“เจ้า…เจ้าว่าอย่างไรนะ”
“วะ…ฮ่า ฮ่า เห็นถึงความฉลาดของข้าไหมอาจารย์” เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักมีหูกระต่ายสีชมพูนุ่มฟูอยู่บนหัวยึดอกอย่างภูมิใจ
“เจ้า…เอาองค์รัชทายาทใส่ซองขนม…จริง ๆ …น่ะเหรอ…”
“ใช่แล้ว เพราะข้าสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตแค้นของพวกศัตรู” สองมือกางออกแสดงให้เห็นถึงโอเวอร์แอ็กติงที่ตนได้มโน
“ข้าจึงได้ใช้พลังเวทย์แปลงให้นายน้อยเป็นขนมและเขวี้ยงออกนอกวงแหวนมิติ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ข้าฉลาดใช่ไหมเล่า วะ ฮ่า ฮ่า”
หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเมื่อความสามารถในพลังเวทย์ของตัวเองสัมฤทธิ์ผล พร้อมยืดอกรอคำชมเชยจากอาจารย์ มา…ข้าพร้อมฟังคำเยินยอจากท่านแล้ว
“นี่เจ้าโง่หรือเจ้าโง่!” ลูเซี่ยนตวาดใส่ผู้ช่วยของตนเองดังลั่น
“เอ๊ะ…เอ่อ…มันต่างกันเหรอ งั้นข้าเลือกคำหลัง” คานินหนุ่มน้อยเจ้าของหูกระต่ายนุ่มฟูเกาหัวตัวเองแกรก ๆ เนื่องจากมีคำสั่งจากฝ่าบาทให้จัดขบวนทัพไปรับองค์รัชทายาทที่เพิ่งประสูติ แต่ในระหว่างทางกลับนั้นคานินก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ พุ่มไม้ระหว่างทางสั่นไหวราวกับมีศัตรูกำลังซุ่มดักทำร้าย
แน่นอนล่ะ รัชทายาทของท่านราชาปีศาจพ่อของเขามีศัตรูทุกทั่วสารทิศต้องมีคนประสงค์ร้ายอยากสังหารเป็นแน่
ด้วยความชาญฉลาดจึงใช้พลังเวทย์อันน้อยนิดที่ท่านลูเซี่ยนสอนเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้องค์รัชทายาทกลายเป็นขนมซองของมนุษย์และเหวี่ยงออกนอกวงแหวนมิติเพื่อความปลอดภัยจากพวกศัตรู
ทว่า…เมื่อเหวี่ยงไปได้ไม่ถึงเสี้ยววินาที พอหันกลับมาสิ่งที่อยู่ในพุ่มก็กระโจนมาเกาะหน้า ซึ่งนั่นก็คือกองทัพกระต่าย!! นุ่มนิ่ม ขนฟู ไม่มีพิษภัยใด ๆ ทั้งสิ้น
อ่าส่วน…องค์รัชทายาทก็…เอิ่ม…ก็…
“หาเรื่องหัวหลุดจากบ่าแล้วไหมล่ะ”
“ทะ…ท่านลูเซี่ยน…ละแล้ว…องค์รัชทายาทล่ะ”
“โดนกินไปแล้ว”
“หา!!!! ดะ…โดนกิน!”
“ใช่ ได้ยินครั้งแรกข้าก็ยังไม่เชื่อหูตัวเอง เลยมาถามเจ้าอีกครั้ง”
ลูเซี่ยนขมวดคิ้วเข้าหากันกับภาพที่นักเวทย์แสดงให้ดู ในลูกแก้วมิติมีเด็กหนุ่มนั่งพิงหลังไปกับต้นไม้ในป่าที่ไหนสักแห่ง ใบหน้าที่เขาเห็นทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตื่นตระหนกมองหน้ากันเหลอหลาไปหมด เด็กหนุ่มค่อย ๆ หยิบก้อนอะไรสักอย่างสีม่วงขึ้นมากิน นักเวทย์จึงชี้ไปที่สิ่งนั้นและบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท...นั่นแหละที่เขาไม่อยากจะเชื่อ
“ขะ...ข้า สู่ขิต สู่ขิตแน่ ๆ” คานินขยำเส้นผมสีขาวของตนเองจนมันยุ่งเหยิง
“สู่ขิต อะไรของเจ้า”
“มันเป็นคำศัพท์ของมนุษย์น่ะ แปลว่าตายแน่ ๆ อ้ากกกก”
“อืม งั้นเจ้าคงจะได้สู่ขิต”
“แล้ว แล้วคนที่กินไปล่ะ เขาเป็นยังไงบ้าง”
“เขาก็คงสู่ขิตเหมือนกัน...”
ในกรงขังมืดสนิทมีเพียงแสงสลัว ๆ จากตะเกียงที่ตั้งหน้ากรง ตามพื้นและกำแพงอิฐเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำแห้งกัง กลิ่นอับชื้นเคล้ากับเหม็นสาบของสัตว์คละคลุ้งไปหมด
ขาทั้งสองข้างของพายถูกล่ามด้วยตรวนสนิมขนาดใหญ่ ข้อมือขาวก็มีกุญแจมือของนักโทษใส่ไว้เช่นเดียวกัน
เปลือกตาทั้งสองหนักอึ้งจนแทบปิด สองวัน...สองวันแล้วที่โดนขังไว้ที่นี่ ใบหน้าขาวซีดเซียวจนไร้เลือด พยายามกลืนน้ำลายลงคอแห้งผากตลอดสองวันเขาได้กินเพียงขนมปังก้อนเล็ก ๆ ที่เด็กหนุ่มหูกระต่ายนำมาให้ ซึ่งมันไม่ถึงเสี้ยวของกระเพาะด้วยซ้ำ
หิว...หิวจะตายอยู่แล้ว
“อะแฮ่ม เจ้าวิญญาณร้าย” เสียงแหบแห้งของผู้ชายทักขึ้นทำให้พายค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง ชายรูปร่างอ้วนท้วมใส่ชุดทางการเต็มยศ ผมสีขาวปาดเจลเนี้ยบหรี่ตามองใบหน้าพายอย่างครุ่นคิดจากนั้นก็ทำสีหน้าตื่นตระหนก “ท่าน...ท่านกลับมาเกิดแล้วงั้นเหรอ”
“...”
“ไม่อยากจะเชื่อสายตา นี่มันแค่ร้อยปีเท่านั้น ข้ายังจำใบหน้าอาฆาตของท่านก่อนตายได้ ไม่...ไม่อยากจะเชื่อ” “คุณเป็นใครครับ?” พายรีบเบรกพ่อคนเวิ่นเว้อตรงหน้าก่อนมันจะไปไกลกว่านี้ จู่ ๆ ใครก็ไม่รู้มายืนจ้องหน้าแถมยังพูดเรื่องเป็น ๆ ตาย ๆ อีก
“ท่าน จำกระผมไม่ได้งั้นเหรอ?”
“ผมไม่รู้จักคุณมาก่อนครับ”
เขากระแอมไอสองครั้ง แล้วหยิบม้วนกระดาษขึ้นมากางออก
“ข้าจะพูดให้ฟังแบบง่าย ๆ ภาษาชาวบ้านนะ พรุ่งนี้เจ้าจะโดนตัดหัวเสียบประจาน เหตุเพราะปลงพระชนม์ขององค์รัชทายาทวัยแบเบาะ ง่าย ๆ คือเจ้าฆ่าเด็กตาย แถมเด็กคนนั้นยังเป็นลูกของราชาแห่งเมืองปีศาจอีกด้วย”
“ฮะ...” พายอ้าปากค้างด้วยความช็อกสุดขีด ทั้งสับสนงงงวยตบตีกันไปหมด อยู่ ๆ ก็โดนมังกรจับตัวมา จากนั้นก็โดนขังในคุกสองวัน แล้วนี่จะโดนตัดหัวเพราะฆ่าเด็กอีกต่างหาก นี่มันอะไรกันวะเนี่ยยย
“ผม...ไม่เข้าใจ”
“อ้อ อีกข้อหนึ่ง เจ้ามีใบหน้าที่ฝ่าบาทเกลียด”
ทั้งฆ่าเด็ก?
ทั้งมีใบหน้าแบบที่เขาเกลียด?
“ดูจากสีหน้า...เจ้าแล้วคงจะไม่เข้าใจ เช่นนั้นข้าจะเล่าให้ฟัง” ชายร่างท้วมนั่งลงพื้นปูนหน้ากรงขังพร้อมกระแอมไออีกรอบตั้งท่าจะเล่าเรื่องราวให้พายฟังด้วยสีหน้าจริงจัง "เรอา คือเด็กหนุ่มรูปงาม งามที่ว่าคืองามยิ่งกว่าสตรี ผิวพรรณนวลเนียนและร่างกายบอบบางไม่สมกับเป็นชาย เรอาคือสหายที่โตมาพร้อมกับฝ่าบาท เขาหลงรักเพื่อนของตัวเองอย่างหัวปักหัวปำและไม่เคยคิดจะปิดบัง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เคยสมหวัง สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือขัดขวาง ใครก็ตามที่เข้าใกล้เป็นต้องชะตาขาด
เรอาสังหารหญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้คนที่ตัวเองรักไปจำนวนมาก แต่ฝ่าบาทไม่อาจจะทำอะไรได้เพราะคำว่าสหาย อีกทั้งมารดาของท่านเรอายังเป็นแม่นมของฝ่าบาท ทำให้ไม่มีใครแตะต้องท่านเรอาได้
มีครั้งหนึ่งฝ่าบาทเหมือนจะเริ่มชอบพอกับเจ้าหญิงเมืองหนึ่ง แต่ไม่นานเธอก็ตายเช่นเดียวกัน เป็นการตายชัดเจนไม่ต้องสืบหาเพียงแค่ปาดคอตามอารมณ์แค้นและแรงริษยาไปเท่านั้น
พ่อแม่ของหญิงสาว พูดง่าย ๆ ก็คือทั้งพวกชาวบ้าน ทั้งขุนนางชั้นสูงที่เป็นพ่อแม่ของนางในฮาเร็มต่างก็มาประท้วงถึงความโหดร้ายของเรอา จนขีดความอดทนของฝ่าบาทหมดลง
โทษสถานเดียวของเรอาคือ ตายเท่านั้น
ร่างกายบอบบางถูกผูกมัดไว้กับต้นเสา เนื้อตัวสั่นเทิ้ม ร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเต็มไปด้วยน้ำตาเขาเงยหน้าขึ้นมองฝ่าบาท แล้วพูดออกมาว่า…
'ไม่ว่าจะอีกกี่ร้อยปี พันปี ข้าก็จะกลับมารักท่าน'
'ต้องมีสักชาติ สักชาติ ฮึก ที่ท่านจะรักข้าบ้าง ฮืออ'
(บีบเสียงอย่างสุดความสามารถจนพายต้องกลั้นขำ)
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อหันไปมองหญิงสาวที่ยืนข้างกายของคนที่ตัวเองรัก
'และข้าก็จะกลับมาฆ่าเจ้า เมื่อพวกเจ้ามีทายาทด้วยกัน ข้าก็จะฆ่าทายาทของเจ้า จำคำของข้า...'
เขายังพูดไม่ทันจบประโยคดาบที่อาบไปด้วยพลังเวทย์ก็ฟันลงต้นคอของเรอาจนหัวหลุดกระเด็นไปอีกทาง แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาของเขาก็ยังเบิกค้าง เพื่อมอง...มองคนที่ตนเองรัก"
"..."
“ฮึก ข้า...ข้าเวทนาท่านนัก ท่านเรอา ฮืออออ”
“เอ่อ คือ ผมไม่ใช่”
ผู้ชายผมขาวที่เล่าเรื่องนี้ให้พายฟังยังคงร้องไห้ไม่หยุด นึกถึงใบหน้าของท่านเรอาเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วตัวเดโก้เองก็เวทนายิ่งนัก เห็นทั้งคู่มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ท่านเรอาวิ่งตามฝ่าบาทต้อย ๆ ตั้งแต่เล็กจนโต แต่ไม่คิดว่าความใกล้ชิดจะทำให้มิตรภาพแปรเปลี่ยน
ฝ่าบาทไม่เคยคิดแคลงใจว่าท่านเรอาจะเป็นเพศอะไร ชอบชายหรือหญิงมันสุดแล้วแต่เขา แต่ว่าสหายก็คือสหาย เขาให้ได้แค่เพียงสถานะนี้ นับวันการกระทำของสหายตนนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะให้อภัยได้ทั้งเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ พวกหญิงสาวที่ฝ่าบาทไม่แม้แต่ชายตาแลยังโดนทำร้ายไปด้วย จน...จุดจบมันก็เป็นเช่นนี้
"ฮือออออออออออ"
โอเค เรื่องเล่าของคนที่ชื่อเรอาเศร้าเสียจนพายเองก็อยากร้องไห้ตาม
ร้องเพราะสงสาร?
ไม่! ร้องเพราะดันเกิดมาหน้าตาเหมือนเขาต่างหาก
ไม่แปลกใจเลยที่จะโดนเกลียด เล่นฆ่าปาดคอคนไปเป็นเบือขนาดนั้น แต่ถ้าเราจะโดนตัดหัวเพียงเพราะหน้าตาเหมือนคนที่เกลียดมันดูไร้เหตุผลเกินไปไหม
“แล้วฆ่าเด็กล่ะ ผมไปฆ่ายังไง ผมไม่เคยเห็นเด็กแบเบาะที่ไหนเลยด้วยซ้ำ ผมมั่นใจนะว่าเรื่องนี้ผมโดนใส่ร้ายแน่ ๆ”
พายรีบบอกผู้ชายผมขาวเมื่อเห็นว่าเขายังคงไม่หยุดร้อง ข้อนี้ล่ะข้องใจจริง ๆ พายอยู่ในหอพักใกล้มหาวิทยาลัยแน่นอนว่าทั้งหอล้วนเป็นนักศึกษา เด็กคนเดียวที่เขาเห็นคือลูกป้าเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง เมื่อสองวันก่อนยังชูนิ้วกลางให้พายอยู่เลย ไม่น่าจะตายเพราะพาย น่าจะเพราะบาทาของเด็กในหอมากกว่า
“อ๋อ ฮึก เรื่องนั้น องค์รัชทายาทททท ฮือออ เกิดมาเพียงแค่วันเดียวก็โดนมนุษย์ใจมารกินเสียแล้ว ฮืออออ”
คิ้วของพายขมวดเข้าหากันเป็นปม ใบหน้ายับยู่ยี่ยิ่งกว่าอะไรดีเมื่อได้ยินคำที่เขาบอก
“เจ้าจำ เอ่อ อะไรนะ โยลี่ หรือเปล่า โยลี่สีม่วงที่พวกมนุษย์ชอบกินน่ะ”
“เยลลี?”
“อ่าใช่ นั่นแหละองค์รัชทายาท”
“หาาาาาาา!!!” ต้องมีเรื่องให้ช็อกอีกกี่รอบ เยลลีคือองค์รัชทายาท ปีศาจคลอดลูกเป็นเยลลีงั้นเหรอ
“อะ แฮ่ม ข้าจำได้ลาง ๆ กับภาพที่นักเวทย์ฉาย เป็นภาพของเจ้ากำลังกินโย...”
“เยลลี”
“เยลลีสีม่วงในป่าที่ไหนสักแห่ง ส่วนที่นายน้อยกลายเป็นเยลลีเพราะพลังเวทย์อันผิดเพี้ยนของเจ้าคานินดัดแปลงเอาน่ะ”
เยลลีสีม่วงในป่า...ที่ส่องแสงสว่างวาบในพุ่มไม้คืนนั้น ทั้ง ๆ ที่รสชาติมันก็หวานล้ำจนเหมือนขนมจริง ๆ หากเป็นเด็กไม่มีแม้แต่เลือดสักหยดเลยหรือ? แล้วเด็กจะเป็นก้อนเยลลีได้ยังไง? โดนกินเจ็บไหม? แล้วยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? ในสมองตีกันสับสนไปหมด
เรื่องจริงเหรอเนี่ย เรา…
"ก่อนตายท่านมองมารดาขององค์รัชทายาทด้วยแววตาอาฆาต แถมพูดว่าจะฆ่าลูกของนางอีก...และในที่สุด ท่านก็ทำสำเร็จ จิตใจทำด้วยอะไรท่านเรอา ช่างชั่วช้าสารเลวยิ่งนัก"
"..."
"ท่านคงจะโกรธแค้นฝ่าบาทมากใช่ไหม ถึงต่อให้เกิดใหม่ก็กลับมาฆ่าให้ได้ ดูจากแววตาชั่วร้ายที่แฝงอยู่แล้ว กระผมรู้ว่าท่านคิดอะ..."
"ผมแค่...หิว...แอ่ก"
“เหวออ ท่าน!!!! ใครก็ได้ ตามหมอ เอ้ย ฝ่าบาท เอ้ย ตามทั้งคู่เลย!!!”
แล้วพายก็ได้สลบไปเพราะความช็อก….