นไม่พอยังมีรูปเป็นหลักฐานด้วย รูปใบหน้าพี่ปีสี่ที่นองไปด้วยเลือด นึกแล้วยังสยองไม่หาย รูปพวกนี้ไม่แน่ใจว่าหลุดมาได้ไงเหมือนกัน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...
อย่าว่าแต่คนอื่นร้อนใจ ฉันนี่ร้อนกว่าใคร เพราะกลัวพี่กายจะไม่สบอารมณ์ อิ่มก็ยืนคุยกับพี่ซีใกล้รถ
“ อีกนานไหมวะ กว่าพ่อมึงจะมาอะ ” ในที่สุดพี่กายเขาก็ตะโกนถามทันทีด้วยน้ำเสียงเริ่มจะห้วนแล้ว
“ เอ่อ...ไอซ์ก็ไม่แน่ใจค่ะ ”
“ โธ่ ยัยบื่อ ก็โทรถามสิวะ มันจะยากอะไร ให้ไวเลย ถามดูซิพ่อมึงจะมายัง ” ฉันได้แต่อ้าปากพะงาบๆ อยากจะบอกให้เขาหยุดพูดแบบนั้นสักที มันหยาบคายเกินไปแล้วนะ
ตอนนี้เพื่อนทั้งโรงเรียนกลับหมดล่ะ ลุงภารโรงมาปิดประตูโรงเรียนแล้วด้วย ฉันก็รีบทำตามโดยการหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อที่จะได้กดโทรหาคนเป็นพ่อ...แต่...
ปัง ปัง ปัง
“ ว้ายยย ” ฉันรีบนั่งลงแล้วเอามือปิดหูทันที ทั้งตกใจและตะลึงงัน
“ ไอ้พวกเชี่- แม่งลอบกัดวะ ” ได้ยินแค่เสียงพี่กายตะโกนด่าทอพวกไหนไม่รู้ ฉันเงยหน้ามองไปยังพวกพี่กาย พี่เขาเปิดประตูรถลงมาทันที
“ ลุกขึ้นดิวะ มัวแต่นั่งทำซากอะไรอยู่ อยากโดนยิงตายหรือไง ” ฉันหน้ามองพี่กายที่ตอนนี้เริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้ว
“ จะจ้องกูอีกนานไหมวะ โน่นพวกมันมากันเยอะล่ะ ” พี่กายพูดต่อ ฉันก็คงนั่งนิ่งๆเอามือปิดหูอยู่ แต่ก็โดนกระชากโดยพี่กาย ลากไปยังรถของตัวเอง ทุกคนก็เข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว
บรืนนนนน
พี่กายออกรถอย่างเร็ว แต่ฉันควรจะโฟกัสอะไรก่อนดี ตอนนี้ฉันได้นั่งตักพี่เขาด้วย ฉันควรเขินไหม ควรจะทำไงดี เพิ่งครั้งแรกที่นั่งบนตักผู้ชายอะ
บนรถ
มีพี่ทิวนั่งข้างพี่กายที่ตอนนี้เอาหัวออกนอกรถยิงสวนคู่อริไป ส่วนยัยอิ่มก็นั่งตรงกลางระหว่างพี่ซีกับพี่บิล พี่บิลที่นั่งติดกระจกรถตอนนี้ก็เอาปืนออกไปนอกรถ ยิงสวนไปด้วย
ต้องร้าย ต้องเถื่อน ต้องโหดขนาดไหน ที่มีคู่อริมาไล่ยิงขนาดนี้ คิดแล้วก็ขนลุกซู่ กลัวมากๆ ตัวเลยสั่นๆ เพราะในชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ไม่เคยต้องถูกใครมาตามยิงแบบนี้เลย
“ มึงเป็นไรวะ ทำไมตัวสั่นขนาดนี้ ” พี่กายขับรถแล้วพูดขึ้น ฉันนั้นได้นั่งตรงหว่างขาของพี่เขาทั้งสองข้าง ได้แต่ภาวนาในใจให้ปลอดภัย
“ อะ...ไอซ์กลัวค่ะ ” น้ำเสียงก็สั่นไปด้วย
“ มากับกู มึงไม่ต้องกลัวไปหรอก ” ฟังแล้วบางคนอาจจะรู้สึกดีว่าเขาสามารถปกป้องเราได้ แต่ภายในใจก็ยังกังวลอยู่ดี
ครืดดด ครืดดด
“ โทรศัพท์มือถือมึงสั่นอยู่นะ ไม่รู้สึกเหรอวะ ” เวลาที่พี่เขาพูดเหมือนจะกระซิบที่ข้างหูตลอด ก็แหง่ล่ะ ฉันนั่งตรงกลางหว่างขาหนิ มือทั้งสองของเขาจับพวงมาลัย เท่ากับว่าโอบกอดฉันไปด้วยนั่นแหละ
ฉันก็รีบล้วงโทรศัพท์ออกมาทันที เมื่อเห็นว่าใครโทรมา ก็กดรับสายทันที
( ฉัน : ค่ะคุณแม่ )
( แม่ : อยู่ไหน ตอนนี้แม่รออยู่หน้าโรงเรียนแล้วนะ หรือลูกยังอยู่ในโรงเรียน )
( ฉัน : เอ่อ...หนูอยู่...)
พยายามมองหน้าป้ายที่เขียนบอกสถานที่ แต่ก็หาไม่เจอสักที
“ ถนนสายXX ” จู่ๆพี่กายก็พูดขึ้น
( แม่ : อยู่กับผู้ชายเหรอ? นี่อย่าบอกนะว่าแอบมีแฟน แม่บอกแล้วไง ไม่ให้รีบมีอะ )
( ฉัน : เอ่อ...เปล่านะคะ ไม่ใช่แฟนค่ะ พี่เขาเป็นรุ่นพี่หนูค่ะ )
( แม่ : ไม่ใช่แฟน ทำไมถึงไปด้วยกัน อยู่ด้วยกัน บอกแม่ว่ามาแกอยู่ตรงไหน แม่จะไปรับ )
น้ำเสียงที่แม่เปล่งออกมาดูก็รู้ว่าเริ่มโมโหแล้ว ซวยแล้วไง....พี่กายนะพี่กาย นึกจะพูดก็พูด ปกติเงียบอย่างกับป่าช้า
( ฉัน : เอ่อ...คุณแม่คะ ฟังหนูก่อน เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่ไอซ์ยืนรอรถคุณพ่อ จู่ๆก็มีนักเลงที่ไหนไม่รู้มาถึงก็กระหน่ำยิงใส่ รุ่นพี่เลยช่วยหนูกับยัยอิ่มมาค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อีกสักพักหนูคงถึงบ้านแล้ว เอาไว้จะเล่าให้ฟังะคะ )
( แม่ : ห้ะ โดนยิงเหรอ ลูกเป็นไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนไหม ใครนะที่มันบังอาจมายิงลูกสาวแม่ )
( ฉัน : เอ่อ.... ตู๊ดดดๆ )
จู่ๆสายก็ตัดไป ยังไม่ทันได้พูดอะไรมาก สรุปแบตหมด เฮ้อ คุณแม่คงต้องดุอีกแน่ๆ เพราะยังคุยไม่เสร็จ ไม่กระจ่างเลย
?____________?
นามปากกาByMinne