หลังจากที่เธอทานมื้อเช้าด้วยการป้อนของท่านเคาน์โอนิกซ์ เขาก็บอกลาเธอเพื่อเดินทางไปที่พระราชวัง ส่วนฟาเดล เขาสั่งให้เธออยู่ที่นี่ พร้อมกับเขียนชื่อของเธอลงไปบนกรรมสิทธิ์ที่ดินแห่งนี้
ตอนนี้ก็เลยกลับกลายเป็นว่าเธอคือเจ้าของคฤหาสน์ที่แสนหรูหราแห่งนี้พร้อมๆ กับได้มีชื่อเป็นหนึ่งในเลดี้ชนชั้นสูง
ฟาเดลไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิด เธอไม่ได้อยากได้อะไรที่ท่านเคาน์โอนิกซ์เป็นผู้มอบให้เลย เพราะเธอรู้ว่าเขาอันตรายและเขาจะมาทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่ส่งมอบให้เธอในภายหลังอย่างแน่นอน!!
ฟาเดลทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ช่วงเวลาที่ผ่านมามันเกิดเรื่องขึ้นมากมายเหลือเกิน
“ข้าอาจจะแนะนำตัวช้าไปหน่อย แต่ในเมื่อท่านคือเจ้านายคนใหม่ของพวกเรา ข้าจึงได้พาสาวใช้ทุกคนมาแนะนำตัวกับท่านฟาเดลค่ะ ข้าเป็นหัวหน้าสาวใช้ของที่นี่มีชื่อว่าเจน และนี่คือสาวใช้ที่จะมาดูแลท่านจากนี้เป็นต้นไปนางมีชื่อว่านิวา..”
ฟาเดลกวาดสายตามองใบหน้าของสาวใช้ทุกคนที่ยืนอยู่ในห้องนี้ เธอไม่อยากจะทึกทักเอาเองว่าที่นี่เป็นของเธอ เพียงแค่ฟาเดลแค่ต้องการความปลอดภัยในชีวิต เพราะอย่างนั้นเธอจะต้องตามหาพักพวกที่พอจะเชื่อใจกันได้
แล้วอะไรมันจะไปเชื่อใจกันได้มากกว่าเพื่อนหญิงพลังหญิงล่ะจริงไหม?
“พวกเจ้า คิดอย่างไรกับกฎห้าสิบข้อที่ทางพระราชวังประกาศออกมาเมื่อวันก่อน..”
สาวใช้ต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่มีสตรีคนไหนรู้สึกพึงพอใจได้หรอก เมื่อพวกนางได้ยินกฎข้อห้ามมากมายอะไรแบบนั้น เพียงแต่เจ้านายเก่าของพวกนางคือท่านเคาน์โอนิกซ์ จะกล่าวว่าไม่พึงพอใจออกไปในยามนี้สมควรแน่แล้วอย่างนั้นหรือ?
“ข้าจำได้ว่าเมื่อครู่ท่านเคาน์โอนิกซ์พึ่งจะจรดปากกาลงไปในใบกรรมสิทธิ์ ว่าที่คฤหาสน์แห่งนี้มีเจ้านายคนใหม่แล้ว และเจ้านายคนนั้นมันคือข้า เหตุใดสตรีทุกคนจะต้องอดทนเพื่อให้เหล่าบุรุษมาข่มเหงด้วยเล่า หากว่าพวกเจ้าเต็มใจที่จะรับใช้ข้าจริงๆ แค่ช่วยกันสอดส่องเรื่องความเคลื่อนไหวของท่านเคาน์ก็พอแล้ว ข้ารู้ว่านี่มันทำใจลำบากแต่ถ้าเรายอมรับตั้งแต่ตอนนี้ ในอนาคตข้างหน้าไม่ว่าพวกบุรุษจะออกกฎข้อห้ามอย่างไรมาอีก มิใช่ว่าพวกเราจะต้องก้มหน้ายอมรับเพียงอย่างเดียวงั้นหรือ?”
เธอน่ะ จะไม่ยอมก้าวพลาดอีกแล้ว เท่าที่ดูท่าทีของท่านเคาน์ เขาไม่คิดว่านางจะสามารถทำให้สตรีกลับมามีอำนาจที่เท่าเทียมบุรุษได้ เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้มอบคฤหาสน์หลังนี้ให้กับนาง เพื่อตอกย้ำว่าสุดท้ายสตรีจะต้องเห็นเงินทองดีกว่าศักดิ์ศรีของตัวเอง
เขาเป็นคนที่ฟาเดลอยากจะเอาชนะมากที่สุดในโลกเลย เธอน่ะอยากจะแสดงให้เขาเห็นว่าสตรีไม่ได้เป็นเหมือนกันทั้งโลก หากว่าเขาเป็นคนดี..หมายถึงเป็นผู้เป็นคนมากกว่าในตอนนี้ บางทีเขาอาจจะพบเจอสตรีที่รักเขาจากหัวใจที่แท้จริงก็เป็นได้
“สามีของข้าเป็นหนึ่งในสายข่าวของกิลล์ข้อมูลค่ะนายหญิง บางทีหากว่าท่านไปที่นั่นอาจจะมีข้อมูลต่างๆ มากกว่านี้ก็ได้”
แววตาของฟาเดลเป็นประกายขึ้นมาในทันที หัวหน้าสาวใช้ยกยิ้มขึ้นมาจางๆ เมื่อนางไม่เห็นท่าทีหมดอาลัยตายอยากของสตรีผู้นี้เหมือนกับครั้งที่นางพึ่งจะลุกขึ้นมาจากเตียง ถึงแม้ว่าหัวหน้าสาวใช้จะไม่รู้แน่ชัดว่าท่านฟาเดลคือสตรีในคำทำนายหรือไม่ แต่นางก็อยากจะมองเห็นนายท่านพ่ายแพ้ดูสักครั้ง แล้วยิ่งพ่ายแพ้ให้กับท่านฟาเดลด้วยแล้ว อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จังเลย
...............
“ไปที่กิลล์ข้อมูลอย่างนั้นหรือ อืม..นางลงมือไวกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ซะอีก”
เซอร์ลูอีสไม่เข้าใจถึงรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของนายท่านยามนี้เอาซะเลย นายท่านเก็บสตรีที่ดูเหมือนจะเป็นภัยร้ายผู้นั้นเอาไว้ข้างกายทำไมกัน อีกทั้งยังปล่อยให้นางได้ทำตามอำเภอใจ
“มิใช่ว่าในวันข้างหน้า สตรีผู้นั้นจะลอบกัดนายท่านอย่างนั้นหรือครับ”
คิลเลียนละสายตาจากกองเอกสารมากมายเบื้องหน้า เขามองหน้าของลูอิสที่รับใช้เขามาตั้งแต่จำความได้
“ไม่ว่าข้าจะเก็บนางเอาไว้หรือตามไล่ลานางจนสุดขอบฟ้า ฟาเดลจะต้องหาทางทำลายข้าอยู่ดีนั่นแหละลูอิส เพราะอย่างนั้นเก็บนางเอาไว้ในสายตาเป็นเรื่องที่ดีที่สุด อีกอย่างคนเช่นข้าไม่เคยพ่ายแพ้ ยิ่งเป็นการพ่ายแพ้ให้กับสตรีด้วยแล้ว ข้ายิ่งไม่มีทางยินยอมให้เป็นเช่นนั้น..”
เขากำลังรอคอยเพื่อจะรับชมการแสดงความสามารถของสตรีผู้นั้นอย่างใจจดใจจ่อเชียวล่ะ หากเดาไม่ผิดการที่นางเดินทางไปที่กิลล์ข้อมูลมิใช่ว่านางจะต้องพบเจอองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ?
หากว่าสองคนนั้นพบเจอกันจริงๆ ท่าทางว่าชีวิตของเขาคงจะมีเรื่องสนุกๆ เป็นแน่
“น่าเสียดายนิดหน่อยตรงที่นางไม่มีญาติที่ไหน ไม่อย่างนั้นการได้เห็นนางสูญเสียคนที่รักไป คงทำให้ข้าเพลิดเพลินใจได้ไม่น้อยเลย”
เซอร์ลูอิสเทไวน์ใส่แก้ว ก่อนที่เขาจะนำไปวางเบื้องหน้าของนายท่านที่เขาเคารพนับถือในทุกลมหายใจ
นายท่านไม่ได้เก่งกาจมาตั้งแต่เกิด เพียงแต่สิ่งที่นำพานายท่านให้มายืนอยู่ในจุดที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านเช่นนี้มันมาจากความพยายามของตัวนายท่านเองล้วนๆ เลย
ชายผู้ซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางลมพายุของทุกฝ่าย แต่กลับไม่โอนเอนเลยสักนิด คิลเลียนสามารถยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้ สง่างามและ..เฉลียวฉลาดที่สุด
“ลูอิส วันนี้ยังมีงานที่ไหนอีกรึเปล่า?”
เซอร์ลูอิสเดินไปเปิดดูกำหนดการนัดหมายของนายท่านดู
“ไม่มีครับ หลังจากเสร็จงานแล้วนายท่านสามารถกลับไปที่โอนิกซ์ได้เลย หรือว่านายท่านอยากจะไปชมละครโอเปร่าไหมครับ กระผมจะจองที่นั่งเอาไว้ให้”
คิลเลียนส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่ล่ะ วันนี้หากเป็นไปได้ข้าอยากจะกลับเร็วหน่อย”
ลูอิสก้มหน้าลงเพื่อรับคำสั่งของนายท่าน
“เช่นนั้นกระผมจะแจ้งไปทางพ่อบ้านของโอนิกซ์ให้จัดเตรียมมื้อเย็นเร็วหน่อยดีไหมครับ นายท่านจะได้พักผ่อน”
คิลเลียนยกมุมปากขึ้นมา
“ไม่ใช่โอนิกซ์แต่เป็นเซอเรียลต่างหาก ข้าจะไปที่นั่นแต่เจ้าไม่ต้องแจ้งเจนเอาไว้หรอกนะ เพราะว่าข้าอยากเห็นใบหน้าที่ประหลาดใจของ...ฟาเดลน่ะ”
ใบหน้านั้นน่าจะห่างไกลคำว่าประหลาดใจมากพอสมควร เพราะว่านางน่าจะหวาดกลัวเขาเสียมากกว่า
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ในช่วงเวลาที่ฝนตกลงมาเขามักจะคิดถึงใบหน้าของนางอยู่ร่ำไป ทั้งๆ ที่เขาควรจะปล่อยให้นางตายไปตรงนั้น..
แต่ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้เดินเข้าไปหานางพร้อมกับอุ้มนางเข้าไปในคฤหาสน์ของท่านแม่ที่เขาไม่เคยเหยียบย่ำเข้าไปเลยตั้งแต่ที่เขาได้รับตำแหน่งท่านเคาน์
บ้านที่เขาไม่เคยนึกอยากจะไปแต่ในวันนี้เขากลับอยากไปที่นั่น..เพราะใบหน้าสวยๆ หรือว่าเพราะเขาคิดถึงท่านแม่กันนะ